ร้อยเอก นายแพทย์ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะนำคณะผู้บริหารระดับสูงภาครัฐ อาทิ พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายอนุสิษฐ คุรากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เดินทางเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 9-10 ตุลาคม 2557 เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่แน่นแฟ้นอยู่แล้วให้ลึกซึ้ง และร่วมกันกำหนดวิสัยทัศน์เพื่อการพัฒนาอย่างรอบด้าน (comprehensive) รายละเอียด ดังนี้
วัตถุประสงค์ของการเดินทางเยือนครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะได้ร่วมหารือกับผู้นำเมียนมาร์ เพื่อร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์สำหรับความร่วมมือไทย-เมียนมาร์ ในระยะต่อไป และผลักดันความร่วมมือที่สำคัญเพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน อาทิ การแก้ไขปัญหาความยากจน การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การส่งเสริมการค้าบริเวณชายแดน ความร่วมมือด้านพลังงานและละการพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างกัน พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีจะได้แนะนำตัวในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ตามธรรมเนียมปฏิบัติของชาติสมาชิกอาเซียนและถือการเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ในฐานะประธานอาเซียนด้วย
ภารกิจสำคัญ ได้แก่ เข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการกับนาย เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีเมียนมาร์ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ 3 ฉบับ ณ กรุงเนปิดอร์ การหารือกับภาคธุรกิจไทยในเมียนมาร์และมอบนโยบายแก่ทีมประเทศไทย ณ สถานเอกอัครราชทูต กรุงย่างกุ้ง ด้วย
บันทึกความเข้าใจทั้ง 3 ฉบับ คือ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง จ.เชียงใหม่ - เชียงตุง บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง จ.ประจวบคีรีขันธ์ - มะริด และ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง จ.ระนอง - เกาะสอง นี้ จะเป็นการลงนามระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดไทยและมียนมาร์ เพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยและเมียนมาร์ในการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า พัฒนาเศรษฐกิจชายแดนและกระชับความสัมพันธ์ภาคประชาชนระหว่างกัน
กำหนดการโดยย่อดังนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางวันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม 2557 เวลา 14.15 น. ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร (บน. 6) ไปยังกรุงเนปิดอว์ และเดินทางถึงท่าอากาศยานกรุงเนปิดอว์ เวลา 15.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) มีพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ เข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการกับนาย เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีเมียนมาร์ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ 3 ฉบับ ทำพิธีมอบป้ายบริจาครถรับบริจาคโลหิตแก่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติของเมียนมาร์ ในช่วงค่ำประธานาธิบดีเมียนมาร์เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีและคณะ ณ สำนักประธานาธิบดี วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม 2557 เวลา นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางออกจากท่าอากาศยานกรุงเนปิดอว์ไปยังกรุงย่างกุ้ง เพื่อร่วมการหารือกับภาคธุรกิจไทยในเมียนมาร์ ทีมประเทศไทยและภาคธุรกิจไทยในเมียนมาร์ และจะเดินกลับถึงในเวลา 16.25 น. ณ ท่าอากาศยานทหาร (บน. 6)
ภาพรวมความสัมพันธ์ระหว่าไทย-เมียนมาร์ นั้น ไทย-เมียนมาร์ เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์ที่ดีในทุกๆมิติทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคง ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมืออันดี ผู้นำทั้งสองประเทศมีความเข้าใจและสนิทสนมและคุ้นเคยระหว่างกัน เน้นการเป็นพันธมิตรเพื่อความมั่นคงและการพัฒนา (partnership for security and development) เน้นการจัดระเบียบและพัฒนาพื้นที่ชายแดนอย่างครบวงจร การปราบปรามยาเสพติด พัฒนาโครงการเชื่อมโยงทางถนน การเปิดจุดผ่านแดนเพิ่มเติม ความร่วมมือด้านพลังงาน ความร่วมมือด้านแรงงาน ที่เมียนมาร์ให้ความสนับสนุนนโยบายการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวของ คสช. และทั้งสองประเทศจะได้ร่วมมือกันผลักดันโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจทวายให้คืบหน้า ซึ่งคระกรรมการระดับสูง (Joint High-Level Committee JHC) จะได้มีการประชุมในปลายปีนี้ และจะได้มีการหารือในลักษณะสามฝ่ายร่วมกับญี่ปุ่นที่แสดงความสนใจร่วมพัฒนาโครงการทวายด้วย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th