นายกรัฐมนตรีเชื่อประชาชนส่วนใหญ่ไม่สนับสนุนให้มีการชุมนุม

ข่าวกฏหมายและประกาศ Saturday June 23, 2007 15:17 —สำนักโฆษก

          วันนี้ เวลา 08.00 น. ณ บ้านพิษณุโลก พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการ "เปิดบ้านพิษณุโลก" ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ เป็นครั้งที่ 7 โดยมีนายกิตติ สิงหาปัด เป็น ผู้ดำเนินรายการ
ผู้ดำเนินรายการ สวัสดีครับ ขอต้อนรับเข้าสู่รายการ "เปิดบ้านพิษณุโลก" ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 7 เจ้าของบ้าน คือ ท่านนายกรัฐมนตรีได้ให้เกียรติกับผม กิตติ สิงหาปัด ได้เข้ามาพูดคุยกับท่านในสัปดาห์นี้ มีหลายเรื่องเกิดขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ความจริงท่านนายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามในที่ต่างๆ มาแล้วบางส่วน แต่ว่าผมคิดว่ายังมีรายละเอียดบางเรื่อง ซึ่งเราจะต้องคุยกับท่าน และท่านอยากจะพูดกับประชาชนต่อในเสาร์นี้ ขอทุกท่านพบกับท่านนายกรัฐมนตรี สวัสดีครับ
นายกรัฐมนตรี สวัสดีครับ
การแก้ปัญหาในพื้นที่ภาคเหนือ
ผู้ดำเนินรายการ วันพฤหัสบดีท่านเพิ่งกลับมาจากปฏิบัติภารกิจทางภาคเหนือ ไปเยือนถึงถิ่นเก่าของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปฏิกิริยาของคนในภาคเหนือทุกวันนี้เป็นอย่างไร
นายกรัฐมนตรี ที่ผมได้ไปเยี่ยมก็คงเป็นเรื่องที่คิดว่าจะไปช่วยทำให้การแก้ปัญหาในพื้นที่ทางภาคเหนือลดลง ที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นเรื่องที่มีผลกระทบจากสภาวะอากาศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหมอกควัน เรื่องของน้ำท่วม ซึ่งต่อเนื่องมาจากปีที่ผ่านมา ไปดูว่าสิ่งที่ได้ตกลงว่าจะทำอะไรกัน คืบหน้าไปแค่ไหน อย่างไร
ผู้ดำเนินรายการ แล้วคืบหน้าดีหรือไม่ครับ
นายกรัฐมนตรี เริ่มมีความก้าวหน้าไปเป็นลำดับ การที่จะมีการลำน้ำปิงให้ได้ตามขนาดที่ต้องการ การปรับพื้นที่บางส่วนซึ่งเป็นพื้นที่ของส่วนราชการ ได้ทำความตกลงกัน และเริ่มดำเนินการ ซึ่งนับว่าจะเป็นความก้าวหน้าในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่ทำได้ ในส่วนที่สองเป็นเรื่องของกระทรวงแรงงาน ซึ่งได้เปิดศูนย์ในเรื่องของการที่จะเพิ่มฝีมือแรงงานที่อำเภอสันกำแพง ชาวบ้านก็มีความยินดี ที่ผมเห็นคือเมื่อมีความเจริญเข้าไปในท้องถิ่น เขาก็ยินดี อยากจะเห็นความเจริญก้าวหน้า ในส่วนของผมเอง เขาก็บอกว่าเห็นแต่ในโทรทัศน์ ได้เห็นตัวจริง ก็ไม่ได้มีอะไร ผมก็บอกว่าผมไม่มีความตั้งใจอะไรมากมาย อยากที่จะมาสร้างความเจริญให้ แล้วก็พูดกับชาวบ้านตรงไปตรงมาว่าอยากให้ได้ช่วยกันก้าวไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย ให้มีการเลือกตั้งตามที่ได้กำหนดไว้
การเลื่อนวันลงประชามติและวันเลือกตั้ง
ผู้ดำเนินรายการ ผมเชื่อว่าท่านนายกรัฐมนตรี เวลาลงไปพื้นที่ หรือพบปะประชาชน หรือฟังเสียงจากคนโดยทั่วไป คงจะประเมินด้วยตนเองอยู่บ้าง เรื่องความรู้สึกของเขา หรือปฏิกิริยาของเขาที่มีต่อการทำประชามติรัฐธรรมนูญ หรือรัฐธรรมนูญใหม่ก็ดี ท่านนายกรัฐมนตรีคิดว่าจะไปในทางบวกหรือไม่ เช่น ท่านนายกรัฐมนตรีอยากจะให้มีการเลือกตั้งเร็วขึ้น จะเป็นไปได้หรือไม่
นายกรัฐมนตรี ที่ได้มีการหารือกันแล้ว โอกาสที่จะเป็นไปได้มีค่อนข้างมาก เนื่องจากว่าสิ่งที่ได้ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันอย่างที่ได้ทราบ ในเรื่องของการร่างรัฐธรรมนูญก็ดี ในเรื่องที่ทางสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จะมีการลงมติ ซึ่งคงจะไม่เกินวันที่ 6 กรกฎาคม 2550 ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็บอกว่าการทำประชามตินั้น สามารถทำให้เร็วขึ้นมาได้ โดยที่มีขั้นตอนอยู่ อันเดียว คือขั้นตอนที่จะทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ ซึ่งในขณะนี้ ผมคิดว่าการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ของการอภิปรายของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ทำให้ประชาชนได้ติดตาม และเข้าใจว่าแต่ละหมวดซึ่งมีความสำคัญ ประเด็นอยู่ตรงไหน ตรงนี้จะเป็นส่วนที่จะเป็นการสร้างความเข้าใจ การที่จะพิมพ์เอกสารแล้วนำไปให้อ่าน ผมยอมรับว่าผมคงอ่านไม่ครบ ผมอ่านเฉพาะหมวดที่ผมสนใจ
ผู้ดำเนินรายการ ท่านนายกรัฐมนตรีประเมินแล้วคิดว่าน่าจะผ่านหรือไม่ในเรื่องประชามติ
นายกรัฐมนตรี ผมได้ตอบไปแล้วว่าอยู่ที่ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นว่า อยากให้ลองเปรียบเทียบกันดูระหว่างสิ่งที่เห็นอยู่ข้างหน้ากับสิ่งที่ไม่ได้เห็น แล้วท่านจะเลือกอย่างไร
ผู้ดำเนินรายการ ทำไมปฏิกิริยาจาก ส.ส.ร. บางส่วนก็ดี จาก สนช. บางส่วนก็ดี ไม่ค่อยตอบรับกับความพยายามอยากให้มีการเลือกตั้งเร็วของท่านนายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรี ผมคิดว่าคงไม่ได้เป็นเรื่องที่สำคัญ อาจจะมีข้อคิดเห็นหรืออะไรต่างๆ แต่ผมคิดว่าส่วนใหญ่แล้วน่าจะเห็นด้วย
ผู้ดำเนินรายการ ท่านนาวาอากาศตรีประสงค์ สุ่นศิริ บอกว่าไม่อยากให้เร็ว ถ้าเร็วต้องคิดดีๆ เดี๋ยวอำนาจเก่ากลับมา เดี๋ยวจะอะไรไม่ทันทำนองแบบนี้
นายกรัฐมนตรี ในขั้นตอนของการทำงาน ผมคิดว่าเมื่อทุกฝ่ายได้หารือกันก็อยู่ในแนวทางที่สามารถจะทำได้
ผู้ดำเนินรายการ อย่างเช่นความพยายามที่รัฐบาลเสนอวันก่อนเรื่องประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชา ธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 15 พอเข้า สนช. ก็ไม่ได้ 3 วาระรวดอย่างที่รัฐบาลต้องการ
นายกรัฐมนตรี อยู่ที่ทางฝ่ายนิติบัญญัติ ทางฝ่ายบริหารเห็นว่า ในการแก้ไขอันนี้ ถ้าจะให้มีการใช้ชื่อพรรคเดิม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประกาศนี้ แต่ไปขึ้นอยู่กับพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้ดูแล คำตอบได้ตอบออกมาอย่างชัดเจนว่าในขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบบัญชีของพรรคการเมือง ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของพระราชบัญญัติพรรคการเมืองฉบับนั้น เมื่อยังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบ ยังไม่สามารถจะใช้ชื่อพรรคเดิมได้
ผู้ดำเนินรายการ แต่เขาน่าจะตั้งพรรคใหม่ ถ้าชื่อใหม่น่าจะตั้งทันใช่หรือไม่
นายกรัฐมนตรี ถึงแม้ว่าจะมีการตั้งกรรมาธิการพิจารณาเรื่องที่ขอแก้ไขคำสั่ง คปค. เมื่อมีการแก้ไขแล้วก็ยังสามารถทำได้ทัน ถ้าดำเนินการภายในห้วงของเดือนกรกฎาคม 2550 ผมคิดว่าทัน
ผู้ดำเนินรายการ ทุกวันนี้ สนช.กับรัฐบาลได้สนับสนุนรัฐบาลมากน้อยแค่ไหน เช่น อย่างน้อยมี 2 พระราชบัญญัติ ซึ่งผมรู้สึกว่า สนช. ไม่ตรงกับรัฐบาล เช่น ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เหล้า หรือโชคดีที่ ร่าง พ.ร.บ. องค์กรชุมชนไม่ได้เข้าไปเพื่อทดสอบอีกฉบับหนึ่ง จริงๆ แล้วหลังจากขาดอาจารย์ประสิทธิ์ โฆวิไลกูล ไป คนที่ประสานกับ สนช. ถือว่ามีปัญหาหรือไม่
นายกรัฐมนตรี ไม่มีครับ ทำได้ดี เพราะเรามีคณะกรรมการประสานงานที่ทำงานด้วยกันอยู่แล้ว แล้วเราจะเลือกเฉพาะกฎหมายที่ถือว่ามีลำดับความเร่งด่วนและมีความสำคัญของแต่ละกระทรวงที่จะนำเข้าไป เราคงไม่สามารถที่จะนำสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบันทั้งหมด ไม่ว่าจะในส่วนที่ในการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่จะนำเข้าไปทั้งหมดได้นั้น คงจะไม่ได้ แม้แต่คณะกรรมการกฤษฎีกาคงจะไม่สามารถพิจารณาได้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาสั้นๆ ขณะนี้ได้มีการดำเนินการที่จะจัดลำดับความเร่งด่วนตรงนี้ แล้วจะนำเข้าเฉพาะร่าง พ.ร.บ. ที่มีความสำคัญเท่านั้น
ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจการทำงานของรัฐบาล
ผู้ดำเนินรายการ ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงการชุมนุมของกลุ่มชุมนุมที่ท้องสนามหลวง 24 มิถุนายนนี้ขนาดไหนครับ
นายกรัฐมนตรี ผมไม่เป็นห่วง ที่ใช้คำว่าไม่เป็นห่วงเพราะว่าเท่าที่ได้ติดตาม ผมคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่ เรากำลังจะก้าวไปข้างหน้า ส่วนในเรื่องของการคัดค้านนั้น เป็นเรื่องที่มองเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนว่าไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนส่วนใหญ่มากนัก นี่เป็นปัจจัยที่ผมคิดว่า เป็นเครื่องชี้วัดที่เห็นชัดว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการอย่างนั้น
ผู้ดำเนินรายการ เท่าที่ดูประชาชนอาจจะไม่ได้ว่ารัฐบาล คือเข้าใจว่ากลุ่มคัดค้านพยายามแยกรัฐบาลออกจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) คือไม่ได้โจมตีรัฐบาลมากมาย แต่กลับไปมีปัญหา คือโจมตี คมช. ซึ่งท่านคิดว่าจะมีปัญหาระหว่างรัฐบาลกับ คมช. หรือไม่ครับ
นายกรัฐมนตรี ไม่มีครับ ผมเองก็ถูกโจมตี ผมก็รู้ดี แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องที่มีความสลักสำคัญอะไร เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อมาอยู่ตรงนี้แล้วต้องเปื้อนกันบ้างเป็นธรรมดา
การซื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นสิทธิของพ.ต.ท.ทักษิณ
ผู้ดำเนินรายการ สัปดาห์นี้คนที่ติดตามเรื่องของคุณทักษิณ ชินวัตรก็ยังมีเรื่องให้ติดตามหลายเรื่อง หลังสุดมีข่าวว่าสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ยอมรับข้อเสนอให้ซื้อแล้ว ท่านนายกรัฐมนตรีมองเรื่องนี้อย่างไร
นายกรัฐมนตรี ที่ผมตอบเมื่อวานนี้คือเป็นเรื่องของคุณทักษิณฯ คุณทักษิณฯ ยังมีเงินอยู่ แล้วมีเงินพอที่จะไปลงทุน ก็เป็นสิทธิ คุณทักษิณฯ เป็นผู้ที่ชอบลงทุนในด้านต่างๆ อยู่แล้ว
ผู้ดำเนินรายการ จะมีผลลบในเชิงจิตวิทยามวลชนมาสู่ประเทศหรือไม่
นายกรัฐมนตรี ไม่มีครับ ไม่มีแน่นอน แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าจะถูกอายัด แต่คุณทักษิณฯ ก็ยังมีอีกมาก
ผู้ดำเนินรายการ มองด้านบวกอย่างนั้นก็ได้ คิดไหมว่าทำไมเอาเงินไปซี้อสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำไมไม่ซื้ออย่างอื่นในประเทศไทย เอาเงินมาอยู่ในประเทศไทย
นายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องอย่างที่บอกแล้วว่าคุณทักษิณฯ ตัดสินใจ เป็นสิทธิ
ผู้ดำเนินรายการ ในแง่ผลบวกอาจจะส่งได้ว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไรมากเกินไป ใช่ไหมครับ
นายกรัฐมนตรี ใช่ครับ อยู่ในกรอบ อย่างที่ผมเรียนแล้วว่ารัฐบาลทำงานอยู่ในกรอบของนิติธรรม สิ่งใดที่เป็นไปตามกฎหมาย เราก็ถือว่าเราต้องช่วยกันที่จะให้เป็นไปตามนั้น สิ่งใดที่ไม่ได้อยู่ในกรอบของนิติธรรม เราก็จะไม่เข้าไปก้าวก่าย เพราะสิทธิ์ของแต่ละคน
ผู้ดำเนินรายการ เวลาท่านนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ในเรื่องแบบนี้หลายครั้ง เท่าที่ผมสังเกตว่า รัฐบาลไม่ได้ยุ่งเกี่ยว รัฐบาลยึดหลักนิติธรรม ทุกอย่างต้องขึ้นสู่กระบวนการศาล พวกที่ใจร้อนจะรู้สึกว่าท่านนายกรัฐมนตรีไม่ได้เอาจริงเอาจัง ทำไมไม่ช่วย อุตส่าห์ปฏิวัติมา ล้างอำนาจเก่า อะไรแบบนี้ ท่านนายกรัฐมนตรีรู้สึกขาดความเป็นตัวของตัวเองในการทำงานลักษณะแบบนี้
นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ขาดความเป็นตัวของตัวเอง เพราะว่าผมยืนอยู่บนหลักการ อย่างที่ว่าหลักนิติธรรม ถ้าเราไม่ยึดหลักสิ ต่อไปเราจะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ เพราะว่าแต่ละคนมีมาตรฐานคนละส่วน ถ้าใช้มาตรฐานของตัวผมเอง คงจะไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมากนัก ต่อกรณีเรื่องของหลักนิติธรรมจะเห็นว่า แม้กระทั่งที่ศาลปกครองกลางได้มีมติคุ้มครองกรณีของพลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา รัฐบาลไม่ได้เสียหายอะไร
ผู้ดำเนินรายการ เป็นปัญหากับท่านนายกรัฐมนตรีหรือไม่
นายกรัฐมนตรี ไม่ได้เป็นปัญหากับผม
ผู้ดำเนินรายการ แล้วรู้สึกเสียหน้าหรือไม่
นายกรัฐมนตรี ไม่มี เพราะว่าถือว่าได้สั่งดำเนินการไป ถ้าทางฝ่ายศาลเห็นว่าไม่ถูกต้อง จะมีการคุ้มครองก็ว่ากันไป ส่วนภาครัฐก็คงจะต้องของอุทธรณ์
ผู้ดำเนินรายการ ถ้าถึงอุทธรณ์แล้วแพ้อีก ทำอย่างไรต่ออีก
นายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องธรรมดา ถ้าแพ้ก็คงเป็นเรื่องที่ศาลตัดสิน
ผู้ดำเนินรายการ ตำแหน่งท่านโกวิทฯ ยังคงอยู่ที่เดิม ถ้าเป็นอย่างนั้น
นายกรัฐมนตรี ก็อยู่ที่เดิม แต่พ้นจากหน้าที่ในส่วนของท่านมาแล้ว
ผู้ดำเนินรายการ แต่จัดตั้งท่านพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ไม่ได้ใช่ไหม
นายกรัฐมนตรี ในขณะที่อยู่ในปัจจุบัน
ผู้ดำเนินรายการ ท่านเสรีพิศุทธ์ฯ รักษาการไป ท่านโกวิทฯ ยังมีตำแหน่ง แต่งานไม่ได้ทำ
นายกรัฐมนตรี ถูกต้อง
ผู้ดำเนินรายการ แต่ไม่ได้มีปัญหาในเชิงบริหารของตำรวจ
นายกรัฐมนตรี ไม่มี
แนวทางการแก้ปัญหาภาคใต้
ผู้ดำเนินรายการ เรื่องภาคใต้ เหตุการณ์ยังคงรุนแรงมากต่อเนื่อง หลังสุดเราเสียท่านนายอำเภอที่ไม้แก่นไป ท่านนายกรัฐมนตรีคิดว่าสิ่งที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้นตอนที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ มาถึงวันนี้ รัฐบาลเอง คมช. เองได้ทุ่มเทเต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์เพียงพอหรือไม่
นายกรัฐมนตรี ในเรื่องของการทุ่มเท ผมคงพูดได้ในส่วนของรัฐบาล รัฐบาลได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่ คมช. คงไม่ได้เกี่ยวข้องในส่วนนี้
ผู้ดำเนินรายการ เห็นบอกว่า คมช. ดูแลความมั่นคง
นายกรัฐมนตรี คมช. ที่ว่านั้นก็ทำงานในฐานะรัฐบาล เพราะว่าในฐานะของผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(ผอ.รมน.) และมอบงานลงไปตามสายงาน ถึงแม้ว่าเป็นผู้บัญชาการทหารบกเอง ก็อยู่ในกรอบของข้าราชการ ซึ่งก็คงจะต้องฟัง ในเรื่องของ คมช. เป็นเรื่องทางการเมืองเท่านั้นเอง คมช. ผมบอกได้ว่า ถ้าผมทำอะไรที่พลาด คมช. มีอำนาจที่จะถอดถอนผม นั่นก็เป็นเรื่องที่ปรากฏอยู่ใน รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวอยู่แล้ว นั่นเป็นเรื่องทางการเมือง แต่พอมาทำงานในกรอบของรัฐบาลแล้ว ฝ่ายความมั่นคงก็อยู่ภายใต้นายกรัฐมนตรี
ผู้ดำเนินรายการ ผมได้ยินท่านพลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน พูดว่าในเชิงยุทธศาสตร์อาจจะชนะ แต่ยุทธวิธียังต้องปรับอีกมาก หลังสุดเห็นความพยายามที่จะส่งทหารพรานลงไปอีกมากพอสมควร อาจจะใส่งบประมาณ ใส่อะไรเข้าไป เราจะใส่เข้าไปอีกเท่าไรจึงจะหยุดความรุนแรงที่นั่นได้
นายกรัฐมนตรี ผมประเมินไม่ได้ คงจะต้องเป็นฝ่ายที่ปฏิบัติ คือการที่จะเพิ่มอะไรต่างๆ ขึ้นมานั้น เป็นเรื่องที่ฝ่ายปฏิบัติที่จะต้องพิจารณา แล้วเสนอขึ้นมา รัฐบาลก็จะเป็นผู้พิจารณา ยกตัวอย่างว่า ในเรื่องของกำลัง ส่วนมากแล้วกำลังผมจะไม่ขัดข้อง ว่าจะเพิ่มกำลังเท่านั้น เท่านี้ ซึ่งจะมาดูในเรื่องของงบประมาณ ตรงนี้จะมีการพิจารณากันว่า เรามีอยู่ในกระเป๋าเท่าไร เรามีพอที่จะทำไหม มีอะไรที่จะมาทดแทนได้บ้าง เป็นเรื่องที่ถือว่าเป็นการบริหารงานของภาครัฐในสถานะที่จำเป็นจะต้องวางความสนใจไว้ที่นั่น แต่ว่าทรัพยากรของเรามีจำกัด เราจะทำอย่างไรที่จะไปแก้ไขปัญหาในส่วนนั้นให้ได้ตามที่เราต้องการ
ผู้ดำเนินรายการ คุณสะแปอิง บาซอ จะส่งสัญญาณออกมาผ่านอะไรบางอย่าง อยากจะเจรจากับ รัฐบาล ท่านนายกรัฐมนตรีบอกว่าขอคุยแต่ไม่ใช่เจรจา เป็นอย่างไรคำว่าขอคุยแต่ไม่ใช่เจรจา
นายกรัฐมนตรี คุยหมายถึงว่าในเบื้องต้นถ้ามีการคุยกันได้ เราจะได้หากรอบ คือจะมีเงื่อนไข
ผู้ดำเนินรายการ ใครจะเป็นคนคุยในฝ่ายรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี ในขณะนี้ยังเปิด เพราะยังไม่มีใครติดต่อ จะถามว่าใคร ก็ต้องมีข้อมูล ผมก็ยังไม่มีข้อมูล
ผู้ดำเนินรายการ เขาจะต้องติดต่อมากับรัฐบาลใช่หรือไม่
นายกรัฐมนตรี เราก็พยายามติดต่ออยู่ แต่ว่าไม่มีการตอบรับมาตามช่องทางที่เราได้พยายาม มีข่าวมาจากเพียงหนังสือ ซึ่งเราก็ไม่ได้รับมาโดยตรง หรือถ้าบอกว่าผมจะติดต่อกับข่าวสดไหม ผมก็คงไม่ติดต่อ
ผู้ดำเนินรายการ แต่นโยบายรัฐบาลของท่านนายกรัฐมนตรี หรือตัวท่านเองก็ดี ไม่ได้ปิดทางเจรจา ที่ฝ่ายความมั่นคงบางส่วน เท่าที่ผมจับกระแส คล้ายๆ กับว่าก็ไม่อยากจะยกระดับของการพูดคุยขึ้นมา อันนี้ท่านไม่ได้ขัดข้องอะไร
นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ปิดครับ ในเรื่องของการพูดคุย เรามาดูกันก่อนว่า มีกรอบอย่างไร ถ้าเผื่อว่าเราไม่ยอมคุยกัน ก็หากรอบไม่ได้ กรอบที่ว่านี้จะนำไปสู่ขั้นตอนของการเจรจาต่อไป คือจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เป็นแนวคิดที่มีเป้าหมายเฉพาะในแต่ละเรื่องบ้าง จะเห็นชัด แต่การพูดคุยหมายถึงว่ามาพูดกว้างๆ มาถามกันว่า คุณจะเอาอย่างไร ทางรัฐบาลคิดว่าจะเปิดให้พูดคุยกันไหม กรอบของทางรัฐบาลมีอย่างไร ทางฝ่ายคุณมีอะไรบ้าง จะได้มาแลกเปลี่ยนกัน
ผู้ดำเนินรายการ ถามจริงๆ ใน 6 เดือนที่เหลือท่านนายกรัฐมนตรีคิดว่าความรุนแรงจะลดลงหรือไม่ในวันที่ท่านก้าวออกจากตำแหน่ง
นายกรัฐมนตรี ผมตอบไม่ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องอยู่ที่หลายๆ ฝ่ายที่ทำงานร่วมกัน ผมคงไปคิดเรื่องอนาคต ถ้าจะเรียกว่าประเมิน หรือว่าจะเป็นหมอดู หมอเดาอย่างไร คงไม่ได้ เป็นสิ่งที่เราจะต้องพยายาม ถ้าเรายังดำรงความมุ่งหมายที่จะแก้ไขปัญหา ผมคิดว่าในอนาคตเรามีโอกาสที่จะแก้ได้
ผู้ดำเนินรายการ เราจะพักช่วงนี้ไว้สักครู่ เดี๋ยวกลับมายังมีสิ่งที่ต้องถามท่านนายกรัฐมนตรีหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจในเวลา 6 เดือนที่เหลือ ครึ่งปีหลังก็ดี เรื่องที่ท่านจะไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศอินเดียก็ดี จะไปทำอะไรที่นั่น เดี๋ยวกลับมาครับ
เหตุผลในการเสนอร่างพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงฯ
ผู้ดำเนินรายการ กลับเข้ามาสู่รายการ "เปิดบ้านพิษณุโลก" ท่านนายกรัฐมนตรีครับ ต่อจากเรื่องภาคใต้ สัปดาห์นี้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร จริง ๆ แล้วถ้าสมมติออกได้เร็วกับเหตุการณ์ภาคใต้ พ.ร.บ.นี้จะมีประโยชน์อะไรไหม
นายกรัฐมนตรี คงมีความเกี่ยวข้องกัน เบื้องต้นเราพยายามที่จะเสนอร่าง พ.ร.บ.ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งต้องถือว่าเป็นกฎหมายลูกของกฎหมายความมั่นคงภายในฉบับนี้ ขณะที่มีการพิจารณากันอยู่ในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้มีการอภิปรายว่า น่าจะเสนอกฎหมายแม่เข้ามาก่อน ถึงจะเสนอกฎหมายลูก นั่นเป็นเรื่องที่เป็นเหตุผล เราจึงจำเป็นจะต้องเสนอเข้าไป เพราะในขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายที่รองรับ ทั้งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เรามีแต่เพียงคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี คงไม่ได้เป็นเรื่องที่ถือได้ว่ามีอำนาจผ่านขั้นตอนของการพิจารณากลั่นกรองอย่างถูกต้อง นั่นเป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องดำเนินการ
ผู้ดำเนินรายการ นักสิทธิมนุษยชนก็ดี นักเคลื่อนไหว นักประชาธิปไตยบางส่วน ก็เริ่มออกมาไม่เห็นด้วยค่อนข้างมาก แม้แต่นักการเมืองว่าให้อำนาจผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (ผอ.รมน.) มากเกินไป ทำไมต้องรีบออกมาในช่วงนี้ รอไปหน่อย ให้รัฐบาลที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เข้ามาอภิปรายถกเถียงกันมากกว่านี้ไม่ได้หรือ
นายกรัฐมนตรี อย่าที่เรียนแล้วว่าเมื่อเป็นกฎหมายแม่ และ ศอ.บต. ที่เราจำเป็นจะต้องทำ เมื่อไม่มีกฎหมายรองรับ ศอ.บต. ก็อยู่ในฐานะซึ่งไม่สามารถจะทำงานได้เต็มที่ ก็เป็นปัญหาว่า เราจะแก้ปัญหาภาคใต้กันอย่างไร นั่นเป็นเหตุผลที่เราจำเป็นจะต้องนำเสนอเข้าไปถ้ามองในภาพกว้างแล้ว สถานการณ์ในเรื่องของความปลอดภัยของบ้านเมือง ก็เป็นเรื่องที่มีการปรับปรุงแก้ไขกันในหลาย ๆ ประเทศ ในส่วนของประเทศเพื่อนบ้านของเรา ซึ่งเขามีกฎหมายความมั่นคงภายในของเขามานานแล้ว จะเห็นว่าถ้ามีการเปรียบเทียบกัน ของเราเองจะอยู่ในระดับที่เบากว่า ไม่ได้มีการควบคุม ไม่ได้มีการบังคับอะไรมากมาย การมอบอำนาจให้กับ ผอ.รมน.จะเห็นว่าในหมวดที่ 1 นั้น ได้เขียนไว้ ชัดเจนว่าจะมีคณะกรรมการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นประธานคณะกรรมการนั้น ในการทำงานต่าง ๆ ต้องฟังจากคณะกรรมการ คณะกรรมการนั้นก็จำเป็นจะต้องนำมารายงานให้กับคณะรัฐมนตรีทราบว่าดำเนินการไปอย่างไรบ้าง นั่นเป็นภาพที่เราได้ร่างไว้ในหมวดที่ 1 เป็นความสัมพันธ์ของการทำงานว่า แต่ละส่วนจะเป็นอย่างไร
ผู้ดำเนินรายการ แต่ในทางปฏิบัติจริง สมมติว่ามองไปถึงรัฐบาลข้างหน้า อาจจะเป็นนายกรัฐมนตรีพลเรือน ซึ่งไม่ใช่ท่าน และมีผอ.รมน. เป็นทหาร ซึ่งใน พ.ร.บ.นี้ให้อำนาจค่อนข้างมาก จะมีปัญหากับรัฐบาลพลเรือน ซึ่งเมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินจะต้องเข้ามาคุมรัฐบาล อย่างนั้นจะสร้างปัญหาหรือไม่
นายกรัฐมนตรี คงไม่น่าจะมีปัญหา อย่างที่เรียนแล้วว่ามีคณะกรรมการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ท่านจะมอบอย่างไรก็ได้ บอกเรื่องนี้ทำไม่ได้ กอ.รมน.ก็ทำไม่ได้ เพราะว่าการสั่งการที่จะดำเนินนโยบายอะไร ผอ.รมน.ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติตามนโยบายต้องทำตามนั้น ถ้าจะไปทำนอกเหนือ ก็ถือว่านอกคำสั่งของคณะกรรมการ ซึ่งก็ผิด เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีก็หมายถึงว่า ถ้าไม่ทำตามคำสั่งคือผมจะย้ายคุณได้ เป็นการคานอำนาจกันอยู่ในตัว
สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างประเทศ
ผู้ดำเนินรายการ เรื่องความวุ่นวายทางภาคใต้ เรื่องความวุ่นวายทางการเมือง ถ้ายังไม่สงบจะกระทบกับเศรษฐกิจทุกครั้ง ซึ่งเราติดตามในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ใน 6 เดือนที่เหลือ ท่านนายก รัฐมนตรีตั้งใจจะกระตุ้นภาคเศรษฐกิจอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ให้บรรลุล่วงและอย่างน้อยก็ประคองเศรษฐกิจให้ได้ระดับนี้ต่อ
นายกรัฐมนตรี ในมหภาคจริง ๆ ผมคิดว่าอยู่ที่ความเชื่อ ความมั่นใจ อาจจะเรียกว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งเราจำเป็นจะต้องสร้างความเชื่อมั่นอันนั้น รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ในการที่จะสร้างความมั่นใจกับมิตรประเทศ ไม่เฉพาะในประเทศใกล้เคียง ในประเทศใกล้เคียงเองเราได้มีการติดต่อกันอย่างใกล้ชิด มีความร่วมมือทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม อย่างในส่วนของญี่ปุ่น จีน อินเดีย ซึ่งผมกำลังจะเดินทางไป ก็เป็นเรื่องซึ่งเรามองไปในอนาคต คงไม่ใช่ชั่วระยะเวลา 6 เดือน แต่เป็นระยะที่ยาวกว่านั้น ซึ่งเป็นการสานต่อสิ่งที่รัฐบาลในอดีตได้ดำเนินการกันมา และเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี
ผู้ดำเนินรายการ มีคนบอกว่าถ้ารัฐบาลอยากให้คนในต่างจังหวัด คนในชนบท รัก ต้องไปกระตุ้นเศรษฐกิจ ไปทำอะไรให้เขา ท่านมีอะไรที่จะทำเพิ่มไหม
นายกรัฐมนตรี ในขณะนี้ทำอยู่แล้วในเรื่องของโครงการอยู่ดีมีสุข ซึ่งขณะนี้งบประมาณเกือบ 5,000 ล้านบาทที่ลงไปถึงชาวบ้าน แต่ไม่ได้เป็นลักษณะที่ถือได้ว่าลงไปโดยที่ไม่มีโครงการรองรับ คือระดับหมู่บ้านจะต้องมีโครงการรองรับและจะนำไปทำตามนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องของบุคคล เป็นเรื่องของชุมชน มีคณะกรรมการหมู่บ้านเป็นผู้บริหารจัดการ เราเป็นคนคอยกำกับว่า เป็นไปได้อย่างที่ถูกต้อง ความคิดริเริ่มโครงการเป็นเรื่องของเขา
ผู้ดำเนินรายการ มีเม็ดเงินใหม่ ๆ จะลงไปเพิ่มมากกว่านี้หรือไม่
นายกรัฐมนตรี มีอีกครับ ในช่วงระยะเวลา 2 เดือนข้างหน้า คงลงไปอีกประมาณ 2,000 ล้านบาท โครงการนี้จะมีความต่อเนื่องไปในปี 2551 ซึ่งเราจะเพิ่มจากเงินประมาณเกือบ 10,000 ล้านบาท จะเพิ่มเป็นประมาณ 15,000 ล้านบาท ที่จะเป็นงบประมาณปี 2551
เดินทางเยือนอินเดีย 25 มิ.ย.นี้
ผู้ดำเนินรายการ เมื่อสักครู่ ท่านบอกว่ากำลังจะไปอินเดียวันจันทร์ (25 มิ.ย.) ท่านไปทำอะไรครับ
นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ ผมจะเดินทางไปอินเดีย เป็นเรื่องที่ถือได้ว่าได้มีการพูดจากัน ผมได้พบกับท่านนายกรัฐมตรีอินเดียเมื่อช่วงที่มีการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่เซบู ประเทศฟิลิปปินส์ ก็ได้พูดกันว่า อยากจะพูดคุยกัน ปัญหาที่ถือว่าเป็นความร่วมมือซึ่งกันและกัน คงเป็นทั้งในด้านของทวิภาคีและพหุภาคี ทวิภาคีคือเรากับอินเดีย ในเรื่องพหุภาคีคงเป็นเรื่องที่ถือว่ามีกลุ่มประเทศเอเชียใต้ ปัจจุบันเรามีชื่อที่เปลี่ยนใหม่แล้วว่า BIMSTEC (บังคลาเทศ อินเดีย พม่า ศรีลังกา ไทย) ซึ่งเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ที่ผมจะไปจะได้มีการพูดกันถึงว่า ความร่วมมือในภาคพหุภาคี เราจะทำอย่างไรกัน จะมีการพูดจากันในโอกาสข้างหน้าไหม สถานการณ์ทางการเมืองของกลุ่มประเทศที่ได้พูดถึงนี้มีความเหมาะสมที่จะพูดจากันหรือยัง
ผู้ดำเนินรายการ มีความตกลงใหม่ ๆ ที่จะไปลงนามกับเขาไหม
นายกรัฐมนตรี ในครั้งนี้คงเป็นเรื่องทั่ว ๆ ไป เป็นเรื่องของการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมอะไรต่าง ๆ อาจจะมีความคืบหน้าขยายตัวมากขึ้นกว่าเดิม เรื่องทางการค้าคงจะมีการเร่งรัดให้มีการค้าขายกันให้มากยิ่งขึ้น ให้เพิ่มปริมาณการค้าระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น
ผู้ดำเนินรายการ เวลาท่านนายกรัฐมนตรีไปต่างประเทศ ผมเข้าใจว่าเวลาเป็นรัฐบาลที่มาจากการทำรัฐประหาร อาจจะต้องถูกมองในแง่ใดแง่หนึ่ง โดยส่วนตัวท่านเอง ท่านรู้สึกความรู้สึกเหล่านี้ได้จากบรรดาเพื่อน ๆ ผู้นำหรือประชาคมประเทศที่ไปมาไหม
นายกรัฐมนตรี ถ้าในประเทศที่ผมพูดถึงโดยเฉพาะเพื่อน ๆ ในกลุ่มอาเซียนหรือประเทศในเอเชียด้วยกันเอง ไม่มีความรู้สึกเลย เพราะว่าทุกคนเข้าใจ แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีอินเดียก็เข้าใจ พบกับผมที่ฟิลิปปินส์ในช่วงต้น ๆ ท่านก็บอกว่าท่านเข้าใจ เราจำเป็นที่จะต้องพูดคุยกัน หาทางที่จะเสริมความร่วมมือต่าง ๆ ให้มากยิ่งขึ้นกันต่อไป
รัฐบาลพร้อมให้การดูแลความปลอดภัย พ.ต.ท.ทักษิณฯ
ผู้ดำเนินรายการ กลับมาที่เรื่องการเมืองในประเทศ เพราะตราบใดที่การเลือกตั้งยังไม่เกิด การชุมนุมยังอยู่คงจะเป็นเรื่องที่กวนใจคนอยู่ตลอดเวลา วันก่อนคุณทักษิณฯ ก็พูดกับบรรดาผู้สนับสนุนที่ท้องสนามหลวงว่า ยินดีที่จะคุยกับรัฐบาลเพื่อความสมานฉันท์ ท่านก็บอกว่าคุยได้ แต่เรื่องคดีไม่คุย สมมติถ้าคุณทักษิณฯ ยกโทรศัพท์มาหาท่าน ๆ จะคุยอะไรกับคุณทักษิณฯ
นายกรัฐมนตรี ก็อยู่ที่คุณทักษิณฯ ว่าอยากจะหารือเรื่องอะไร ส่วนใหญ่แล้วสิ่งที่ผมมีความคิดเห็นอยู่ในใจคือในเรื่องความสงบของบ้านเมือง ความเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะคุณทักษิณฯ ยังมีพลังอยู่กับผู้ที่ได้ทำงานร่วมกันมา สิ่งเหล่านี้คุณทักษิณฯ ช่วยได้
ผู้ดำเนินรายการ จะบอกให้คุณทักษิณฯ ขอให้ผู้ชุมนุมหยุด อย่างนี้ได้ไหม
นายกรัฐมนตรี คงไม่ถึงขนาดนั้น ว่าจะอย่างไรที่จะช่วยกันทำให้บ้านเมืองของเราเดินไปข้างหน้า ไปสู่จุดที่มีการเลือกตั้ง ผมว่านั่นเป็นสิ่งที่สามารถจะพูดคุยได้
ผู้ดำเนินรายการ ถ้าเผื่อคุณทักษิณฯ จะขอท่านนายกรัฐมนตรี อะไรที่จะทำให้ได้
นายกรัฐมนตรี สิ่งที่ผมทำให้ได้คือการดูแลในเรื่องของความปลอดภัย
ผู้ดำเนินรายการ สมมติต้องกลับมาสู้คดี
นายกรัฐมนตรี ใช่ครับ ก็ดูแลความปลอดภัยให้คุณทักษิณฯ ได้ ผมก็รับอย่างเต็มที่อยู่แล้วว่า ผม ยินดีที่จะดูแล
ผู้ดำเนินรายการ ทางโน้นจะพูดอยู่เสมอว่าถูกรัฐบาลกลั่นแกล้ง ถูกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กลั่นแกล้ง อันนี้ดูแลว่าขออย่ากลั่นแกล้งผม ท่านว่าอย่างไร
นายกรัฐมนตรี ผมก็บอกว่าผมไม่ได้กลั่นแกล้งอะไร เพราะเรื่องที่เป็นอยู่ในขณะนี้อย่างที่ผมได้พูดว่าเป็นผลจากการกระทำ เป็นกรรมที่คุณทักษิณฯ และพรรคพวกได้ทำมา เมื่อเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมก็คงต้องเป็นไปตามนั้น ส่วนการต่อสู้คงเป็นการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม เป็นกาต่อสู้ในชั้นศาล ซึ่งผมคิดว่าจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคุณทักษิณฯ ด้วยซ้ำไปที่จะพิสูจน์ตัวเอง ที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่ได้เป็นไปตามคำที่มีการกล่าวหา
ผู้ดำเนินรายการ คุณทักษิณฯ ควรกลับเข้ามาสู้คดีไหม
นายกรัฐมนตรี ผมคิดว่าควร
ผู้ดำเนินรายการ เวลาช่วงไหนที่เหมาะ
นายกรัฐมนตรี ผมไม่ทราบ ถ้าเป็นไปตามกฎหมายก็ต้องเป็นอย่างนั้นนะครับ ผมไม่ได้เป็นนักกฎหมาย ผมจะตอบไม่ได้ว่าช่วงไหน แต่ถ้าเขาบอกว่าจะต้องมารายงานตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาภายในวันนั้น ๆ
ผู้ดำเนินรายการ ควรจะต้องมา
นายกรัฐมนตรี ถ้ากฎหมายบอกว่าต้องมา ก็ต้องมา เพราะถ้าเผื่อไม่มา เขาก็เพิ่มเงื่อนไขเข้าไปอีก เพราะกฎหมายจะเป็นอย่างนั้น
ผู้ดำเนินรายการ มองจากทัศนะความมั่นคง จากทัศนะฝ่ายรัฐบาลแล้ว มาปลายเดือนนี้ไม่มีปัญหาใช่ไหมครับ
นายกรัฐมนตรี ไม่มีปัญหาครับ
ผู้ดำเนินรายการ รัฐบาลดูแลความปลอดภัยให้
(ยังมีต่อ)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ