สระแก้วพร้อม "เปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ" ใช้ไอทีเคลื่อนย้ายแรงงานกัมพูชาเข้า-ออก ๘ หมื่นคน/วัน

ข่าวทั่วไป Thursday March 19, 2015 17:47 —สำนักโฆษก

สระแก้วต้นแบบ "ระบบบาร์โค้ต Barcode" ใช้ไอทีรองรับการเคลื่อนย้ายแรงงานกัมพูชามาเช้า-เย็นกลับ ๘ หมื่นคน/วัน ใช้เวลาเพียง 7 วินาที/คน ไร้ปัญหาเข้าทำงานไม่ทันหากเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ

พลเอก กิตติ ปทุมมาศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ได้กล่าวภายหลังการประชุมและรับฟังบรรยายสรุปการใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราวร่วมกับบัตร Barcode ในการเข้ามาทำงานแบบมาเช้า - กลับเย็น ของชาวกัมพูชาบริเวณพื้นที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ ว่า พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความมุ่งมั่นที่จะนำนโยบายจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. มาดำเนินการให้บังเกิดผลสัมฤทธิ์โดยเร็ว จึงได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเคลื่อนย้ายแรงงานเพื่อนบ้านซึ่งคาดการได้ว่าจะมีการเดินทางเข้าออกประเทศไทยในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก หากเปิดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษแล้ว จังหวัดสระแก้วเป็นจังหวัดชายแดนซึ่งมีแรงงานกัมพูชาผ่านเข้าออกเป็นจำนวนมาก โดยพบว่ามีการเดินทางเข้าออกแบบมาเช้า - กลับเย็น ตลอดแถวชายแดนระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร ในทุกด่านและจุดผ่อนปรน ประมาณ ๕-๖ หมื่นคนต่อวัน แต่ส่วนใหญ่ราว ๓ หมื่นคนจะเดินทางผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก

(ตม.อรัญประเทศ) เพื่อเข้ามาค้าขายและทำงานบริเวณโรงเกลือและคลองลึก ในขณะที่แรงงานกัมพูชาที่ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาต(บัตรสีชมพู) ตามกฎหมายกำหนดมีเพียง ๗๓๒ คน หรือที่แรงงานต่างด้าวกัมพูชาเรียกว่าบัตร “คสช.”สามารถใช้เดินทางเข้าออกผ่านด่านได้เช่นกัน

ทั้งนี้ การเดินทางเข้าออกแบบแบบมาเช้า - กลับเย็น ของแรงงานกัมพูชาเป็นไปตามประกาศของจังหวัดสระแก้วที่ได้อนุโลมให้เดินทางเข้าออกผ่านแดนได้เป็นการชั่วคราว (ห้ามค้างคืน) และจะต้องมีการบันทึกจดแจ้งไว้ด้วย แต่เนื่องจากมีจำนวนมาก ทางจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก (ตม.อรัญประเทศ) จึงได้สร้างระบบบัตรผ่านแดนชั่วคราวร่วมกับบัตร "Immigration card" ซึ่งมี Barcode กำกับขึ้นมาใช้สำหรับการเคลื่อนย้ายแรงงานผ่านด่าน ทำให้ตรวจคัดกรองข้อมูลได้ในเวลาเพียง 7 วินาทีต่อคน สามารถเคลื่อนย้ายแรงงานเข้าออกได้สูงสุด ได้ถึงวันละ ๘ หมื่นคน ไร้ปัญหาเข้าทำงานไม่ทันหากเปิดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ รูปแบบบัตรนี้ได้ประสานความร่วมมือกับทางฝั่งราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา (ใช้ได้เฉพาะผู้ผ่านด่านโรงเกลือและคลองลึกเท่านั้น) สำหรับบัตร "Immigration card" จะมีการบันทึกข้อมูลตัวตนและถ่ายภาพหน้าของผู้ถือไว้ด้วย ทำให้มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือในการควบคุมการเดินทางผ่านด่านได้ ทั้งนี้หากเป็นเด็กที่ต่ำกว่า ๑๓ ปีจะต้องเดินทางพร้อมผู้ปกครองและต้องทำบัตรที่มีภาพถ่ายพร้อมกับตัวผู้ปกครองด้วย เพื่อป้องกันปัญหาด้านการค้ามนุษย์ เนื่องจากที่ผ่านมามักพบว่ามีการเดินทางเข้ามาขอทานเร่รอนอยู่ในประเทศไทย เป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องแก้ไขอยู่

ทั้งนี้ทั้งนั้น การตรวจเพื่อผ่านเข้าออกประเทศไทยจะต้องใช้บัตร "Immigration card" ควบคู่กับบัตรผ่านแดนชั่วคราวที่ทางการกัมพูชาเป็นผู้ออกให้ การเดินทางเข้าออกผ่านด่านจังหวัดสระแก้ว จึงมี 4 วิธีด้วยกัน คือ (1) หนังสือเดินทาง (Passport)(2) หนังสือผ่านแดน (Border Pass) (3) บัตรผ่านแดนชั่วคราวกัมพูชา(Temporary Border Pass) โดยใช้ควบคู่กับบัตรควบคุมพิเศษ (Immigration Card) (4) บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรสีชมพู)

แต่อย่างไรก็ตาม พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีแนวคิดเสนอให้แต่ละพื้นที่ที่จะจัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษได้นำแนวทางการตรวจคนเข้าเมืองของประเทศสิงคโปร์ที่มีการบริการจัดการแรงงานมาเลเซียที่เดินทางเข้าออกประเทศสิงคโปร์ วันละ 3 แสนคน มาปรับให้เหมาะสมกับเงื่อนไขของแต่ละจังหวัด ซึ่งควรมีความสะดวก รวดเร็ว และไม่ละเลยมิติด้านความมั่นคงที่ต้องดูแลควบคุมแรงงานเพื่อนบ้านให้อยู่ภายในพื้นที่กำหนดเท่านั้นด้วย

กระทรวงแรงงาน “บริการด้วยใจ เพื่อคนไทยมีงานทำ”

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ