นายกรัฐมนตรีชื่นชมตำรวจทุกคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจปฏิบัติภารกิจเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง

ข่าวทั่วไป Monday October 13, 2014 09:50 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันตำรวจ ชื่นชมตำรวจทุกคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจปฏิบัติภารกิจเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง พร้อมขอให้นำยุทธศาสตร์เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา-หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางทำงาน พัฒนาบุคลากรให้มีจิตวิญญาณบริการประชาชน ลดระยะห่างระหว่างตำรวจกับประชาชน สร้างความเชื่อมั่นในการเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม

วันนี้ (13 ต.ค.57) เวลา 19.30 น. ณ สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันตำรวจ ประจำปี 2557 โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอก อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก พลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลเรือเอก ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พลอากาศเอก ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงาน ซึ่งมี พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวให้โอวาทแก่ข้าราชการตำรวจเพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติราชการ สรุปสาระสำคัญว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสวันตำรวจ ประจำปี 2557 ถือเป็นโอกาสดีที่ข้าราชการตำรวจและข้าราชการจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้มาพบปะเพื่อสร้างความสัมพันธ์และมิตรภาพที่ดีต่อกัน สร้างความรักความสามัคคี เพื่อให้การดำเนินนโยบายและการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจที่สำคัญ ๆ ได้เกิดผลสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งภารกิจของตำรวจมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะการสร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นในสังคม การดำรงความยุติธรรมในด้านต่าง ๆ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้ตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยความอดทนและอดกลั้น เพื่อสนองตอบต่อความต้องการและเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง และสมศักดิ์ศรีในการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

“ ผมขอชื่นชมการทำหน้าที่ของตำรวจทุกท่าน และขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทุกท่านได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการปฏิบัติภารกิจเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ผมเชื่อมั่นว่าจิตวิญญาณของการเป็นข้าราชการตำรวจ จะเป็นแรงผลักดันให้ท่านทั้งหลายทำงานต่อไปอย่างไม่ท้อถอย ไม่หมดกำลังใจในยามที่ต้องเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ รัฐบาลให้ความสำคัญกับภารกิจในด้านความมั่นคง การป้องกันและการปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ การลดความขัดแย้งและสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในสังคม รวมไปถึงการอำนวยความยุติธรรม ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติถือเป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีความสำคัญในการปฏิบัติ และการผลักดันให้เกิดความสำเร็จขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม” นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวหวังเป็นอย่างยิ่งว่า นโยบายในการบริหารราชการของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ได้กำหนดวิสัยทัศน์ให้ข้าราชการตำรวจยึดถือปฏิบัติร่วมกัน คือพิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และเป็นที่รักของประชาชน มุ่งพัฒนาและเสริมสร้างให้ข้าราชการตำรวจเป็นตำรวจที่ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา จะสามารถดำเนินการได้อย่างเป็นระบบ มีความทันสมัย และก้าวทันต่อเทคโนโลยี โดยขอให้นำยุทธศาสตร์ว่าด้วยการเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นแนวทางการในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาบุคลากรให้มีจิตวิญญาณตำรวจในการบริการประชาชน ซึ่งจะส่งผลให้การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เกิดประโยชน์ต่อตัวข้าราชการตำรวจและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถลดระยะห่างระหว่างตำรวจกับประชาชน สร้างความสุขให้แก่ประชาชนได้อย่างแท้จริง พร้อมก่อให้เกิดความผาสุกแก่ชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในนามของรัฐบาลและผู้รับผิดชอบในการดำเนินการขับเคลื่อนประเทศในขณะนี้ ขอแสดงความชื่นชมพร้อมเป็นกำลังใจให้ตำรวจทุกนาย ทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำรวจชั้นผู้น้อย ที่ต้องช่วยกันดูแลสร้างความรักความสามัคคี สร้างความเป็นครอบครัวของคนไทยให้ได้ในระยะเวลาอันจำกัด เพื่อให้เป็นอนาคตของประเทศต่อไป เพราะขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่จะต้องทำให้วิกฤตต่าง ๆ นั้นเป็นโอกาสให้ได้ ในการที่จะแก้ไขและสร้างความเชื่อมั่นยอมรับนับถือ สร้างความรักความสามัคคีให้กับประชาชนโดยรวม ให้ทุกคนเกิดความมั่นใจในการเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม

“ ผมเป็นกำลังใจให้อยู่เสมอไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนก็ตาม ก็ยังคงเป็นกำลังใจให้ เราได้ร่วมเป็นร่วมตายกันมาหลายครั้ง โดยเฉพาะกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอจังหวัดสงขลา ทุกคน พลเรือน ตำรวจ ทหาร ร่วมมือร่วมใจกันทำให้บ้านเมือง ทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดีมาตามลำดับ เราได้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตของคนไปมากพอสมควร วันนี้เราจะต้องไม่สูญเสียไปอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นหยาดเหงื่อ หยดเลือด หรือน้ำตาให้กับสิ่งที่ไม่เกิดคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติอีกต่อไป ฝากตำรวจทุกคนด้วย มีอะไรที่รัฐบาล มีอะไรที่พวกเราจะแก้ไขดูแลให้ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด” นายกรัฐมนตรีกล่าว

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้นำผู้ร่วมงานดื่มถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ด้วย

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ