รมว.พม. เผยยอดลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดกว่า ๘,๐๐๐ ราย ย้ำวิธีคิดรายได้รวมครัวเรือนยากจนน้อยกว่า ๓,๐๐๐ บาทต่อคน ต้องหารรวมทารกในครรภ์ด้วย พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเด็กที่ถูกกระทำความรุนแรงที่จังหวัดนครปฐมและสมุทรปราการ

ข่าวทั่วไป Monday November 2, 2015 14:41 —สำนักโฆษก

วันนี้ (๒ พ.ย. ๕๘) เวลา ๐๘.๐๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.)เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.)ครั้งที่ ๒๗๓/๒๕๕๗-๒๕๕๘ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.)ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข รับผิดชอบ เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์ที่ฝากครรภ์กับสถานพยาบาล และมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่โครงการฯ กำหนด ยื่นลงทะเบียนด้วยตนเองที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามที่อยู่ปัจจุบัน ได้แก่ สำนักงานเขตในกรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา เทศบาล หรือ อบต. ตั้งแต่วันที่ ๑๕ ก.ย.๕๘ ที่ผ่านมา ขณะนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ ๒ พ.ย.๕๘ เวลา ๑๐.๐๐ น.) มีผู้มายื่นลงทะเบียนแล้วทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น ๘,๗๖๐ คน แยกเป็นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน ๔๐๒ คน และต่างจังหวัด จำนวน ๘,๓๕๘ คน สำหรับคุณสมบัติของผู้ขอรับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ต้องเป็นหญิงตั้งครรภ์ที่มีกำหนดคลอดบุตรระหว่างวันที่ ๑ ต.ค.๕๘ ถึง ๓๐ ก.ย.๕๙ อาศัยอยู่ในครัวเรือนยากจนและเสี่ยงต่อความยากจนที่ได้รับการรับรองสถานะ ของครัวเรือน ซึ่งผู้ขอรับสิทธิ์จะต้องมีรายได้เฉลี่ยในครัวเรือนน้อยกว่า ๓,๐๐๐ บาทต่อคนต่อเดือน หรือรายได้เฉลี่ยต่อปีน้อยกว่า ๓๖,๐๐๐ บาทต่อคนต่อปี โดยคิดจากการนำรายได้รวมของสมาชิกทั้งหมดในครัวเรือนมาหารด้วยจำนวนสมาชิกทั้งหมด ทั้งนี้ ให้รวมเด็กแรกเกิดที่อยู่ในครรภ์ด้วย และต้องมีผู้รับรองสถานะครัวเรือน จำนวน ๒ คน อย่างไร ก็ตาม ประชาชนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมกิจการเด็กและเยาวชน โทร. ๐๒ ๖๕๑ ๖๕๓๒ ภายในวัน และเวลาราชการ และศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC โทร. สายด่วน ๑๓๐๐ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าช่วยเหลือเด็ก ๒ พี่น้องชาย-หญิง อายุ ๗ ขวบ และ ๕ ขวบ ที่ถูกแม่และพ่อเลี้ยงทุบตีทำร้ายร่างกายเป็นประจำทุกวัน ให้อดข้าวอดน้ำ และจับขังในห้องไม่ให้ไปโรงเรียน ที่จังหวัดนครปฐม ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครปฐม (พมจ.นครปฐม) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมเร่งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กทั้งสองคนโดยด่วน ขณะนี้ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครปฐม ได้รับเด็กทั้งสองคนเข้าไว้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพชั่วคราวเรียบร้อยแล้ว และระหว่างที่เด็กทั้งสองคนเข้ารับการคุ้มครองฯ เจ้าหน้าที่จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นักจิตวิทยา จิตแพทย์ ร่วมกันแนะนำให้คำปรึกษาการเลี้ยงดูเด็กอย่างถูกต้องเหมาะสมแก่แม่เด็กและพ่อเลี้ยง เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระยะยาวต่อไป และสำหรับกรณีหญิงอายุ ๒๙ ปี มีพฤติกรรมติดยาเสพติดอย่างหนัก จนไม่สนใจลูกชายวัย ๖ เดือน ให้ดื่มน้ำเปล่าแทนนม เลี้ยงดูแบบทิ้งขว้าง มีอาชีพเก็บของเก่าขาย เพื่อหาเงินไปซื้อยาเสพติด ซึ่งญาติทนไม่ไหวจึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาจับกุม ที่จังหวัดสมุทรปราการ ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรปราการ (พมจ.สมุทรปราการ) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ

"อย่างไรก็ตาม ตนมีความห่วงใยปัญหาในลักษณะดังกล่าวกับทุกครอบครัว และขอให้ผู้ปกครองเลี้ยงดูบุตรหลานด้วยความรัก ความเข้าใจ ถูกต้องและเหมาะสม หากเด็กกระทำผิดควรตักเตือน อบรมสั่งสอนสร้างความเข้าใจให้เด็ก ไม่กระทำผิดซ้ำ ไม่ควรใช้ความรุนแรงต่อเด็กในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ หากประชาชนประสบปัญหาในลักษณะดังกล่าวหรือพบเห็นปัญหาการใช้ความรุนแรงต่อเด็ก รวมทั้งประสบปัญหาทางสังคมต่างๆ สามารถแจ้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC สายด่วน ๑๓๐๐ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำปรึกษา และประสานหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนทั่วประเทศ” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ