กระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ทุกจังหวัด จัดตั้งศูนย์รับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวประเทศเนปาล

ข่าวทั่วไป Monday April 27, 2015 16:12 —สำนักโฆษก

วันนี้ (27 เม.ย. 58) ที่กระทรวงมหาดไทย นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2558 เวลา 13.11 น. ขนาด 7.8 ริกเตอร์ ความลึก 18 กม.บริเวณประเทศเนปาล ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 80 กิโลเมตร ส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ของประเทศเนปาล และพื้นที่ประเทศข้างเคียง ได้แก่ อินเดีย จีน (เขตปกครองตนเองทิเบต) และ บังคลาเทศ จากนั้นได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาดรุนแรงตามมาหลายครั้ง ทำให้อาคารบ้านเรือนในกรุงกาฐมาณฑุและเมืองใกล้เคียงพังถล่มลงมา มีผู้เสียชีวิตประมาณ 3,200 คน และผู้บาดเจ็บประมาณ 6,525 คน ซึ่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นอย่างมาก

ดังนั้น เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล เป็นไปด้วยความรวดเร็วสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ให้กระทรวงมหาดไทยใช้กลไกของศูนย์ดำรงธรรมในการที่จะรับบริจาคเงิน หรือสิ่งของ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพี่น้องประชาชนชาวไทย กระทรวงมหาดไทย จึงได้สั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินการ ดังนี้ 1) ให้จัดตั้งศูนย์รับบริจาคเงิน หรือสิ่งของ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวประเทศเนปาล ณ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อรับบริจาคสิ่งของสำหรับให้ความช่วยเหลือ ได้แก่ เงิน อาหารสำเร็จรูป เครื่องนุ่งห่มและเครื่องกันหนาวที่เหมาะสมกับสภาพอากาศของประเทศเนปาล และยังไม่ผ่านการใช้งาน 2) ให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด จัดเจ้าหน้าที่เข้าร่วมปฏิบัติงาน ณ ศูนย์รับบริจาคฯ อย่างต่อเนื่อง 3) ให้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทุกช่องทาง เพื่อให้ประชาชนทราบถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือ และการสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้ประสบภัยตามเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากนั้น ให้จังหวัดรายงานผลการดำเนินงานให้ศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทยทราบทุกวัน จนกว่าจะแจ้งให้ยุติการให้ความช่วยเหลือ

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยขอเชิญชวน พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ร่วมบริจาคเงิน สิ่งของและปัจจัยเพื่อการดำรงชีพ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวเนปาลที่ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหว โดยสามารถบริจาคได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ หรือติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วน 1567 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ เพื่อรวบรวมจัดส่งไปบรรเทาความเดือดร้อนในนามประชาชนชาวไทยทั้งประเทศต่อไป

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ