กระทรวงอุตสาหกรรม เดินหน้าผนึกกำลังไทย - ญี่ปุ่นแบบพี่น้องตั้งเป้าดึงการลงทุนญี่ปุ่นในไทยเพิ่ม

ข่าวทั่วไป Wednesday September 23, 2015 14:24 —สำนักโฆษก

เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2558 นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นำคณะนักลงทุนญี่ปุ่นเข้าเยี่ยมคารวะ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จับมือกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม หรือ METI ของประเทศญี่ปุ่น ดำเนินโครงการการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องแบบโอตาไก (Otagai Business Continuity : Otagai BC) เพื่อช่วยเหลือการผลิตให้แก่กันหลังเกิดภัยพิบัติต่างๆ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับ นักลงทุนชาวต่างประเทศ และเตรียมรับกับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยวันที่ 22 กันยายน 2558 นักลงทุนญี่ปุ่นกว่า 230 ราย เดินทางเข้าพบรองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถกระชับความสัมพันธ์และช่วยดึงนักลงทุนญี่ปุ่นให้กลับเข้ามาในประเทศไทยได้เพิ่มมากยิ่งขึ้นต่อไป

ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากสถานการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ซึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 และมหาอุทกภัยที่ประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายนในปีเดียวกัน ได้สร้างความเสียหายอย่างมากแก่ระบบห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการร่วมมือกันระหว่างกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (The Ministry of Economy, Trade and Industry) หรือ METI ประเทศญี่ปุ่น และกระทรวงอุตสาหกรรมของไทยดำเนินโครงการการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องแบบโอตาไก (Otagai Business Continuity : Otagai BC) ตั้งแต่ปี 2555 โดยมีวัตถุประสงค์ในระยะแรกเพื่อความร่วมมือในการป้องกันการหยุดชะงักของระบบโซ่อุปทาน และให้ความสำคัญกับกระบวนการสร้างเครือข่ายวิสาหกิจแบบพี่น้อง (Sister Clusters) เพื่อการช่วยเหลือการผลิตให้แก่กันในช่วงที่เกิดและหลังเกิดภัยพิบัติต่างๆ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนชาวต่างประเทศ เกิดการรวมกลุ่มกันเป็นพันธมิตรในกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตลอดจนเตรียมรับกับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตระยะต่อมาได้เน้นการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างภาคอุตสาหกรรม ในด้านความร่วมมือเพื่อการยกระดับความสามารถการแข่งขันให้แก่กันและกัน ในลักษณะ win – win เน้นการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ SMEs ญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า “Only One Technology” โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและตลาดของภูมิภาค ซึ่งจะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคอุตสาหกรรมของทั้งสองฝ่าย และในอนาคตระยะที่ 3 จะยกระดับไปสู่การสนับสนุนทางการเงิน (Financial Support Phase) ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งสนับสนุนเงินทุนต่างๆ ของภาครัฐทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งนี้ ภายใต้การดำเนินงานโครงการโอตาไกดังกล่าว กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้มีการลงนามความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น ทั้งสิ้น 15 ราย ทั้งระดับรัฐบาลและระดับท้องถิ่น เพื่อร่วมกันส่งเสริมผลักดันการลงทุนและการพัฒนาอุตสาหกรรมของทั้ง 2 ฝ่าย และร่วมมือกันก้าวเดินหน้าเพื่อโอกาสในการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียนที่จะเกิดขึ้นปลายปี 2015

นอกจากนี้ ในวันที่ 23 กันยายน 2558 กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กำหนดให้มีการสัมมนาภายใต้ชื่อ โอตาไก คอนเคลฟ (Otagai Conclave) ครั้งที่ 12 ที่กรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานระหว่างไทยและญี่ปุ่นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยมีผู้บริหารจากบริษัทญี่ปุ่นและไทยหลายร้อยบริษัท รวมถึงหน่วยงานส่วนท้องถิ่นของญี่ปุ่นกว่า 600 ราย เข้าร่วมสัมมนาโดยมีเป้าหมายทำให้นวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นได้จริง ภายใต้การนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากผู้ประกอบการญี่ปุ่นจำนวน 16 บริษัท แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ 1. นวัตกรรมเกี่ยวกับน้ำและสภาพแวดล้อม (Aquanovation) 2. นวัตกรรมเกี่ยวกับเกษตรกรรมและการแปรรูป (Agronovation) 3. นวัตกรรมเกี่ยวกับการทำให้อุตสาหกรรมเติบโตและการทำให้ห่วงโซ่อุปทานแข็งแกร่งขึ้น(Supplinovation) โดยการจัดสัมมนาครั้งนี้จัดขึ้น ณ ห้อง แซฟไฟร์ 204 – 205 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายในงาน “Thailand Industry Expo 2015” ที่จัดขึ้นโดยกระทรวงอุตสาหกรรมเช่นกัน

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ