รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนมีนาคม และไตรมาสที่ 1 ของปี 2558

ข่าวทั่วไป Wednesday April 29, 2015 16:04 —สำนักโฆษก

“เศรษฐกิจไทยในเดือนมีนาคม และไตรมาสที่ 1 ของปี 2558 มีสัญญาณดีขึ้นจากการใช้จ่ายภายในประเทศโดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้ายังคงหดตัว สำหรับเศรษฐกิจไทยในด้านอุปทานได้รับแรงสนับสนุนสำคัญจากการขยายตัวในภาคการ ท่องเที่ยว แม้ว่าภาคเกษตรกรรมยังคงส่งสัญญาณหดตัว ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี”
          นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนมีนาคม และไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ว่า “เศรษฐกิจไทยในเดือนมีนาคม และไตรมาสที่ 1 ของปี 2558 มีสัญญาณดีขึ้นจากการใช้จ่ายภายในประเทศโดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน        อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้ายังคงหดตัว สำหรับเศรษฐกิจไทยในด้านอุปทานได้รับแรงสนับสนุนสำคัญจากการขยายตัวในภาคการท่องเที่ยว แม้ว่าภาคเกษตรกรรมยังคงส่งสัญญาณหดตัว ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี” ทั้งนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจไทยล่าสุดในรายละเอียด พบว่า

การบริโภคภาคเอกชนในเดือนมีนาคม และไตรมาสที่ 1 ปี 2558 มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บบนฐานการบริโภคภายในประเทศ ณ ราคาคงที่ในเดือนมีนาคมขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 20.1 ต่อปี ส่งผลให้ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ในภาพรวมขยายตัวร้อยละ 7.3 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออกขยายตัวร้อยละ 5.9 ต่อเดือน ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 1.0 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก พบว่าขยายตัวร้อยละ 0.6 ต่อไตรมาส สอดคล้องกับปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยขยายตัวร้อยละ 18.1 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก พบว่าขยายตัวร้อยละ 8.4 ต่อเดือน ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์ขยายตัวที่ร้อยละ 10.9 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก พบว่าขยายตัวร้อยละ 9.7 ต่อไตรมาส ขณะที่ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -13.4 ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งหดตัวร้อยละ -12.5 ต่อปี สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 มาอยู่ที่ระดับ 67.1 เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจนอย่างไรก็ดี ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคในเดือนมีนาคม 2558 พบว่าขยายตัวร้อยละ 5.2 ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัวร้อยละ 10.0 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก พบว่าขยายตัวร้อยละ 10.8 ต่อไตรมาส

การลงทุนภาคเอกชนในเดือนมีนาคมและไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ยังคงทรงตัว โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดก่อสร้างสะท้อนจากปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ในเดือนมีนาคมกลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 0.6 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก พบว่าสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 2.3 ต่อเดือน อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ยอดจำหน่ายปูนซีเมนต์ยังคงหดตัวร้อยละ -2.5 ต่อปี สำหรับภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ในเดือนมีนาคมขยายตัวได้ร้อยละ 0.7 ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวร้อยละ 4.5 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออกพบว่า หดตัวร้อยละ -6.7 ต่อไตรมาส ในขณะที่การลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือนมีนาคมยังคงหดตัวที่ร้อยละ -10.6 ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์หดตัวที่ร้อยละ -11.3 ต่อปีและเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก พบว่าหดตัวร้อยละ -7.0 ต่อไตรมาสและปริมาณนำเข้าสินค้าทุนในเดือนมีนาคม 2558 กลับมาหดตัวที่ร้อยละ -6.9 ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ปริมาณนำเข้าสินค้าทุนขยายตัวที่ร้อยละ 0.9 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก พบว่าหดตัวร้อยละ -0.4 ต่อไตรมาส

สถานการณ์ด้านการคลังในเดือนมีนาคม และไตรมาสที่ 1 ปี2558 (ไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2558)สะท้อนบทบาทนโยบายการคลังในการสนับสนุนเศรษฐกิจไทยผ่านการขาดดุลงบประมาณ โดยรัฐบาลขาดดุลงบประมาณในเดือนมีนาคม 2558 จำนวน -81.0 พันล้านบาท และทำให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2558 (ไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2558) ขาดดุล -144.7 พันล้านบาท โดยการจัดเก็บรายได้สุทธิ (หลังหักการจัดสรรให้ อปท.) ในเดือนมีนาคมมีจำนวนทั้งสิ้น 157.4 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 19.2 ต่อปี ทำให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2558 (ไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2558) รายได้สุทธิ (หลังหักการจัดสรรให้ อปท.) มีจำนวน 466.5 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 6.7 ต่อปีขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณรวมในเดือนมีนาคม 2558 เบิกจ่ายได้จำนวน 251.4 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 52.0 ต่อปี ทำให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2558 (ไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2558) เบิกจ่ายรวมทั้งสิ้น 617.6 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 11.7 ต่อปี

สำหรับอุปสงค์จากต่างประเทศผ่านการส่งออกสินค้าในเดือนมีนาคม และไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ยังคงหดตัวต่อเนื่อง โดยในเดือนมีนาคม 2558 หดตัวร้อยละ -4.5 ต่อปี และถือเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยการส่งออกสินค้าที่หดตัวลงในเดือนมีนาคมมาจากการส่งออกสินค้าในหมวดสินค้าเชื้อเพลิง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ และไฟฟ้า สำหรับตลาดส่งออกหลักที่หดตัวในเดือนมีนาคม ได้แก่ ประเทศจีน ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และฮ่องกง ทำให้ ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 การส่งออกสินค้าของไทยในรูปดอลลาร์สหรัฐหดตัวร้อยละ -4.7 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออกพบว่า หดตัวร้อยละ -6.2 ต่อไตรมาส

          นางสาวกุลยา  ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ชี้แจงข้อมูลเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติมว่า สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานภาคการท่องเที่ยวต่างชาติสามารถขยายตัวในระดับสูงอันเป็นแรงสนับสนุนสำคัญในการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย โดยข้อมูลเบื้องต้นในเดือนมีนาคม 2558 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 2.55 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 25.5 ต่อปี ส่งผลให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัว ร้อยละ 23.5 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออกพบว่า ขยายตัวร้อยละ 4.3 ต่อไตรมาส และในช่วง  18 วันแรกของเดือนเมษายน 2558 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.43 ล้านคน ขยายตัวต่อเนื่องอยู่ที่ร้อยละ 21.6 ต่อปี สะท้อนการเติบโตที่แข็งแกร่งของภาคการท่องเที่ยวต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรมในเดือนมีนาคมยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -12.3 ต่อปี ตามการหดตัวของผลผลิต ข้าวเปลือก ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นสำคัญ ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรมหดตัวร้อยละ -5.8 ต่อปี แต่เมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออกสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 1.2 ต่อไตรมาส ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 87.7 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า และถือเป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และต่ำสุดในรอบ 5 เดือนจาก        ความกังวลต่อสภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ และคำสั่งซื้อภายในประเทศที่อ่อนแอโดยเฉพาะกำลังซื้อในภาคเกษตร จากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง
          ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอัตราการว่างงานในเดือนมีนาคมอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 1.0 ของกำลังแรงงานรวม หรือคิดเป็นจำนวนผู้ว่างงาน 3.78 แสนคน ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 อัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 0.9 ของกำลังแรงงานรวม ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปหดตัวตามการลดลงของราคาน้ำมันดิบโลก        เป็นสำคัญ มาอยู่ที่ร้อยละ -0.6 ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 อัตราเงินเฟ้อทั่วไป อยู่ที่ร้อยละ -0.5 ต่อปี ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนมีนาคมและไตรมาสที่ 1 ปี 2558 อยู่ที่ร้อยละ 1.3 และ 1.5 ต่อปี ตามลำดับสำหรับเสถียรภาพภายนอกประเทศอยู่ในระดับที่มั่นคงโดยทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูงที่ 156.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นประมาณ 2.9 เท่าสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้

รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนมีนาคม และไตรมาสแรก ปี 2558

“เศรษฐกิจไทยในเดือนมีนาคม และไตรมาสที่ 1 ของปี 2558 มีสัญญาณดีขึ้นจากการใช้จ่ายภายในประเทศโดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้ายังคงหดตัวสำหรับเศรษฐกิจไทยในด้านอุปทานได้รับแรงสนับสนุนสำคัญจากการขยายตัวในภาคการท่องเที่ยว แม้ว่าภาคเกษตรกรรมยังคงส่งสัญญาณหดตัว ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี”

1. การบริโภคภาคเอกชนในเดือนมีนาคม และไตรมาสที่ 1 ปี 2558 มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นสะท้อนจากยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บบนฐานการบริโภคภายในประเทศ ณ ราคาคงที่ในเดือนมีนาคม 2558 ขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 20.1 เร่งขึ้นมากจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 2.3 ต่อปี ขณะที่ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บบนฐานการนำเข้า ณ ราคาคงที่ ยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -8.9 ต่อปี เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลง ซึ่งส่งผลให้ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ในภาพรวมในเดือนมีนาคม 2558 ขยายตัวร้อยละ 7.3 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก (m-o-m SA) พบว่า ขยายตัวร้อยละ 5.9 ต่อเดือน ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 1.0 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก (q-o-q SA) พบว่า ขยายตัวร้อยละ 0.6 ต่อไตรมาส สอดคล้องกับปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในเดือนมีนาคม 2558 ที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยขยายตัว ร้อยละ 18.1 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก (m-o-m SA) พบว่า ขยายตัวร้อยละ 8.4 ต่อเดือน โดยเป็นการขยายตัวของยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และเขตภูมิภาค ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์ขยายตัวที่ร้อยละ 10.9 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก (q-o-q SA) พบว่า ขยายตัวร้อยละ 9.7 ต่อไตรมาส ขณะที่ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือนมีนาคม 2558 ยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -13.4 ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งหดตัวร้อยละ -12.5 ต่อปี สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเดือนมีนาคม 2558 อยู่ที่ระดับ 67.1 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า โดยเป็นการปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภายในประเทศ ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันจะลดลง แต่กำลังซื้อของประชาชนไม่เพิ่มขึ้นจากราคาสินเกษตรที่ตกต่ำทำให้ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่าย ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ระดับ 68.4 นอกจากนี้ ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคในเดือนมีนาคม 2558 พบว่า ขยายตัวร้อยละ 5.2 ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัวร้อยละ 10.0 ต่อปี

          2. การลงทุนภาคเอกชนในเดือนมีนาคมและไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ยังคงทรงตัว โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดก่อสร้างสะท้อนจากปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ในเดือนมีนาคม 2558 กลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 0.6 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก(m-o-m SA) พบว่า สามารถขยายตัวได้ร้อยละ 2.3 ต่อเดือน อย่างไรก็ตาม       ในไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ยอดจำหน่ายปูนซีเมนต์หดร้อยละ -2.5 ต่อปี แต่เมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก(q-o-q SA) พบว่า สามารถขยายตัวได้ร้อยละ 0.6 ต่อไตรมาส สะท้อนให้เห็นว่าการลงทุนในหมวดการก่อสร้างยังคงทรงตัว สำหรับภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ในเดือนมีนาคม 2558 ขยายตัวร้อยละ 0.7 ต่อปี ขยายตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า     ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวร้อยละ 4.5 ต่อปี ในขณที่การลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือนมีนาคม 2558 ยังคงหดตัวต่อเนื่องที่     ร้อยละ -10.6 ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์หดร้อยละ -11.3 ต่อปี สำหรับปริมาณนำเข้าสินค้าทุนในเดือนมีนาคม 2558 กลับมาหดตัวที่ร้อยละ -6.9 ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ปริมาณนำเข้าสินค้าทุนขยายตัวที่ร้อยละ 0.9 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก (q-o-q SA) พบว่า หดตัวได้ร้อยละ -0.4 ต่อไตรมาส

3. เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจไทยด้านการคลังในเดือนมีนาคม และไตรมาสที่ 1 ปี 2558 (ไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2558) สะท้อนบทบาทนโยบายการคลังในการสนับสนุนเศรษฐกิจไทย ผ่านการขาดดุลงบประมาณ โดยดุลงบประมาณในเดือนมีนาคม 2558 ขาดดุลจำนวน -81.0 พันล้านบาท ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 (ไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2558) ขาดดุล -144.7 พันล้านบาท ทั้งนี้ ในการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐบาลสามารถเบิกจ่ายงบประมาณรวมในเดือนมีนาคม 2558 ได้จำนวน 251.4 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 52.0 ต่อปี โดยรายจ่ายงบประมาณปีปัจจุบันสามารถเบิกจ่ายได้จำนวน 228.4 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 60.8 ต่อปี แบ่งออกเป็น

(1) รายจ่ายประจำ 190.2 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 47.8 ต่อปี และ (2) รายจ่ายลงทุน 38.1 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 186.7 ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 (ไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2558) รายจ่ายรวมสามารถเบิกจ่ายได้ทั้งสิ้น 617.6 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 11.7 ต่อปี โดยรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 ในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2558 (ไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2558) สามารถเบิกจ่ายได้ 557.7 พันล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเบิกจ่าย

ร้อยละ 21.7 ของกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 (2,575.0 พันล้านบาท) สำหรับการจัดเก็บรายได้รัฐบาล พบว่า รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิ (หลังหักการจัดสรรให้ อปท.) ในเดือนมีนาคม 2558 ได้จำนวน 157.4 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 19.2 ต่อปี โดยมีรายการสำคัญ คือ (1) ภาษีฐานบริโภค (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) จัดเก็บได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 ต่อปี เนื่องจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากฐานการบริโภคภายในประเทศได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.4 ต่อปี ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการบริโภคในประเทศที่ยังคงเติบโตได้ดี ประกอบกับการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มของภาคเอกชนที่มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของระบบคมนาคมในส่วนของใยแก้วนำแสง ขณะที่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากฐานการนำเข้าหดตัวร้อยละ -9.5 ต่อปี สะท้อนการนำเข้าที่ยังคงชะลอตัว และ (2) การจัดเก็บภาษีฐานรายได้ขยายตัวร้อยละ 13.0 ต่อปี โดยการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.8 และ 5.7 ต่อปี ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2558 (ไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2558) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ (หลังหักการจัดสรรให้ อปท.) ได้จำนวน 466.5 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 6.7 ต่อปี

4. การส่งออกสินค้าในเดือนมีนาคม และไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ยังคงหดตัวต่อเนื่อง โดยในเดือนมีนาคม 2558 การส่งออกสินค้าของไทยในรูปดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่า 18.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ -4.5 ต่อปี และถือเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันโดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้ามาจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกและตลาดคู่ค้าหลักของไทยในปัจจุบันที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้กำลังซื้อในตลาดโลกชะลอลง ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าที่หดตัวลงในเดือนมีนาคม มาจากการส่งออกสินค้าในหมวดสินค้าเชื้อเพลิง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ และไฟฟ้า ที่

หดตัวร้อยละ -32.0 -3.3 และ -1.2 ต่อปี ตามลำดับ สำหรับตลาดส่งออกหลักที่หดตัวในเดือนมีนาคม ได้แก่ ประเทศจีน ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และฮ่องกง ที่หดตัวร้อยละ -8.3 -8.4 -2.1 และ -32.5 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่ตลาดส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดี ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และกลุ่มประเทศ CLMV ที่ขยายตัวร้อยละ 5.6 19.8 และ 17.4 ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ยังมีสินค้าส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดี ได้แก่ ยานยนต์ อุตสาหกรรมเกษตร ที่ขยายตัวร้อยละ 5.8 และ 3.9 ต่อปี ตามลำดับ ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 การส่งออกสินค้าของไทยในรูปดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่า 53.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ -4.7 ต่อปี โดยสินค้าที่หดตัวได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า เกษตรกรรม และแร่และเชื้อเพลิง หดตัวร้อยละ -0.5 -14.1 และ -29.6 ต่อปี ตามลำดับ สำหรับตลาดส่งออกหลักที่หดตัวในไตรมาสที่ 1 ได้แก่ ประเทศจีน ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ที่หดตัวร้อยละ -14.4 -9.2 และ -3.9 ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ยังมีสินค้าส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดีในไตรมาสที่ 1 ได้แก่ ยานยนต์ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ที่ขยายตัวร้อยละ 4.7 และ 2.2 ต่อปี เป็นสำคัญ สำหรับตลาดส่งออกหลักที่ขยายตัวได้ดีในไตรมาสที่ 1 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศ CLMV ที่ขยายตัวร้อยละ 5.6 และ 0.6 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่ สำหรับมูลค่าการนำเข้าสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่า 17.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ -5.9 ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 การนำเข้าสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่า 51.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ –6.4 ต่อปีทั้งนี้ มูลค่าส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐที่มีมูลค่าสูงกว่าการนำเข้าสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ดุลการค้าระหว่างประเทศในเดือนมีนาคม 2558 เกินดุล 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ดุลการค้าระหว่างประเทศเกินดุลที่ 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

5. เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทานพบว่า ภาคการท่องเที่ยวต่างชาติที่สามารถขยายตัวในระดับสูง เป็นแรงสนับสนุนสำคัญในการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทย (เบื้องต้น) ในเดือนมีนาคม 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 2.55 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 25.5 ต่อปี ส่งผลให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัวร้อยละ 23.5 ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก (q-o-q SA) พบว่า ขยายตัวร้อยละ 4.3 ต่อไตรมาส โดยนักท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดีมาจากจีน และมาเลเซีย เป็นหลัก ซึ่งขยายตัวร้อยละ 83.3 และ 53.8 ต่อปี ตามลำดับ นอกจากนี้ ข้อมูลเบื้องต้น 18 วันแรกในเดือนเมษายน 2558 พบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.43 ล้านคน ขยายตัวต่อเนื่องอยู่ที่ร้อยละ 21.6 ต่อปี สะท้อนการเติบโตที่แข็งแกร่งของภาคการท่องเที่ยวต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ภาคเกษตรกรรมสะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรมในเดือนมีนาคม 2558 หดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -12.3 ต่อปี ตามการหดตัวของผลผลิต ข้าวเปลือก ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นสำคัญ โดยเฉพาะผลผลิตข้าวเปลือกที่หดตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี จากสถานการณ์ภัยแล้งและปริมาณน้ำเขื่อนอยู่ในระดับต่ำจนต้องระงับการส่งน้ำชลประทานเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปรัง ในขณะที่ผลผลิตในหมวดปศุสัตว์ และหมวดประมงยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรม หดตัวร้อยละ -5.8 ต่อปี แต่เมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก (q-o-q SA) พบว่า ขยายตัวได้ร้อยละ 1.2 ต่อไตรมาส สำหรับดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนมีนาคม และไตรมาสที่ 1 ปี 2558 จะมีการประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการโดยกระทรวงอุตสาหกรรมในวันที่ 30 เมษายน 2558 ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมีนาคม 2558 อยู่ที่ระดับ 87.7 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า และถือเป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และต่ำสุดในรอบ 5 เดือนจากความกังวลต่อสภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัญหาขีดความสามารถในการแข่งขัน เนื่องจากขาดการปรับปรุงเทคโนโลยีในการผลิต และคำสั่งซื้อภายในประเทศที่อ่อนแอโดยเฉพาะกำลังซื้อในภาคเกษตรจากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง

6. ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจต่างประเทศอยู่ในระดับมั่นคง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมีนาคม 2558 หดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -0.6 ต่อปี จากการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นหลัก รวมถึงการลดลงของราคาไข่และผลิตภัณฑ์นม และราคาเนื้อสัตว์ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.3 ต่อปี ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 อัตราเงินเฟ้อทั่วไป และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ -0.5 และ 1.5 ต่อปี ตามลำดับ สำหรับอัตราการว่างงานในเดือนมีนาคม 2558 อยู่ที่ร้อยละ 1.0 ของกำลังแรงงานรวม หรือคิดเป็นจำนวนผู้ว่างงาน 3.78 แสนคน ทำให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2558 อัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 0.9 ของกำลังแรงงานรวม ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ล่าสุด ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 อยู่ที่ระดับร้อยละ 46.8 ต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ไม่เกินร้อยละ 60.0 สำหรับเสถียรภาพภายนอกประเทศยังอยู่ในระดับมั่นคงและสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนได้จากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 ที่ยังอยู่ในระดับสูงที่ 156.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นประมาณ 2.9 เท่า

ที่มา : กระทรวงการคลัง

ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ