กระทรวงคมนาคม และกองทัพเรือ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาให้เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์ แห่งที่ 3

ข่าวทั่วไป Wednesday June 3, 2015 15:51 —สำนักโฆษก

พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และพลเรือเอก ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาให้เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์ แห่งที่ 3 โดยมี นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม พลเรือเอก พิจารณ์ ธีรเนตร ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ผู้บริหารและหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม และกองทัพเรือ เข้าร่วมในพิธีดังกล่าว ในวันพุธที่ 3 มิถุนายน 2558 ณ อาคารสโมสรและหอประชุมกระทรวงคมนาคม ชั้น 3

ตามนโยบายของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในคราวประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2557 ได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงคมนาคมประสานความร่วมมือกับกระทรวงกลาโหม (กองทัพเรือ) พิจารณาแนวทางการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาให้เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์แห่งที่ 3 และกำหนดแนวทางการปรับปรุงท่าอากาศยานดอนเมือง รวมทั้งแนวทางการเชื่อมโยงทางรถไฟ (Airport Link) ระหว่างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา กับกรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับการขยายตัวของการคมนาคมขนส่งทางอากาศในอนาคต และรัฐบาลได้กำหนดนโยบายการพัฒนาด้านคมนาคมทางอากาศ โดยส่งเสริมการใช้ท่าอากาศยานในภูมิภาคให้สามารถรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการใช้ท่าอากาศยานในภูมิภาคสนับสนุนและเสริมประสิทธิภาพท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง เช่น ท่าอากาศยานอู่ตะเภา เป็นต้น

กระทรวงคมนาคมและกองทัพเรือได้ประชุมหารือร่วมกัน เพื่อพิจารณาแนวทางการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาให้เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์ แห่งที่ 3 ตามนโยบายรัฐบาล และข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557 เป็นต้นมา และได้ข้อสรุปการดำเนินงานภายใต้แนวคิด One Airport Two Missions โดยในการประชุมเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2558 กระทรวงคมนาคมและกองทัพเรือ ได้เห็นชอบร่วมกันในการดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาฯ ตามลำดับ ดังนี้

1. การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (Memorandum of Cooperation : MOC) ระหว่างผู้บัญชาการทหารเรือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เรื่อง การพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาให้เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์ แห่งที่ 3

บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อประสานความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่ การวางแผนธุรกิจ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การจัดทำแผนและงบประมาณ เพื่อให้ท่าอากาศยานอู่ตะเภาเป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์ แห่งที่ 3 ภายใต้การบริหารของกองทัพเรือ โดยมีเป้าหมายการดำเนินงาน 3 ระยะ ดังนี้

ระยะที่ 1 (ปี 2558 - 2560)

การเพิ่มศักยภาพการรองรับผู้โดยสารเป็น 3 ล้านคนต่อปี โดยใช้อาคารผู้โดยสารที่มีอยู่เดิมและอาคารใหม่ที่จะสร้างเสร็จในปี 2559 รวมทั้งทางวิ่ง ทางขับ ลานจอดอากาศยาน การบริการทางภาคพื้น ระบบเติมน้ำมัน และหอบังคับการบินที่มีอยู่เดิม ซึ่งกองทัพเรือเป็นผู้บริหารท่าอากาศยาน อู่ตะเภาเหมือนเดิม สำหรับการพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมเชื่อมโยงท่าอากาศยานอู่ตะเภา กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง และพื้นที่ท่องเที่ยวในภาคตะวันออก ให้สามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัย โดยกรมทางหลวงจะดำเนินการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข 331 ตอนแยกทางหลวงหมายเลข 36 (พนมสารคาม) – บรรจบทางหลวงหมายเลข 3 (อำเภอสัตหีบ) โดยขยายจาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร ตลอดจนเตรียมการก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายพัทยา – มาบตาพุด และปรับถนนทางเข้า – ออกหลักในฝั่งตะวันตกของท่าอากาศยานให้สอดคล้องกับการบริการเชิงพาณิชย์ของท่าอากาศยานในปัจจุบัน หากมีเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้นกว่าที่คาดการณ์ กระทรวงคมนาคม โดยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จะเข้ามาอำนวยความสะดวกในการให้บริการด้านภาคพื้น (Ground Service) เฉพาะในกรณีที่กองทัพเรือร้องขอโดยตรง หรือให้ความเห็นชอบแล้วเท่านั้น ส่วนบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด จะพิจารณาโครงสร้างห้วงอากาศที่ใช้ร่วมกันระหว่างเส้นทางบินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานอู่ตะเภา ให้สอดคล้องกัน เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกและรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ควรมีการบูรณาการระหว่างหน่วยงานผู้เกี่ยวข้องในการเพิ่มบทบาทของการสร้าง Cluster กลุ่มจังหวัดในภาคตะวันออกให้เป็น Tourist Destination เพื่อดึงดูดและกระตุ้นให้ผู้โดยสารมาใช้ที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภาให้มากขึ้น

ระยะที่ 2 (ปี 2561 – 2563)

การเตรียมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายใต้ความเห็นชอบของกองทัพเรือเท่านั้น เพื่อรองรับผู้โดยสารเป็น 5 ล้านคน (บนพื้นฐานอัตราการเติบโตของปริมาณการจราจรทางอากาศ ร้อยละ 7) โดยการเพิ่มการดำเนินการเชิงพาณิชย์ ในฝั่งตะวันตกให้มากขึ้น หากกองทัพเรือเห็นชอบ เนื่องจากอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 มีกำหนดแล้วเสร็จและเปิดให้บริการภายในปี 2559 ทั้งนี้ ในการบริหารท่าอากาศยานยังคงยึดหลัก One Airport Two Mission โดยกองทัพเรือเป็นผู้บริหารท่าอากาศยานอู่ตะเภาเหมือนเดิมรวมถึงการเตรียมการศึกษาในการบริหารจัดการพื้นที่การให้บริการเชิงพาณิชย์และความมั่นคง ภายใต้ความเห็นชอบของกองทัพเรือ

ระยะที่ 3 (ปี 2563 เป็นต้นไป)

การศึกษาการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พื้นที่ (Landside และ Airside) และสิ่งอำนวยความสะดวกในการพัฒนาขีดความสามารถของท่าอากาศยานอู่ตะเภา ให้รองรับการเติบโตของกิจการการบินในอนาคต

2. การแต่งตั้งคณะทำงาน

ภายหลังการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ จะแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อประสานความร่วมมือในการขับเคลื่อนงาน/โครงการพัฒนาต่าง ๆ จำนวน 2 ชุด โดยกำหนดให้คณะทำงานเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2558 เป็นต้นไป ประกอบด้วย

1) คณะทำงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมกับภายนอกท่าอากาศยาน

2) คณะทำงานวางแผนธุรกิจส่งเสริมกิจการของท่าอากาศยานอู่ตะเภา

ที่มา, ผู้เสนอ : กองสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ