คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในเรื่องแต่งตั้ง

ข่าวทั่วไป Tuesday October 7, 2014 11:10 —สำนักโฆษก

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในเรื่องแต่งตั้ง

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและเห็นชอบในเรื่องแต่งตั้ง

วันนี้ (7 ตุลาคม 2557) เมื่อเวลา 09.00 น. ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ ชั้น 3 สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและเห็นชอบในเรื่องแต่งตั้ง ดังนี้

1. เรื่อง การโอนข้าราชการมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (นักบริหาร ระดับสูง)

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตีเสนอรับโอนนายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักนายกรัฐมนตรี มาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้กำหนดชื่อในสายงานตามตัวบุคคลผู้ได้รับการแต่งตั้ง โดยยังคงตำแหน่งในสายงานเดิมและให้ผู้ได้รับแต่งตั้งได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และสิทธิประโยชน์อื่นที่ได้รับอยู่เดิม ทั้งนี้ ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุของทั้งสองหน่วยงาน ได้ตกลงยินยอมในการโอนแล้ว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

2. เรื่อง ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา (นักบริหาร ระดับสูง)

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอแต่งตั้ง นายดิสทัต โหตระกิตย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา (นักบริหาร ระดับสูง)สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา (นักบริหาร ระดับสูง) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

3. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงแรงงาน)

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 1 ราย คือ นายสุรเดช วลีอิทธิกุล ให้พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ (นักวิชาการแรงงานทรงคุณวุฒิ) สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวงสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงแรงงาน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

4. เรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเสนอแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จำนวน 12 คน ดังนี้ 1. หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล 2. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ 3. นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ 4. นายมนัส แจ่มเวหา 5. รองศาสตราจารย์ สมภพ มานะรังสรรค์ 6. นายบุญทักษ์ หวังเจริญ 7. นายมานิต รัตนสุวรรณ ผู้แทนองค์การเอกชน 8. นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ผู้แทนองค์การเอกชน 9. นายศิริชัย เลิศศิริมิตร ผู้แทนองค์การเอกชน 10. นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ผู้แทนองค์การเอกชนซึ่งประกอบการในภูมิภาค 11. นายบุญธรรม ทิพย์ประสงค์ ผู้แทนองค์การเอกชนซึ่งประกอบการในภูมิภาค 12. นางศมน ชคัตธาดากุล ผู้แทนองค์การเอกชนซึ่งประกอบการในภูมิภาค ทั้งนี้ ตั้งแต่ วันที่ 7 ตุลาคม 2557 เป็นต้นไป

5. เรื่อง คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 113/2557 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนและ เร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 113/2557 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล

โดยที่มาตรา 19 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 บัญญัติให้คณะรัฐมนตรีมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ดำเนินการให้มีการปฏิรูปในด้านต่าง ๆ และส่งเสริมความสามัคคีและความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ

รัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมุ่งเน้นการดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนและการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน สนับสนุนการปฏิรูปประเทศ เพื่อออกแบบและวางรากฐานในระยะยาวอันมั่นคงแก่ประเทศ เพื่อให้การดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลได้มีการนำไปปฏิบัติและบังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และมีการติดตามรายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรีจึงแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล เรียกโดยย่อว่า กขร. โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ดังนี้

องค์ประกอบ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) เป็นประธานกรรมการ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองที่ได้รับมอบหมาย เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ เลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้แทนกระทรวงกลาโหม ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนกระทรวงคมนาคม ผู้แทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้แทนกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ผู้แทนกระทรวงพลังงาน ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนกระทรวงแรงงาน ผู้แทนกระทรวงวัฒนธรรม ผู้แทนกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข ผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ที่ได้รับมอบหมาย รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมาย รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ได้รับมอบหมาย ผู้อำนวยการสำนักประสานและติดตามนโยบาย สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ได้รับมอบหมาย เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ เจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายจำนวนไม่เกินสองคน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ

อำนาจหน้าที่

1. ขับเคลื่อนและเร่งรัดส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้นำนโยบายรัฐบาลไปปฏิบัติ เพื่อให้การดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลบรรลุผลสำเร็จ และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล

2. เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล

3. ติดตามและประเมินผลการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล และเสนอรายงานต่อคณะรัฐมนตรีเป็นประจำทุกเดือน

4. กำหนดรูปแบบและจัดทำรายงานแสดงผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และเผยแพร่ผลการดำเนินงานของคณะรัฐมนตรีต่อสาธารณชน

5. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงานเพื่อช่วยในการปฏิบัติงานได้ตามความจำเป็น

6. ประสานความร่วมมือจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐหรือภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเอกสารและหลักฐานหรือให้ข้อมูล เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของ กขร.

7. ปฏิบัติงานอื่นตามที่นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย

ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีทำหน้าที่สนับสนุนและอำนายความสะดวกในการปฏิบัติงานของ คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานที่ได้รับการแต่งตั้ง สำหรับการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานให้เบิกจ่ายตามระเบียบทางราชการ และการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2547 โดยให้เบิกจ่ายจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2557 เป็นต้นไป

6. เรื่อง คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 132/2557 เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 132/2557 เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี

ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งที่ 120/2557 ลงวันที่ 30 กันยายน 2557 มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ไปแล้ว นั้น

เพื่อให้การมอบหมายและมอบอำนาจดังกล่าวมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ดังนั้น จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 และมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 มาตรา 11 และมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550 ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการมอบอำนาจ พ.ศ. 2550 นายกรัฐมนตรีจึงให้ยกเลิกข้อ 5.1.2 และข้อ 5.2.4 ของคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 120/2557 ลงวันที่ 30 กันยายน 2557 และมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการเพิ่มเติม ดังนี้

“1.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ และ รองประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

1.1.7 คณะกรรมการพิจารณาการเสนอขอพระราชทานเครื่องราช อิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์

1.2 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

1.2.12 คณะกรรมการพิจารณาการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย”

ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557 เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

7. เรื่อง คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 133/2557 เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 133/2557 เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค

ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งที่ 121/2557 ลงวันที่ 30 กันยายน 2557 มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ไปแล้ว นั้น

เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลผ่านการดำเนินโครงการต่าง ๆ ในทุกภูมิภาคเป็นไปอย่างถูกต้องและโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล ปราศจากการทุจริต อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราช บัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 มาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550 และข้อ 13 แห่งระเบียบ สำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค พ.ศ. 2547 นายกรัฐมนตรี จึงมีคำสั่งให้ยกเลิกความในข้อ 2 ของคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 121/2557 ลงวันที่ 30 กันยายน 2557 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“2. การกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคตามคำสั่งนี้ หมายถึง การตรวจราชการ การขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรายงานเหตุการณ์และผลการปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ยุทธศาสตร์ของชาติ ยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด และยุทธศาสตร์จังหวัด การประสานราชการเพื่อให้เกิดการบูรณาการยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด และยุทธศาสตร์จังหวัด ไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม การเร่งรัด การติดตามผล การให้คำแนะนำช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่ และการประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงการตรวจสอบความถูกต้องในการดำเนินโครงการและการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐ โดยให้คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมีส่วนร่วมในการตรวจสอบด้วย”

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557 เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2557 เป็นต้นไป

8. เรื่อง คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 134 /2557 เรื่อง มอบหมายให้ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่และมอบอำนาจการบังคับบัญชาให้รัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 134 /2557 เรื่อง มอบหมายให้ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่และมอบอำนาจการบังคับบัญชาให้รัฐมนตรี

ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งที่ 105/2557 ลงวันที่ 16 กันยายน 2557 และ คำสั่งที่ 124/2557 ลงวันที่ 30 กันยายน 2557 แต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไปแล้ว นั้น

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 และมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการมอบอำนาจ พ.ศ. 2550 นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งมอบหมายให้ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ และมอบอำนาจการบังคับบัญชาให้รัฐมนตรี ดังนี้

ลำดับที่  ชื่อ – สกุล                 ปฏิบัติหน้าที่ประจำ                        อยู่ในบังคับบัญชาของ                                  ตั้งแต่วันที่
1      พลตำรวจโท ตรีทศ รณฤทธิวิชัย  สำนักนายกรัฐมนตรี                       รองนายกรัฐมนตรี  (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ)           16 ก.ย. 57
2      นายรณภพ  ปัทมะดิษ          สำนักนายกรัฐมนตรี                       รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ  เครืองาม)                  16 ก.ย. 57
3      พลเอก สืบสันต์ ทรรทรานนท์    กระทรวงกลาโหม                        รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม                         16 ก.ย. 57
4      นายบุญมี จันทรวงศ์           กระทรวงเกษตรและสหกรณ์                 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์                  16 ก.ย. 57
5      นายศุภฤกษ์ สุดยอดประเสริฐ    กระทรวงคมนาคม                        รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม                         16 ก.ย. 57
6      นายเอกอนันต์ สรรประดิษฐ์     กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม     รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม      16 ก.ย. 57
7      นายจุมพล สัจจะอารีวัฒน์       กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร    16 ก.ย. 57
8      พลตำรวจตรี ปราโมช ปทุมวงศ์  กระทรวงมหาดไทย                       รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย                        16 ก.ย. 57
9      นายฐานุพงศ์ จันวิวัธน์เวช      กระทรวงวัฒนธรรม                       รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม                        16 ก.ย. 57
10    นางบุญเจือ วงษ์เกษม          กระทรวงอุตสาหกรรม                     รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม                      16 ก.ย. 57
11    นายพิษณุ เดชศรี              กระทรวงพลังงาน                        รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน                         23 ก.ย. 57
12    นาวาตรี ผรณเดช พัฒนาวิจารย์   กระทรวงศึกษาธิการ                      รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ                       23 ก.ย. 57
13    นางสะไบทิพย์ ปานรัตน์         กระทรวงสาธารณสุข                      รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข                       23 ก.ย. 57
14    พลตรีหญิง ดวงสุดา ขยันระงับพาล กระทรวงการต่างประเทศ                  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ                   23 ก.ย. 57
15    นางสาวอนุสรี  ทับสุวรรณ       กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  23 ก.ย. 57

สั่ง ณ วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ