คพน.เห็นชอบในหลักการต่อแผนที่นำทางการบูรณาการผลงานวิจัยเครื่องบินทะเลและเสื้อเกราะกันกระสุนสู่การใช้งานจริง

ข่าวทั่วไป Friday August 7, 2015 12:15 —สำนักโฆษก

วันนี้ (7ส.ค.58) เวลา 14.00 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ (กพน.) ครั้งที่ 3/2558 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และนายวรพล โสคติยานุรักษ์ กรรมการ กพน. ได้แถลงผลการประชุม สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการต่อแผนที่นำทางการบูรณาการผลงานวิจัยเครื่องบินทะเลและเสื้อเกราะกันกระสุนสู่การใช้งานจริง ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นคงทางทะเล และสนับสนุนการท่องเที่ยว ตลอดจนเพื่อพัฒนาเสื้อเกราะกันกระสุนให้มีคุณลักษณะด้านความปลอดภัย ระดับการป้องกันตามมาตรฐานการทดสอบเป็นสากลตรงตามความต้องการของหน่วยงานที่มีภารกิจด้านความมั่นคง และสนองตอบตามนโยบายการรักษาความมั่นคงของรัฐและต่างประเทศ พร้อมมอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำบัญชีนวัตกรรมไทย เพื่อผลักดันนโยบายส่งเสริมการสร้างตลาดนวัตกรรมในหน่วยงานภาครัฐหเป็นรูปธรรมและยั่งยืน เตรียมพร้อมการบังคับใช้ร่าง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ....

ขณะเดียวกันได้มีการดำเนินแนวทางในการจับคู่ระหว่างความต้องการและนวัตกรรมที่ผลิตในประเทศไทยนำมาสู่การใช้งานจริง เช่น การจัดตลาดนัดนวัตกรรมด้านการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งเป็นการจัดแสดงผลงานวิจัยผลิตภัณฑ์ ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ สมุนไพร เครื่องสำอาง และนวัตกรรมทางการแพทย์สาธารณสุข ตลอดจนเปิดโอกาสให้นักวิจัยพัฒนา ผู้ประกอบการ ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์การแพทยสาธาณสุขทั้งรัฐและเอกชน ได้พบปะระหว่างกัน โดยจัดขึ้นในวันที่ 18-20 สิงหาคม 2558 ณ เมืองทองธานี รวมทั้งจะมีการจัดมหกรรมนวัตกรรมไทย 3 ภูมิภาค คือ ภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ (วันที่ 27-30 สิงหาคม2558) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดนครราชสีมา (วันที่ 17-18 กันยายน 2558) และภาคใต้ที่หาดใหญ่ (วันที่ 30-31 ตุลาคม2558) เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs และส่งเสริมให้เกิดธุรกิจเทคโนโลยีในภูมิภาคมากขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบในการจัดตั้งกองทรัสเงินร่วมลงทุนเพื่อธุรกิจฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (Fund of Funds) โดยมอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ประสานความร่วมมือกับภาคเอกชนที่สนใจร่วมลงทุนในกองทุนร่วมลงทุนเพื่อธุรกิจเทคโนโลยี (ในรูปแบบของ Private Equity หรือ Venture Capital) โดยกองทุนดังกล่าวจะไปลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีอีกต่อหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะช่วยสนับสนุนธุรกิจเทคโนโลยีแล้ว ยังช่วยสนับสนุนให้เกิดการเติบโตของธุรกิจเงินร่วมลงทุนไปพร้อมกัน โดยในอนาคตหากกลไกตลาดของธุรกิจร่วมลงทุนภาคเอกชนดำเนินกาต่อไปได้ จะสามารถเป็นเครื่องมือสนับสนุนธุรกิจเทคโนโลยีอย่างยั่งยืน

พร้อมทั้ง ที่ประชุมได้มีการพิจารณาและมีมติเห็นชอบในหลักการต่อแผนที่นำทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายภาครัฐในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนไฟฟ้า ทั้งนี้ ให้มีการใช้และผลิตควบคู่ไปกับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของยานยนต์ 3 ประเภท คือ รถโดยสารไฟฟ้า ยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง และรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล โดยนำร่องตลาด ขสมก. สำหรับรถโดยสารไฟฟ้า เพื่อให้ผู้ผลิตไทยผลิตรถโดยสารไฟฟ้าที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และทยอยส่งมอบให้แล้วเสร็จภายในปี 2560 โดยมอบหมายกระทรวงคมนาคมดำเนินการแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดให้ ขสมก. จัดซื้อรถ NGV กว่า 3,000 คัน เป็นรถไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศไทย 500 คัน และมอบหมายให้กระทรวงการคลัง พิจารณายกเว้นภาษีศุลกากรและภาษีสรรพสามิตสำหรับชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าที่ยังไม่มีการผลิตในประเทศ

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ข้อมูล:สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ