รองนายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีกับเอกอัครราชทูตฯ ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทย โดยเชื่อมั่นว่าด้วยความรู้และความสามารถของเอกอัครราชทูตฯ จะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรี ยังแสดงความยินดีกับผลสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคของฟิลิปปินส์ที่กรุงมะนิลาเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาด้วย รองนายกรัฐมนตรียังกล่าวขอบคุณฟิลิปปินส์ที่เข้าใจสถานการณ์การเมืองไทย และชี้แจงว่า ขณะนี้รัฐบาลไทยกำลังดำเนินการตาม Road map เพื่อที่จะสร้างความสงบเรียบร้อยและประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน
รองนายกรัฐมนตรี ขอรับความร่วมมือจากเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทยและรัฐบาลฟิลิปปินส์ ในการรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีอย่างสมพระเกียรติ ในการเสด็จฯ เยือนฟิลิปปินส์เพื่อเยี่ยมชมโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในพระราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในเดือนมกราคม 2559
รองนายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตฯยังหารือถึงการรับมือกับภัยพิบัติไต้ฝุ่น โดยแสดงความเสียใจกับฟิลิปปินส์ที่ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยเชื่อมั่นว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์จะสามารถฟื้นฟูความเสียหายจากพายุให้กลับคืนสู่ปกติได้โดยเร็ว รองนายกรัฐมนตรี ยังขอบคุณที่รัฐบาลฟิลิปปินส์เพิ่มการนำเข้าข้าวจากไทย หลังจากภาคการเกษตรของฟิลิปปินส์ได้รับความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่น
ด้านเอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีมาอย่างยาวนานและแน่นแฟ้น อีกทั้ง ยังกล่าวชมประเทศไทยในด้านการเกษตร โดยฟิลิปปินส์ต้องการที่จะแลกเปลี่ยน รวมถึงเรียนรู้เรื่องเกษตรกรรมจากไทย นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ ยังกล่าวว่า ในอนาคตกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จึงมีความเห็นว่า ทุกฝ่ายควรจะร่วมมือกันเพื่อสามารถบรรลุตามเป้าหมายของอาเซียน
ในตอนท้าย เอกอัครราชทูตฯ กล่าวขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีให้โอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและหารือกันในวันนี้ และหวังว่า ไทยและฟิลิปปินส์จะขยายความร่วมมือในสาขาต่างๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th