รมว.พม. ตั้งหัวหน้าทีมพร้อมเดินทางไปช่วยเหลือลูกเรือประมงไทยที่เกาะอัมบน อินโดนีเซีย ศุกร์นี้

ข่าวทั่วไป Wednesday March 25, 2015 15:17 —สำนักโฆษก

วันนี้ (๒๕ มี.ค.๕๘) เวลา ๑๕.๐๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมมอบแนวทางการช่วยเหลือลูกเรือประมงไทย ที่เกาะอัมบน สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ว่า ที่ประชุมได้จัดตั้งคณะเดินทางไปสำรวจและประสานการช่วยเหลือลูกเรือตกค้างบนเกาะอัมบน สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข และกรมประชาสัมพันธ์ โดยมอบให้ พล.ต.ท. สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) ในฐานะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นหัวหน้าคณะ และรองหัวหน้าคณะ ได้แก่ นายจิตตพัฒน์ ทองประเสริฐ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และนางสุวรีย์ ใจหาญ ผู้อำนวยการกองต่อต้านการค้ามนุษย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีการแบ่งการปฏิบัติงานออกเป็น ๓ ฝ่าย ประกอบด้วย ฝ่ายอำนวยการ ฝ่ายรวบรวมข้อมูล และฝ่ายประสานช่วยเหลือส่งกลับ ทั้งนี้ มีภารกิจสำคัญในการช่วยเหลือลูกเรือประมงไทยอย่างเร่งด่วนให้สามารถเดินทางกลับประเทศไทย โดยกระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าภาพหลัก การฟื้นฟูเยียวยาลูกเรือประมงไทยที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์ โดยกระทรวง การพัฒนาสังคมฯ เป็นเจ้าภาพหลัก และการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของลูกเรือประมงไทยที่เสียชีวิต โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเจ้าภาพหลัก สำหรับการปฏิบัติงานในพื้นที่เกาะอัมบน ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้รับความร่วมมือ อย่างดียิ่งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ในการประสานกับรัฐบาลอินโดนีเซียเพื่ออำนวยความสะดวกใน ด้านต่างๆ โดยคณะเดินทางดังกล่าวจะออกเดินทางในวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG ๔๓๓ เวลา ๐๘.๒๐ น. ไปยังกรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เพื่อเดินทางต่อไปยังเกาะอัมบนในเช้าของวันรุ่งขึ้นต่อไป

พล.ต.ท. สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้มอบให้ตนเป็นหัวหน้าคณะทำงานไปปฏิบัติงานในพื้นที่เกาะอัมบน สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ ๑๐ วัน ทั้งนี้ ห้วงระยะเวลาปฏิบัติงานดังกล่าว ขึ้นอยู่กับการบรรลุภารกิจตามแผนที่ตั้งไว้ โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของตน ซึ่งตนรู้สึก เป็นเกียรติที่ได้รับความวางใจกับภารกิจที่ได้รับมอบหมายในครั้งนี้ และพร้อมจะทุ่มแรงกาย-ใจอย่างเต็มกำลัง

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ