นายกรัฐมนตรีเผยรัฐบาลผลักดันให้มีกฎหมายควบคุมการชุมนุม เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่ง ระบุประเทศรอบบ้านมีหมดแล้ว

ข่าวทั่วไป Wednesday October 8, 2014 16:27 —สำนักโฆษก

วันนี้ (8 ต.ค.57) เวลา 11.00 น. ณ บริเวณทางเชื่อมตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความพยายามผลักดันให้ประเทศไทยมี ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการชุมนุมในพื้นที่สาธารณะว่า กำลังทำอยู่ อยู่ในขั้นตอนเข้าไปสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และได้ดำเนินการไว้ตั้งแต่ต้น โดยจะมีการหารือ ระดมความคิดเห็น ว่าจะออกมาอย่างไร จะแก้ไขตรงไหน จะทำได้หรือไม่ได้ สังคมก็ต้องเรียนรู้ ก่อนหน้านี้กฎหมายออกไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของการเมือง และการเมืองต้องมีมวลชนสนับสนุนการเมือง เมื่อมีมวลชนสนับสนุนก็มีโอกาสมาต่อต้านต่อสู้ให้พรรคการเมือง กฎหมายฉบับนี้จึงออกมาไม่ได้ เพราะรัฐบาลต้องไปจำกัดการชุมนุมของทุกกลุ่มทุกฝ่าย และอาจจะไปจำกัดกลุ่มของตนเอง ฉะนั้น วันนี้เราไม่ต้องการให้มีกลุ่มของใครทั้งสิ้น สิ่งที่เราทำวันนี้ไม่มีกลุ่มใครทั้งสิ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าต้องมีกฎหมายนี้ออกมาแน่นอนใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องมี ประเทศรอบบ้านและทั่วโลกเขามีหมดแล้ว คนไทยต้องยอมรับกติกากันบ้าง ไม่เช่นนั้นประเทศชาติจะวุ่นวาย วันนี้การเมืองคือการเมือง ตนไม่ได้ขัดแย้งกับการเมือง ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของวิป ถ้าเสร็จเรียบร้อยถึงจะเสนอรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลจะเห็นชอบและนำเข้า ครม. โดยการนำเข้าครม. ไม่ได้หมายความว่าจะอนุมัติเลย เมื่อผ่าน ครม.ก็จะเข้าสู่ สนช. พิจารณาในวาระ 1 -3 เสร็จแล้วก็ประกาศ ใช้เป็นกฎหมาย เมื่อประกาศแล้วก็มีผลการบังคับใช้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ฉะนั้นยังมีโอกาสโต้แย้ง แต่ตนเห็นว่าควรจะมีกฎหมายดังกล่าว จะได้ป้องกันเจ้าหน้าที่ได้ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาการกระทบกระทั่งกับประชาชน หากมีคนไม่ดีซักคนสองคนใช้อาวุธเจ้าหน้าที่ก็ตาย ประชาชนก็เจ็บ ท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่ก็ต้องรับผิดชอบอีก ตรงนี้มันเป็นประเด็นและจะไม่จบ ถ้าทุกรัฐบาลคิดแบบตนการเมืองก็ว่าของท่านไป ท่านจะอะไรก็ทำไป แต่ต้องไม่ลืมเสียงส่วนน้อย ต้องดูแลทั้งเสียงส่วนน้อยและเสียงส่วนใหญ่ จะสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนรัฐบาล เขาเป็นคนไทย ต้องดูแลคนไทยควรจดจำไว้ทุกรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า ห่วงหรือไม่ที่รัฐบาลนี้พยายามจะออกกฎหมาย แต่นักการเมืองจ้องฉีก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไปทะเลาะกับเขาไม่ได้ ต้องพยายามสร้างความเข้าใจ ถ้าต้องการให้ประเทศไทยไปข้างหน้า ไม่ใช่การเมืองดีแล้วประเทศไทยถอยหลังมันไม่ได้ หากพรรคท่านดีหรือรัฐบาลดี แต่ประเทศชาติไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมโลกภายนอก แล้วเราจะทำอะไรต่อไปได้ รายได้จะมาจากไหน วันนี้รายได้ของเรามาจากการส่งออก 60 -70 เปอร์เซ็นต์ เมื่อทั่วโลกรายได้ตก เราก็ตกตามเขา เราจะทำอย่างไรถึงจะสู้เข้าได้ ให้เวลาตนมาคิดอย่างนี้ดีกว่า วันนี้เราสร้างความเข้มแข็ง การลงทุน บีโอไอ (ส่งเสริมการลงทุน) เพิ่มเทคโนโลยี เครื่องจักรเครื่องมือใหม่ อะไรต่าง ๆ เราคิดใหม่ทั้งหมด ซึ่งต้องใช้เวลา

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลเตรียมรับอย่างไร ซึ่งประเทศที่เคยให้สิทธิพิเศษ มองว่าประเทศไทยหลุดพ้นจากความยากจน และจะไม่ให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศไทยแล้ว นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นี่คือปัญหา ซึ่งต้องไปคเจรจาสร้างความเข้าใจ โดยจะขอยืดเวลาให้ผ่อนผัน เช่น การลดสิทธิทางภาษีที่จะไม่ยกเว้นให้แล้ว ถ้าไม่ลดสิทธิทางภาษีต้นทุนก็จะสูงขึ้น เพราะค่าแรงสูงบวกต้นทุนแล้วจะทำให้ค่าลงทุนสูง จะสู้กับประเทศที่มีค่าแรงงานถูกไม่ได้ ตรงนี้คือภาพรวมของเศรษฐกิจ ขึ้นอยู่ว่ารัฐบาลนี้จะแก้ปัญหาอย่างไร ทั้งยังใช้มาตรการเร่งด่วน ระยะสั้น และระยะยาว เพื่อสร้างความเข้มแข็ง และปรับทั้งหมดทำคู่ขนานกันไปในระยะเวลาแค่ 4 เดือน รัฐบาลที่ผ่านมาไม่ได้ทำอย่างนี้

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ