ข้อเสนอการยกฐานะ สช. ให้เป็นกรมมีฐานะเป็นนิติบุคคล

ข่าวทั่วไป Friday June 5, 2015 15:11 —สำนักโฆษก

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้รายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน 2558 ได้รับทราบในหลักการเกี่ยวกับข้อเสนอการยกฐานะสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนให้เป็นกรม มีฐานะเป็นนิติบุคคล

จากการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ครั้งที่ 3/2558 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน 2558 ที่ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีพลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม ที่ประชุมได้รับทราบในหลักการเกี่ยวกับข้อเสนอการยกฐานะสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนให้เป็นกรม มีฐานะเป็นนิติบุคคล

ซึ่งนายอดินันท์ ปากบารา เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบว่า จากการประชุมคณะทำงานแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 1/2558 เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2558 ซึ่งมีรองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (นายกมล ศิริบรรณ) เป็นประธานการประชุม โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยผู้แทนจากสำนักงาน ก.พ.-สำนักงาน ก.พ.ร.-สำนักงบประมาณ-สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ-สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา-สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีมติเห็นชอบให้หน่วยงานเดิมที่เคยเป็นกรมภายใต้กระทรวงศึกษาธิการ และได้รับผลกระทบจากการปฏิรูปการศึกษา พ.ศ.2546 ได้ยกระดับเป็นกรมใหม่ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สำนักงาน สช.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (สำนักงาน กศน.) และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (สำนักงาน ก.ค.ศ.) โดยในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนนั้น ที่ประชุมขอให้แจ้งมติดังกล่าวให้คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนได้รับทราบด้วย

มติดังกล่าว คือ การเสนอยกฐานะสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนให้เป็นกรมมีฐานะเป็นนิติบุคคล บริหารงานโดยเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) มีฐานะเป็นอธิบดี เป็นส่วนราชการระดับกรม สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยโครงสร้างปัจจุบันมีนักบริหารระดับสูง 1 คน (เลขาธิการ) นักบริหารระดับต้น 2 คน (รองเลขาธิการ) ผู้เชี่ยวชาญ 4 คน กลุ่มงาน (กอง) 8 กลุ่มงาน แต่โครงสร้างที่จะเสนอขอปรับปรุงใหม่ มีส่วนที่แตกต่างไปจากโครงสร้างเดิม คือ กลุ่มงานเลขานุกรมกรม 1 กลุ่มงาน แบ่งเป็น 2 กลุ่มงาน คือ สำนักงานเลขานุกรมกรม และกองการเจ้าหน้าที่และนิติการ พร้อมทั้งเพิ่ม 1 กลุ่มงานใหม่ คือ กองมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา และมีสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ตามมติคณะรัฐมนตรี 31 พฤษภาคม 2553) ประกอบด้วยจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา (เฉพาะอำเภอจะนะ เทพา สะบ้าย้อย)

ทั้งนี้ จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คือ ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... แต่เนื่องจากขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้ย้ำนโยบายของรัฐบาลว่า ยังไม่ต้องการให้ปรับโครงสร้างกระทรวงต่างๆ ในช่วงเวลานี้ ดังนั้นจึงต้องชะลอไว้ก่อน

บัลลังก์ โรหิตเสถียร

สรุป/รายงาน

ที่มา: http://www.thaigov.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ