ก.คมนาคมเร่งแก้ปัญหาผลกระทบทางเสียงของสุวรรณภูมิ

นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวในรายการ “สายตรงทำเนียบ” ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาผลกระทบทางเสียงของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า ขณะนี้มีประชาชน 4 รายที่ได้รับผลกระทบทางเสียงได้มาติดต่อขอรับเงินค่าชดเชยจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. แล้ว แต่มีประชาชนในกลุ่ม 71 ราย ยังไม่พอใจหลักเกณฑ์ในการประเมินผู้ที่ได้รับผลกระทบทางเสียง จึงได้นำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการดำเนินกิจการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้ปรับเพิ่มขึ้น เช่น ไม่มีการหักค่าเสื่อมราคา และบวกเพิ่มค่าการตลาด ทำให้ค่าชดเชยเพิ่มขึ้น โดยในกรอบเบื้องต้นค่าชดเชย 71 ราย เดิมตั้งไว้ 380 ล้านบาท จะขึ้นมาเป็น460 ล้านบาทโดยประมาณ แต่ทั้งนี้ในรายละเอียดทาง ทอท. จะพิจารณาเป็นราย ๆ ไป
ส่วนการซ่อมแซมรันเวย์และแท๊กซี่เวย์นั้น จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ามีปัญหาน้ำใต้รันเวย์ ซึ่งจะมีการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบทั้งระบบ คาดว่าจะว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ และใช้เวลาอีก 6 เดือนในการตรวจสอบว่าความผิดพลาดเกิดจากอะไร และความรับผิดชอบน่าจะเป็นของหน่วยงานใด
นอกจากนี้ ปัญหาภายในอาคารผู้โดยสาร เช่น การเช่าพื้นที่ของบริษัท คิงเพาเวอร์ ปัญหาหลังคารั่ว ซึ่งจะเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก อย่างบริษัท คิงเพาเวอร์ ทาง ทอท. ได้แจ้งว่าสัญญาเป็นโฆฆะไปแล้ว ถ้าหากเราปรับพื้นที่ได้การปรับแบบต่าง ๆ ให้มีความสะดวกและปลอดภัยกับผู้โดยสาร ก็ได้เร่งรัดดำเนินการอยู่ รวมไปถึงระบบขนส่งที่เข้า-ออกสุวรรณภูมิ เช่น แท็กซี่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบว่าจะปรับระบบอย่างไรให้เกิดความสะดวกมากขึ้น และปัญหาแท๊กซี่ที่ไม่ถูกกฎหมายด้วย โดยเน้นเรื่องของความมีระเบียบ ความปลอดภัยและความสะดวก
ส่วนเรื่องคลังสินค้าที่เรียกว่า Free Zone นั้น ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการดำเนินกิจการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) ได้เห็นชอบในหลักการให้มีการจำแนกคลังสินค้าปลอดอากรและคลังสินค้าสำหรับส่งออกและนำเข้าสินค้าปกติออกจากกันให้ชัดเจน โดยจะเสนอเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ และจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้งในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ คาดว่าภายใน 1 เดือนจะมีความชัดเจน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--