ก.แรงงาน เดินหน้าคุ้มครองแรงงานเด็กอย่างต่อเนื่อง ย้ำ!! ปี’63 ประเทศไทยจะปลอดจากการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย

ข่าวทั่วไป Monday September 21, 2015 12:02 —สำนักโฆษก

ก.แรงงาน เดินหน้าคุ้มครองแรงงานเด็กอย่างต่อเนื่อง ย้ำ!! เป้าหมายชัดเจน ปี’63 ประเทศไทยจะปลอดจากการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) 45 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านศาลเยาวชนฯ มุ่งสร้างการทำงานในมิติด้านนโยบายระดับชาติ และมิติด้านการปฏิบัติงานในพื้นที่ต้นแบบและพื้นที่นำร่องทั่วประเทศ

นางสาวพรรณี ศรียุทธศักดิ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงการบูรณาการความร่วมมือเพื่อคุ้มครองสิทธิและสร้างเสริมสวัสดิภาพเด็ก เยาวชนและครอบครัวในกระบวนการยุติธรรมและการประชุมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายยุติธรรมเด็ก เยาวชนและครอบครัวแบบมีส่วนร่วมระดับชาติ (MOU) ณ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ ว่า กระทรวงแรงงานให้ความสำคัญในการคุ้มครองสิทธิเด็กโดยเฉพาะเด็กในกลุ่มเป้าหมาย คือ ลูกจ้างเด็ก (Working Children) ซึ่งจะเห็นได้จากพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ซึ่งอยู่ภายใต้การบังคับใช้ของกระทรวงแรงงานได้กำหนดไว้เป็นหมวดเฉพาะ คือ หมวด 4 การใช้แรงงานเด็ก ซึ่งมีบทบัญญัติสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานเด็กอยู่ 9 มาตรา เช่น การห้ามไม่ให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีทำงานที่อาจเสี่ยงให้เกิดอันตรายต่อเด็กหรือการทำงานในสถานที่ไม่เหมาะสม อาทิ โรงฆ่าสัตว์ สถานที่อโคจร สถานบริการต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ อีกมาตราที่สำคัญ คือมาตราที่ระบุไว้เฉพาะว่าห้ามมิให้นายจ้างจ้างเด็กอายุต่ำกว่าสิบห้าปีเป็นลูกจ้าง โดยหากมีการฝ่าฝืนของนายจ้างจะมีความผิดสูงสุด จำคุก 1 ปีหรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งกระทรวงแรงงานได้กำหนดเป็นนโยบายให้มีการตรวจการใช้แรงงานเด็กอย่างเข้มข้น หากพบการกระทำผิดในการใช้แรงงานเด็กให้มีการดำเนินคดีในทันที

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานมีความมุ่งมุ่นในการขจัดไม่ให้มีการใช้แรงงานเด็ก (Child Labour) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายตามอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 182 ว่าด้วยการดำเนินการโดยทันทีเพื่อขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย ที่ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันไปเมื่อ พ.ศ.2544 อันเป็นผลให้กระทรวงแรงงานต้องมีการจัดทำนโยบายและแผนระดับชาติเพื่อขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย พ.ศ. 2558 – 2563 ซึ่งเป็นฉบับที่ 2 เพื่อเป็นแผนแม่บทให้หน่วยงานต่างๆ ได้นำไปจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการฯ 5 ด้านยุทธศาสตร์ ได้แก่ การป้องกัน การช่วยเหลือและคุ้มครองฯ การพัฒนาและบังคับใช้กฎหมาย และการพัฒนาระบบบริหารจัดการและติดตามประเมินผล

ทั้งนี้ เมื่อกระทรวงแรงงานได้นำเสนอให้คณะรัฐมนตรีทราบแล้ว ทุกหน่วยงานสามารถนำแผนไปดำเนินการเพื่อให้เกิดผลเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของแผน คือ ประเทศไทยจะต้องปลอดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย ในปี พ.ศ.2563 ซึ่งถือได้ว่ากระทรวงแรงงานได้ให้การคุ้มครองสิทธิที่เป็นลูกจ้างเด็ก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายอันเดียวกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

“กระทรวงแรงงานดำเนินการแบบครบวงจรในการจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการตั้งแต่การป้องกัน คุ้มครอง ช่วยเหลือ และการนำเด็กคืนสู่สังคม โดยจะมีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ทำหน้าที่ในการฝึกทักษะฝีมือเพื่อช่วยเหลือเด็กที่ตกเป็นเหยื่อหรือเด็กที่ได้รับผลกระทบ เด็กที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้เขาเหล่านั้นมีทักษะฝีมือและกลับคืนสู่สังคมและดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขในสังคมต่อไป กระทรวงแรงงานหวังว่าเมื่อแผนชาติแล้วเสร็จทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันขับเคลื่อนและดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของแผนชาติ ตามวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ในแผนชาติ คือภายในปี 2563 ประเทศไทยจะปลอดจากการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย” รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าว

ด้านนายวีระพล ตั้งสุวรรณ รองประธานศาลฎีกา กล่าวว่า ได้ดำเนินโครงการบูรณาการสร้างเสริมสวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และครอบครัวในกระบวนการยุติธรรมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาระบบงานในศาลเยาวชนและครอบครัวให้สามารถพิจารณาคดีได้สมดังเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 ที่มุ่งให้ศาลเยาวชนและครอบครัวเป็นศูนย์กลางในการคุ้มครองและแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็ก เยาวชน และครอบครัว ตามที่กฎหมายบัญญัติอย่างมีมาตรฐานตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยการมีส่วนร่วมของเครือข่ายชุมชนทั่วประเทศ ทั้งในมิติด้านนโยบายระดับชาติ และมิติด้านการปฏิบัติงานในพื้นที่ต้นแบบและพื้นที่นำร่องทั่วประเทศ ทั้งนี้ นับเป็นการประสานความร่วมมือบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อคุ้มครองสิทธิและสร้างเสริมสวัสดิภาพเด็ก เยาวชนและครอบครัวในกระบวนการยุติธรรม ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

สำหรับการลงนามในบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ ประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับกระทรวง 13 กระทรวง หน่วยงานราชการอิสระ 4 หน่วยงาน หน่วยงานอิสระ 8 หน่วยงาน องค์กรระหว่างประเทศ 2 องค์กร คือ สำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ องค์กรภาคเอกชนต่างประเทศ 1 องค์กรและองค์กรภาคประชาสังคม 16 องค์กรร่วมกับสำนักงานศาลยุติธรรม รวมทั้งหมด 45 หน่วยงาน

+++++++++++++++++++“22 ปี กระทรวงแรงงาน แรงงานไทยมั่นคง ประเทศไทยมั่งคั่ง – ยั่งยืน”

ที่มา: http://www.thaigov.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ