เอกอัครราชทูตเนปาลประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่

ข่าวทั่วไป Friday February 27, 2015 13:18 —สำนักโฆษก

วันนี้ (27 กุมภาพันธ์ 2558) เวลา 13.30 น. นายขคนาถ อธิการี (Mr. Khaga Nath Adhikari) เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาลประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญการสนทนาดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีแก่เอกอัครราชทูตเนปาล ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่และเชื่อมั่นว่า เอกอัครราชทูตเนปาลจะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-เนปาลที่มีความแน่นแฟ้นให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้น โดยนายกรัฐมนตรียังได้กล่าวแสดงความขอบคุณรัฐบาลเนปาลที่ช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกให้แก่ชาวไทยที่เดินทางไปแสวงบุญที่กว่าสองหมื่นคนเป็นอย่างดีทุกปี ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตเนปาลกล่าวว่า ไทยและเนปาลมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดตลอด 55 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะความสัมพันธ์ด้านศาสนาและวัฒนธรรมระหว่างไทย-เนปาล ซึ่งชาวไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวและแสวงบุญที่เนปาลอย่างต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตเนปาลต่างเห็นพ้องที่จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือนทั้งในระดับรัฐบาล หน่วยงานราชการ และระดับประชาชนระหว่างไทยและเนปาล เพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น ไทยและเนปาลสามารถพัฒนาความร่วมมือได้อีกหลากหลายสาขา ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม โดยเฉพาะความร่วมมือทางด้านวิชาการ ซึ่งเอกอัครราชทูตเนปาลกล่าวขอบคุณที่ไทยได้มอบทุนแก่บุคลากรภาครัฐของเนปาลเพื่อเข้าร่วมการฝึกอบรม รวมทั้งให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนของเนปาลด้วย

ความร่วมมือทางด้านสาธารณสุขและวัฒนธรรมนั้น นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตเนปาลได้หารือถึงการก่อสร้างโรงพยาบาล ณ เมืองลุมพินี เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่ไปจารึกแสวงบุญและชาวเนปาลได้รับการบริการทางการแพทย์อย่างทั่วถึง ขณะนี้ อยู่ระหว่างการรอรับแจ้งจากรัฐบาลเนปาลเกี่ยวกับการจัดสรรที่ดินสำหรับการจัดสร้างโรงพยาบาลอย่างชัดเจน ซึ่งไทยจะได้เตรียมความพร้อมในการดำเนินการในขั้นตอนต่อไปให้เร็วที่สุด

ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยและเนปาลสามารถขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนได้มากยิ่งขึ้น ขณะนี้ ไทยกำลังพิจารณามาตรการต่างๆที่จะยกเว้นให้กับนักลงทุนจากเนปาลและส่งเสริมให้นักธุรกิจของไทยเข้าไปการลงทุนในเนปาลเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสาขาการเกษตร การแปรรูปสินค้าเกษตร การก่อสร้าง ไทยและเนปาลควรส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของภาคเอกชนทั้งสองประเทศเพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตเนปาลยังได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ ระหว่างนี้ ไทยและเนปาลต่างกำลังอยู่ในช่วงการปฏิรูปประเทศและยกร่างรัฐธรรมนูญ จึงควรร่วมมือกันและแบ่งปันข้อมูลในเรื่องดังกล่าวเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งเอกอัครราชทูตเนปาลได้กล่าวชื่นชมกระบวนการปฏิรูปประเทศของไทยที่ยึดหลักบูรณาการและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเนปาลจะได้นำรูปแบบการพัฒนาของไทยไปปรับใช้ในการปฏิรูปของเนปาลด้วย

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีและเอกกอัครราชทูตเนปาลเห็นพ้องในการจัดประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย – เนปาล (Joint Commission – JC) ซึ่งว่างเว้นมานาน เพื่อที่จะนำประเด็นที่ได้หารือไปสู่การลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงนามในความตกลงเพื่อขยายความร่วมมือในด้านวัฒนธรรม หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้จัดทำความตกลงทางวัฒนธรรมเสร็จสิ้นแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีเห็นว่าการลงนามในความตกลงจะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการเชื่อมโยงให้ทั้งสองฝ่ายมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยไทยยินดีเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ