นายกรัฐมนตรีเผยกำหนดการแก้ปัญหายางพาราเป็นวาระแห่งชาติ

ข่าวทั่วไป Friday September 19, 2014 14:21 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม กนย. กำหนดการแก้ไขปัญหายางพาราเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมอนุมัติเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางไร่ละ 2,520 บาท

วันนี้ (19 ก.ย.57) เวลา 10.50 น. ณ บริเวณตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ครั้งที่ 2/2557 ว่า วันนี้เป็นการประชุม กยน. ร่วมกัน 3 ส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นนิมิตหมายอันดี และการประชุมฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยได้มีการหารือเพิ่มเติมในสิ่งที่ได้มีการประชุมหารือกันมาตลอด โดยเฉพาะราคายางพารา วันนี้ก็ได้หารือกันถึงปัญหาต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว ซึ่งการทำงานดังกล่าวได้มีคณะทำงานโดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องดำเนินการมาชั้นหนึ่งแล้ว เพื่อ หาข้อสรุปก่อนนำเข้าหารือร่วมกันในที่ประชุมใหญ่อีกครั้ง

โดยวันนี้ ได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหายางพาราเป็นวาระแห่งชาติ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการผลิตยางพาราค่อนข้างมากในปัจจุบัน ซึ่งราคายางต่ำลงมาจากสาเหตุหลายประการ ทั้งสภาพเศรษฐกิจโลก การบริหารจัดการ ด้านการผลิต Demand Supply ฉะนั้นวันนี้ก็มีหลายมาตรการเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทั้งมาตรการเร่งด่วนเฉพาะหน้า การให้เงินทุนบริหารจัดการในการซื้อยางพาราให้กับสหกรณ์ ขณะเดียวกันก็มีมาตรการระยะกลางและระยะยาว ที่จะมีแผนดำเนินการกันต่อไป

อย่างไรก็ตามคิดว่าปัญหาเรื่องยางฯ คงจะมีอีก 2-3 ปี กว่าจะแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด เพราะปัญหานี้สะสมมานาน ทั้งเรื่องการส่งเสริมการปลูก การบริหารจัดการ การวิจัยพัฒนายาง และนำไปสู่การเพิ่มมูลค่า ของวัตถุดิบที่มีอยู่จำนวนมากในประเทศ ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายชวลิต ชูขจร) จะไปหารือร่วมกับประเทศผู้ผลิตยางในรูปแบบไตรภาคี ซึ่งเคยหารือไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะทำอย่างไรให้ราคายางของประเทศดีขึ้น เพราะเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ปลูกยางจำนวนมาก

ทั้งนี้ รู้สึกยินดีที่ได้รับความร่วมมือจากภาคเกษตร และผู้ปลูกยาง ซึ่งบางอย่างเขาต้องตัดต้นยาง หรือชะลอการกรีดยาง ทางเกษตรกรก็รับได้ ขณะที่ในส่วนเงินทุนต่าง ๆ ที่จะให้สหกรณ์กู้ยืมไปและขยายระยะเวลาก็สามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว ซึ่งคิดว่าวันนี้เป็นการหารือที่ดีมากและได้ขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งต้นทางผู้ปลูกยาง ส่วนกลางทางผู้รับซื้อ และนำไปสู่การผลิตในประเทศและส่งขายออกนอกประเทศ ส่วนปลายทางคือผู้รับประโยชน์ที่มีทั้งรัฐและประชาชนส่วนใหญ่ เพราะถือว่าเป็นเงินของภาครัฐ ฉะนั้นต้นทาง กลางทาง ปลายทางได้หมด วันนี้เราตกลงกันแล้วว่าจะขึ้นรถไฟสายยางพาราแห่งชาติขบวนเดียวกัน และต้องไม่ตกราง ต้องเป็นรถด่วนแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็ว

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางไร่ละ 2,520 บาท ได้มีการอนุมัติและเร่งรัดให้มีการดำเนินการให้ได้โดยเร็ว เพราะที่ผ่านมาต้องมีการตรวจสอบการขึ้นทะเบียนให้ชัดเจน ซึ่งตรงนี้เกษตรกรก็มีความพึงพอใจ ส่วนเรื่องเงินกู้ 5,000 ล้านบาทให้กับสหกรณ์ชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนได้ปล่อยกู้เพื่อจะไปรับซื้อยางมา ไม่ใช่ให้เฉพาะนายทุนอย่างเดียว รวมทั้งการขยายประเภทสหกรณ์ต่าง ๆ ให้มากขึ้น และเพิ่มในส่วนนิติบุคคลและเงินด้วย อย่างไรก็ตามยังต้องหารือกันต่อไปในเรื่องภาษีว่าจะทำอย่างไร หากราคายางพารายังเป็นเช่นนี้ เพราะไม่กล้ากู้กันกลัวว่าราคายางจะตกทำให้ขาดทุน กระทรวงการคลังก็ต้องรับไปดำเนินการจัดทำแผน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยางที่ค้างสต็อกอยู่จะปล่อยขายอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดำเนินการว่าควรจะขายหรือไม่ขายหรือจะขายเท่าไหร่ ก็ค่อยว่ากันอีกทีขึ้นอยู่กับราคาตลาด วันนี้ต้องทำให้ได้อย่างจริงจัง จริง ๆ มีนโยบายมาหลายรัฐบาลแล้ว แต่ไม่เคยทำได้ วันนี้ต้องทำให้ได้เรื่องการควบคุมพื้นที่ปลูกยาง วันนี้ต้องทำเหมือนจดทะเบียนแรงงานก่อน ต้องเช็คให้ได้ว่าปลูกยางกันจริง ๆ เท่าไหร่ เดี๋ยวจะให้กระทรวงทรัพย์นำดาวเทียม มาช่วยเช็คพื้นที่ปลูกยาง ใครอยู่ในพื้นที่กำหนด นอกพื้นที่ หรือใครบุกรุกป่าสงวน ปัญหาวันนี้คือบ้านเราข้อมูลไม่ตรงกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีเคยตั้งข้อสงสัยหรือไม่ว่าทำไมราคายางขึ้นลงตามรัฐบาลในแต่ละยุค นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่น่านะ เดี๋ยวจะต้องทำให้ราคายางขึ้น แต่ตอบไม่ได้ว่าจะให้ราคายางขึ้นแค่ไหน ต้องรอดู แต่ต้องขึ้น เดี๋ยวจะทำใหม่ ต้องเชื่อมั่น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งราคายางที่เหมาะสมไว้ที่ราคาเท่าไหร่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ราคายางตลาดโลกอยู่ที่เท่าไหร่ ก็ประมาณนั้นก่อน แล้วค่อย ๆ ขึ้นอีกทีหลัง อย่างน้อยไม่ให้รับซื้อต่ำกว่านั้น เรื่องราคายางมันค่อนข้างอ่อนไหวอย่างเพิ่งไปพูด

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนที่กระทรวงเกษตรเสนอแนวทางมาทั้ง 4 แนวทางที่ไปหารือกับผู้ประกอบการมา ที่ประชุม กนย. เห็นด้วยทั้งหมดหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เห็นด้วยทั้งหมด แต่ต้องพูดคุยกันต่อไป ต้องเข้าใจว่ารัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลปกติ ฉะนั้นในเมื่อตนไม่มีพรรคการเมืองไม่มีสังกัด ไม่มีอะไรต่าง ๆ ต้องดูแลทุกคน อะไรออกได้ออก อะไรทำให้ได้ก็ทำ อะไรเร่งรัดได้เร่ง มีเรื่องกฎหมาย เรื่องพ.ร.บ.2484 ยังมีอยู่ ที่ต้องไปแก้กันใหม่อีกทั้งระบบ การตั้งศูนย์วิจัยพัฒนาที่วันนี้มีศูนย์เดียว แล้วแยกกันทำงาน และจะเอาไปรวมกันทั้ง 3 ศูนย์ ก็ต้องแก้กฎหมายให้เป็นศูนย์ผลิตภัณฑ์วิจัยยางพารา เพื่อจะนำไปสู่การผลิต เพื่อยกระดับมูลค่าสินค้า ที่เราส่งไปเป็น 3 แสนล้านตันทุกปี หากเราเพิ่มมูลค่าการผลิตแล้ว มูลค่าสินค้าก็จะเพิ่มขึ้นอีก 3-4 เท่า เช่น ทำที่นอนยางที่ตนให้ออกแบบใหม่ให้มีปุ่มด้านหลัง จากเดิมที่เป็นลูกคลื่นอย่างเดียว เอาไปทำถนนก็ต้องสนับสนุน ฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกันระดมมากบ้างน้อยบ้างก็ได้ใช้ และทุกคนต้องมีส่วนร่วม

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเพิ่มมูลค่าการแปรรูปจะให้ต่างชาติมาร่วมลงทุนด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้ด้วย เพราะมีอยู่ในบีโอไอ วันนี้เราหนุนว่ามีพลังงานสะอาด มีพลังงานทดแทน ดูแลสาธารณูปโภคของตัวเองได้บ้าง อย่าให้มีน้ำเสีย มีการกำจัดขยะ ซึ่งได้มีการกำหนดเพิ่มไปแล้วในบีโอไอ การลงทุนถ้าใช้ผลผลิตภายในประเทศไทยเกิน 75 - 90 เปอร์เซ็นต์ อันนี้เราเร่งรัดให้ออกมาก่อน โดยเฉพาะเรื่องยาง เกี่ยวกับเรื่องผลิตภัณฑ์ที่มีวัตถุดิบจำนวนมาก ๆ วันนี้หลายบริษัทที่อนุมัติช่วงนี้ไม่ได้อนุมัติเรื่อยเปื่อย ที่ผ่านมาอนุมัติไป 4-5 แสนล้านบาท ปัจจุบันต้องเข้าโครงสร้างนี้หมด มีเครื่องจักรใหม่ หรือเครื่องจักรที่ปรับปรุงใหม่มาแล้ว ไม่ใช่อะไรก็ได้เข้ามาและก็มีปัญหา วันนี้จะแก้ไขหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ต้องมีการทบทวนนโยบายส่งเสริมการปลูกยางหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็พูดกันอยู่แล้ว ต่อข้อถามว่า แต่เดิมเคยให้มีการลดพื้นที่ปลูกยางปีละ 250,000 นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ทำได้ไหมล่ะ เดี๋ยวต้องหารือกัน คงต้องลด คุมกันให้ได้ก่อน

สำหรับในส่วนของเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ที่จะเดินทางมาชุมนุมเรียกร้องในกรุงเทพฯ วันที่ 8 ตุลาคมนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มาแล้ว คุยกันแล้วไม่มา เขาให้เวลาเราคุยกัน ซึ่งวันนี้เขาพอใจที่เรามาหารือกันทั้งระบบ ถือว่าเป็นคำสัญญาจากผู้แทนที่มาในวันนี้ จากสมาคมทั้งหมดที่เขาหารือกันมาแล้ว เราต้องทำงานกันทีละขั้นตอน ไม่ใช่ทั้งหมดมาอยู่ที่รัฐบาล หรือมาอยู่ที่รัฐมนตรี ไม่ได้ ข้างล่างก็ต้องคุยกันมา จับกลุ่มกันให้เรียบร้อย แล้วมาคุยกันก่อน เข้ากันมาทีละระดับ วันหน้าก็ต้องไปหาเจ้ากระทรวง เรื่องนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็คุยกับรัฐมนตรี ไม่ใช่เอาคนมาเดิน ไม่เอา หรือไม่ก็ส่งเรื่องมาถึงนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ต้องกลับไปสั่งรัฐมนตรีอีก วันนี้คุยกันแล้วว่าจะไปช่องทางไหน อันไหนจะไปกระทรวงพาณิชย์ อันไหนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอีกทีรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลจะกลั่นกรองให้นายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว วันนี้รัฐบาลทำแผนไว้หมดแล้ว เพียงแต่เรื่องเหล่านี้นายกรัฐมนตรีไม่ต้องการให้พูดเรื่องยางไปมากนักกว่าอะไรราคาเท่าไหร่ จะเป็นอย่างไรต่อไป จะส่งผลให้ราคายางตกได้

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ