วันนี้ (24 มี.ค.59) เวลา 13:00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวมอบโอวาทและบรรยายพิเศษ เรื่อง "วิชาชีวิต วิชาพ่อ วิชาแห่งความสุข" แก่คณะยุวชนประชาธิปไตย รุ่นที่ 1 และเจ้าหน้าที่ของสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในโครงการส่งเสริมและสนับสนุนความปรองดองสมานฉันท์และการมีส่วนร่วมของเยาวชนเพื่อพัฒนาประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง กิจกรรมยุวชนประชาธิปไตย สัมมนาเชิงปฏิบัติการ จัดโดยสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยมี เจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน
โอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวบรรยายพิเศษ เรื่อง "วิชาชีวิต วิชาพ่อ วิชาแห่งความสุข" แก่คณะยุวชนประชาธิปไตย รุ่นที่ 1 ในเรื่องต่าง ๆ เช่น เรื่องของความเป็นบ้านเมืองไทยที่ยึดความร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา ความรู้รักสามัคคี และได้กล่าวถึงหน้าที่ของเยาวชนที่ดีว่า ต้องช่วยกันดำรงประเทศไทยสืบไปเหมือนเช่นเดียวกันกับยุวชนประชาธิปไตยรุ่นที่ผ่านมาได้บำเพ็ญปฏิบัติ ซึ่งประเทศไทยขณะนี้ต้องมีการสนทนาหารือกันเหมือนกับที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานสอนคนไทยว่า “เราจะมาใช้อารมณ์เข้าทะเลาะเบาะแว้งประหัตประหารกันได้อย่างไร” รวมถึงพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานไว้ “รู้รัก สามัคคี เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” โดยอธิบายว่าเมื่อ “รู้” ลูกหลานจะเกิดความเข้าใจ เมื่อ “รัก” ลูกหลานจะสามารถเข้าถึงได้ในทุกเรื่องด้วยความสมัครใจ เมื่อ “เกิดความสามัคคี” ลูกหลาน ครอบครัว องค์กร ประเทศชาติก็จะเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ดังนั้นต้องนำเรื่องดังกล่าวผสานเข้าด้วยกันและนำมาปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม ขณะเดียวกันต้องรู้จักปฏิบัติตนและแสดงออกต่อผู้อื่นด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน เปรียบเหมือนรวงข้าวที่มีเมล็ดดีเต็มรวงแล้วโน้มลงสู่พื้นผิวดิน รวมทั้ง ขอให้ทุกคนมีความภาคภูมิใจและรักษาสืบสานประเพณีวัฒนธรรมต่าง ๆ ในท้องถิ่นของตนเองไว้ โดยเฉพาะภาษาถิ่นให้นำมาปฏิบัติและสื่อสารได้ตลอดตามช่วงเวลา จังหวะ และโอกาสอย่างเหมาะสม
พร้อมกันนี้ ได้กล่าวยกตัวอย่างถึงกรอบความคิดของชาวยุโรปที่เป็นราชอาณาจักร เช่น สเปน เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และกลุ่มสแกนดิเนเวีย ฯลฯ ซึ่งอยู่ร่วมกันด้วยความรักสามัคคีกัน และหากมีคนบุคคลใดมาทำร้ายพวกเขาก็รวมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อสกัดไม่ให้ผู้ที่ไม่ประสงค์ดีต่อยุโรปหรือประเทศในบริเวณนั้นเข้ามารุกรานข่มเหงรังแกได้ ขณะที่ประเทศไทยกลับข่มเหงกันเองและไม่ชูเชิดแผ่นดินซึ่งเป็นหัวใจของเรา เพราะฉะนั้นยุวชนประชาธิปไตยฯ ทุกคนต้องทำหน้าที่ปกป้อง รักษาดำรงประเทศและแผ่นดินนี้ไว้ด้วยขัตติยะมานะเหมือนกับที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับมอบหมายให้มาพูดคุยกับยุวชนประชาธิปไตยอย่างจริงใจและขอให้ทุกคนมองประเทศชาติเป็นธรรมชาติแห่งความรัก ความสามัคคี และร่วมกันนำพาประเทศไทยไปสู่ความร่มเย็นเป็นสุขต่อไปในอนาคต
รวมทั้ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้ฝากความรักและความปรารถนาดีมายังทุกคนที่ได้เดินทางมาเยี่ยมถึงสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ พร้อมย้ำให้ยุวชนประชาธิปไตยฯ ใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียด้วยความตระหนักรับผิดชอบ รู้เท่าทัน โดยการไม่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่จะเป็นการสร้างความขัดแย้งหรือข้อความในลักษณะที่เป็นการให้ร้ายบุคคลอื่น เพราะเยาวชนถือเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศจึงต้องร่วมกันสร้างความรักสามัคคีให้เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอให้น้อมหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและพระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ
อีกทั้ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบรางวัลและของที่ระลึกให้แก่ยุวชนประชาธิปไตยฯ ที่สามารถตอบคำถามได้ถูกต้อง พร้อมถ่ายภาพหมู่ร่วมกับยุวชนประชาธิปไตย ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ก่อนเดินทางกลับ
--------------------
กลุ่มยุทธ์ศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th