นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย
ในโอกาสเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอย่างเป็นทางการ
ระหว่างวันที่ 13-14 มิถุนายน 2544
ในวันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน 2544 เวลา 11.30 น. ณ. ตึกไทยคู่ฟ้า
***************************
ผู้สื่อข่าวทีวีพูล การไปเยือนลาวครั้งนี้ นอกจากเป็นการเยือนอาเซียนธรรมดาแล้ว ยังมีจุดประสงค์อื่นอีกหรือไม่
นายกรัฐมนตรี จุดประสงค์หลักก็คงเป็นเรื่องของการที่จะส่งเสริมความเข้าใจอันดี ซึ่งเราเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอยู่แล้ว บางครั้งก็อาจจะมีเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจกันบ้าง ทางลาวกังวลเรื่องอะไร ทางเรากังวลเรื่องอะไร อาจจะเป็นเรื่อง
ที่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว ก็ควรจะไปคุยกันเพื่อไม่ให้มีความกังวลซึ่งกันและกัน แล้วก็ เรื่องที่สองเป็นเรื่องสืบเนื่องจากการที่ผมได้เสนอให้ท่านนายกรัฐมนตรี
จู หรงจี เป็นผู้นำในการจัดประชุมซัมมิท 4 ประเทศคือ ไทย จีน พม่า แล้วก็ลาว ที่คุณหมิง ซึ่งท่านรับแล้ว และ ทางลาวก็ได้แล้วก็จะไปยืนยันอีกครั้งหนึ่ง ว่าเราทั้ง 4 ประเทศจะไปด้วยกัน ไปประชุมกัน เพื่อหาทางแก้ปัญหา ซึ่งเป็นปัญหาร่วมกันทั้งหมด วันนี้ที่ลาวเองก็มีการแพร่ระบาดของยาบ้าที่สุวรรณเขตมากขึ้น ซึ่งเราก็จะได้คุยกัน นอกจากนั้นเราจะได้คุยกันถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ คมนาคมเชื่อมโยงกัน ระหว่างไทย-ลาว เวียดนาม ซึ่งวันนี้ ฝั่งไทยเรียบร้อย ฝั่งเวียดนามเรียบร้อยก็เหลือฝั่งลาว ซึ่งก็จะไปให้ความมั่นใจกับเขา ในการที่จะทำถนนให้เชื่อมกัน เพื่อให้การเดินทาง อีกส่วนหนึ่งก็คือถนนที่เชื่อมระหว่างตอนใต้ของจีน และก็ไทย-ลาว
ผู้สื่อข่าวทีวีพูล ในเรื่องการปราบปรามยาเสพติดที่เราให้ทางลาวเข้ามามีส่วนร่วมด้วย คิดว่าลาวจะได้อะไรจากตรงนี้บ้าง และทางไทยจะมีข้อเสนอเรื่องใดบ้าง
นายกรัฐมนตรี ความจริงเป็นเรื่องที่เป็นทั้งหน้าที่และเป็นทั้งความรับผิดชอบร่วมกัน เพราะเนื่องจากว่าวันนี้ขบวนการผลิตยาเสพติดได้เคลื่อนย้ายจากพม่าไปที่ลาวบางส่วนใช้พื้นที่ของลาวมาผลิต ยาเสพติด ส่งขายทั้งไทย และลาว เพราะฉะนั้นเขาเดือดร้อนเราก็เดือดร้อน เพราะฉะนั้นเราต้องทำการลาดตระเวณ ในบริเวณชายแดน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราจะคุยกัน
ผู้สื่อข่าวทีวีพูล อยากทราบว่าความร่วมมือของผู้นำทั้ง 4 ประเทศ จีน-ไทย-ลาวและพม่า จะช่วยแก้ปัญหายาเสพติด ได้จริงจังแค่ไหน
นายกรัฐมนตรี ผมเชื่อว่าอย่างน้อยมันจะเบาบางขึ้น การแพร่กระจายที่มากอย่างในอดีตนั้นก็จะเบาบางไปมาก อย่างน้อยๆ ก็คือ อย่างเช่นที่จีน น้ำยาตั้งต้น น้ำยาของสารตั้งต้นที่ผลิต แอฟแฟตามินก็ไปจากจีนหรืออินเดีย จากจีนจะมากที่สุด ซึ่งตรงนีี้้ก็เป็นจุดหนึ่งที่เราจะพูด เพื่อให้เขาหาทางควบคุม ส่วนพม่า ผมเชื่อว่าเขาก็พร้อมที่จะพัฒนาประเทศของเขา เพื่อไม่ให้มีสิ่งนี้เหมือนกัน เพราะว่าผลสุดท้ายแล้ว มันก็กลับไปทำลายตัวเองอยู่ดี ก็ต้องให้เวลา ให้โอกาสเขาเหมือนกัน ถ้าเขาจริงใจที่จะช่วยกันแก้ และจะมีจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ มีประชากรสูง เป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้ง 3 ประเทศ ถ้าเขามาเป็นประธานให้ด้วย ก็จะทำให้การมองปัญหาร่วมกันอย่างจริงจัง การแก้ปัญหาร่วมกันอย่างจริงจัง เกิดเป็นรูปธรรมมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวทีวีพูล เป็นการสร้างความสำคัญให้อาเซียนเข้มแข็งขึ้นกว่าเดิมหรือไม่
นายกรัฐมนตรี แน่นอนครับ อาเซียนเดิมทีเดียวค่อนข้างเข้มแข็ง แต่วันนี้อาเซียนมีปัญหาทางเศรษฐกิจแทบทุกประเทศ เพราะฉะนั้นวันนี้ทางเศรษฐกิจเริ่มอยู่ตัว และโอกาสที่จะฟื้นตัวมันก็เริ่มจะเห็นแล้ว เพราะฉะนั้นควรที่จะต้องกลับมามองหาความเข้มแข็งในความสัมพันธ์ การรวมพลังที่เป็นฐานเศรษฐกิจที่ใหญ่แถบนี้อีกครั้งนี้ ซึ่งเราต้องพูดจากันด้วยความใกล้ชิดกันมากขึ้นกว่าเดิม
ผู้สื่อข่าวทีวีพูล ในแง่ของเศรษฐกิจจะทำให้อาเซียนมีความแข็งแกร่งมากขึ้น เราจะสามารถจับมือกันในด้านนี้มากน้อยแค่ไหน
นายกรัฐมนตรี ส่วนใหญ่แล้ว คู่ค้าแต่ละประเทศ ก็เริ่มมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น อย่างไทยกับมาเลเซีย ไทยกับเวียดนาม หลังจากที่ผมไปเยือนมา ความร่วมมือต่อกันเริ่มเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมเร็วมาก หลังจากการที่ไปเยือนแล้ว ผมเชื่อว่าการที่ผมจะไปเยือนลาว กัมพูชาและประเทศพม่า ก็จะทำให้ความสัมพันธ์ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และทางด้านสังคมใกล้ชิดมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวทีวีพูล ด้านการคมนาคม เรายังมีปัญหาในด้านเส้นทางเชื่อมต่อจากลาว จำเป็นต้องขอรับเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศหรือไม่
นายกรัฐมนตรี เข้าใจว่าลาวได้รับเงินกู้จาก ADB นะครับ ในเส้นทางจากทางด้านมุกดาหาร ไปสุวรรณเขต เพื่อไปเชื่อมต่อจากเวียดนาม บางเส้นทาง อย่างเช่น เส้นทางจากจีน เส้นทางที่จะไปหลวงพระบาง เพื่อประโยชน์การท่องเที่ยวร่วมกันของสองประเทศนั้น ก็อาจจะดูว่า อาจจะมีการช่วยเหลือกัน ในรูปแบบใดแบบหนึ่งบ้าง
ผู้สื่อข่าวทีวีพูล ในเรื่องของพลังงานไฟฟ้า ท่านคิดว่าต้องมีการลงนามความร่วมมือเพิ่มเติมกันอีกหรือไม่
นายกรัฐมนตรี ตรงจุดนี้ ถ้าเราช่วยเหลือเป็นการช่วยเหลือเขาได้ด้วย แทนที่เรามาจะผลิตไฟฟ้าโดยการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงที่เราต้องนำเข้า เราก็ต้องนำเข้าพลังงานสำเร็จรูปจากลาวมา ก็น่าจะเป็นสิ่งที่เกื้อกูลกัน ทำให้เศรษฐกิจลาวเข้มแข็งขึ้น สิ่งนี่ควรจะทำ เพราะเราเองก็ ไม่ได้ว่าเรานำเข้าพลังงานสำเร็จรูป จากลาว เราก็นำเข้าเชื้อเพลิงเท่าเดิมเมื่อไหร่ เราก็ ลดการนำเข้าเชื้อเพลิงอยู่แล้ว แทนที่จะนำเข้าจากประเทศที่ร่ำรวยอยู่แล้ว ก็นำเข้าจากประเทศที่ยากจนบางก็ไม่น่าเสียหายอะไร
ผู้สื่อข่าวทีวีพูล การเดินทางเยือนลาวครั้งนี้จะมีการลงนามทำสัญญาอะไรเพิ่มเติมหรือไม่
นายกรัฐมนตรี อันนี้ ผมจะต้องคุยในรายละเอียดว่า โดยหลักการว่าเป็นอย่างไร ในหลักการผมถือว่าเราย้ายที่นำเข้า ถ้าเราจะนำเข้าจากประเทศที่ยากจน เป็นการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้านกัน มันก็ควรจะต้องช่วยเหลือกัน
ผู้สื่อข่าวทีวีพูล คิดว่าเขาจะตอบรับในความช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องนี้กับเราหรือไม่
นายกรัฐมนตรี เขาอยากได้ คือเขาลงทุนไปแล้ว เขาจะขายใครเขาก็ต้องขายไทย เมื่อขายไทยไทยก็ควรจะช่วยกันในฐานะที่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน
ผู้สื่อข่าว ทีวีพูล มีการลงนามเรื่องอื่นอีกหรือไม่
นายกรัฐมนตรี ในเรื่องอื่นก็ ขณะนี้ทางด้านลาวมีปัญหาน้อย ปัญหาความขัดแย้ง ปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ที่มีต่อกันไม่ได้มากเกินไป มันเป็นเรื่องของการที่เราจะไปเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดขึ้น มีความเข้าใจกันที่ดีขึ้น ส่วนประเทศอื่นนั้น อาจจะมีความขัดแย้งอยู่ ซึ่งจะไปแก้ปัญหาความขัดแย้งทั้งหลายได้ ลาวมีน้อย ปัญหาเรื่องพวกนี้มีน้อย แต่ว่าเป็นประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดี
--สำนักโฆษก--
-สส-
ในโอกาสเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอย่างเป็นทางการ
ระหว่างวันที่ 13-14 มิถุนายน 2544
ในวันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน 2544 เวลา 11.30 น. ณ. ตึกไทยคู่ฟ้า
***************************
ผู้สื่อข่าวทีวีพูล การไปเยือนลาวครั้งนี้ นอกจากเป็นการเยือนอาเซียนธรรมดาแล้ว ยังมีจุดประสงค์อื่นอีกหรือไม่
นายกรัฐมนตรี จุดประสงค์หลักก็คงเป็นเรื่องของการที่จะส่งเสริมความเข้าใจอันดี ซึ่งเราเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอยู่แล้ว บางครั้งก็อาจจะมีเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจกันบ้าง ทางลาวกังวลเรื่องอะไร ทางเรากังวลเรื่องอะไร อาจจะเป็นเรื่อง
ที่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว ก็ควรจะไปคุยกันเพื่อไม่ให้มีความกังวลซึ่งกันและกัน แล้วก็ เรื่องที่สองเป็นเรื่องสืบเนื่องจากการที่ผมได้เสนอให้ท่านนายกรัฐมนตรี
จู หรงจี เป็นผู้นำในการจัดประชุมซัมมิท 4 ประเทศคือ ไทย จีน พม่า แล้วก็ลาว ที่คุณหมิง ซึ่งท่านรับแล้ว และ ทางลาวก็ได้แล้วก็จะไปยืนยันอีกครั้งหนึ่ง ว่าเราทั้ง 4 ประเทศจะไปด้วยกัน ไปประชุมกัน เพื่อหาทางแก้ปัญหา ซึ่งเป็นปัญหาร่วมกันทั้งหมด วันนี้ที่ลาวเองก็มีการแพร่ระบาดของยาบ้าที่สุวรรณเขตมากขึ้น ซึ่งเราก็จะได้คุยกัน นอกจากนั้นเราจะได้คุยกันถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ คมนาคมเชื่อมโยงกัน ระหว่างไทย-ลาว เวียดนาม ซึ่งวันนี้ ฝั่งไทยเรียบร้อย ฝั่งเวียดนามเรียบร้อยก็เหลือฝั่งลาว ซึ่งก็จะไปให้ความมั่นใจกับเขา ในการที่จะทำถนนให้เชื่อมกัน เพื่อให้การเดินทาง อีกส่วนหนึ่งก็คือถนนที่เชื่อมระหว่างตอนใต้ของจีน และก็ไทย-ลาว
ผู้สื่อข่าวทีวีพูล ในเรื่องการปราบปรามยาเสพติดที่เราให้ทางลาวเข้ามามีส่วนร่วมด้วย คิดว่าลาวจะได้อะไรจากตรงนี้บ้าง และทางไทยจะมีข้อเสนอเรื่องใดบ้าง
นายกรัฐมนตรี ความจริงเป็นเรื่องที่เป็นทั้งหน้าที่และเป็นทั้งความรับผิดชอบร่วมกัน เพราะเนื่องจากว่าวันนี้ขบวนการผลิตยาเสพติดได้เคลื่อนย้ายจากพม่าไปที่ลาวบางส่วนใช้พื้นที่ของลาวมาผลิต ยาเสพติด ส่งขายทั้งไทย และลาว เพราะฉะนั้นเขาเดือดร้อนเราก็เดือดร้อน เพราะฉะนั้นเราต้องทำการลาดตระเวณ ในบริเวณชายแดน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราจะคุยกัน
ผู้สื่อข่าวทีวีพูล อยากทราบว่าความร่วมมือของผู้นำทั้ง 4 ประเทศ จีน-ไทย-ลาวและพม่า จะช่วยแก้ปัญหายาเสพติด ได้จริงจังแค่ไหน
นายกรัฐมนตรี ผมเชื่อว่าอย่างน้อยมันจะเบาบางขึ้น การแพร่กระจายที่มากอย่างในอดีตนั้นก็จะเบาบางไปมาก อย่างน้อยๆ ก็คือ อย่างเช่นที่จีน น้ำยาตั้งต้น น้ำยาของสารตั้งต้นที่ผลิต แอฟแฟตามินก็ไปจากจีนหรืออินเดีย จากจีนจะมากที่สุด ซึ่งตรงนีี้้ก็เป็นจุดหนึ่งที่เราจะพูด เพื่อให้เขาหาทางควบคุม ส่วนพม่า ผมเชื่อว่าเขาก็พร้อมที่จะพัฒนาประเทศของเขา เพื่อไม่ให้มีสิ่งนี้เหมือนกัน เพราะว่าผลสุดท้ายแล้ว มันก็กลับไปทำลายตัวเองอยู่ดี ก็ต้องให้เวลา ให้โอกาสเขาเหมือนกัน ถ้าเขาจริงใจที่จะช่วยกันแก้ และจะมีจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ มีประชากรสูง เป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้ง 3 ประเทศ ถ้าเขามาเป็นประธานให้ด้วย ก็จะทำให้การมองปัญหาร่วมกันอย่างจริงจัง การแก้ปัญหาร่วมกันอย่างจริงจัง เกิดเป็นรูปธรรมมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวทีวีพูล เป็นการสร้างความสำคัญให้อาเซียนเข้มแข็งขึ้นกว่าเดิมหรือไม่
นายกรัฐมนตรี แน่นอนครับ อาเซียนเดิมทีเดียวค่อนข้างเข้มแข็ง แต่วันนี้อาเซียนมีปัญหาทางเศรษฐกิจแทบทุกประเทศ เพราะฉะนั้นวันนี้ทางเศรษฐกิจเริ่มอยู่ตัว และโอกาสที่จะฟื้นตัวมันก็เริ่มจะเห็นแล้ว เพราะฉะนั้นควรที่จะต้องกลับมามองหาความเข้มแข็งในความสัมพันธ์ การรวมพลังที่เป็นฐานเศรษฐกิจที่ใหญ่แถบนี้อีกครั้งนี้ ซึ่งเราต้องพูดจากันด้วยความใกล้ชิดกันมากขึ้นกว่าเดิม
ผู้สื่อข่าวทีวีพูล ในแง่ของเศรษฐกิจจะทำให้อาเซียนมีความแข็งแกร่งมากขึ้น เราจะสามารถจับมือกันในด้านนี้มากน้อยแค่ไหน
นายกรัฐมนตรี ส่วนใหญ่แล้ว คู่ค้าแต่ละประเทศ ก็เริ่มมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น อย่างไทยกับมาเลเซีย ไทยกับเวียดนาม หลังจากที่ผมไปเยือนมา ความร่วมมือต่อกันเริ่มเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมเร็วมาก หลังจากการที่ไปเยือนแล้ว ผมเชื่อว่าการที่ผมจะไปเยือนลาว กัมพูชาและประเทศพม่า ก็จะทำให้ความสัมพันธ์ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และทางด้านสังคมใกล้ชิดมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวทีวีพูล ด้านการคมนาคม เรายังมีปัญหาในด้านเส้นทางเชื่อมต่อจากลาว จำเป็นต้องขอรับเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศหรือไม่
นายกรัฐมนตรี เข้าใจว่าลาวได้รับเงินกู้จาก ADB นะครับ ในเส้นทางจากทางด้านมุกดาหาร ไปสุวรรณเขต เพื่อไปเชื่อมต่อจากเวียดนาม บางเส้นทาง อย่างเช่น เส้นทางจากจีน เส้นทางที่จะไปหลวงพระบาง เพื่อประโยชน์การท่องเที่ยวร่วมกันของสองประเทศนั้น ก็อาจจะดูว่า อาจจะมีการช่วยเหลือกัน ในรูปแบบใดแบบหนึ่งบ้าง
ผู้สื่อข่าวทีวีพูล ในเรื่องของพลังงานไฟฟ้า ท่านคิดว่าต้องมีการลงนามความร่วมมือเพิ่มเติมกันอีกหรือไม่
นายกรัฐมนตรี ตรงจุดนี้ ถ้าเราช่วยเหลือเป็นการช่วยเหลือเขาได้ด้วย แทนที่เรามาจะผลิตไฟฟ้าโดยการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงที่เราต้องนำเข้า เราก็ต้องนำเข้าพลังงานสำเร็จรูปจากลาวมา ก็น่าจะเป็นสิ่งที่เกื้อกูลกัน ทำให้เศรษฐกิจลาวเข้มแข็งขึ้น สิ่งนี่ควรจะทำ เพราะเราเองก็ ไม่ได้ว่าเรานำเข้าพลังงานสำเร็จรูป จากลาว เราก็นำเข้าเชื้อเพลิงเท่าเดิมเมื่อไหร่ เราก็ ลดการนำเข้าเชื้อเพลิงอยู่แล้ว แทนที่จะนำเข้าจากประเทศที่ร่ำรวยอยู่แล้ว ก็นำเข้าจากประเทศที่ยากจนบางก็ไม่น่าเสียหายอะไร
ผู้สื่อข่าวทีวีพูล การเดินทางเยือนลาวครั้งนี้จะมีการลงนามทำสัญญาอะไรเพิ่มเติมหรือไม่
นายกรัฐมนตรี อันนี้ ผมจะต้องคุยในรายละเอียดว่า โดยหลักการว่าเป็นอย่างไร ในหลักการผมถือว่าเราย้ายที่นำเข้า ถ้าเราจะนำเข้าจากประเทศที่ยากจน เป็นการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้านกัน มันก็ควรจะต้องช่วยเหลือกัน
ผู้สื่อข่าวทีวีพูล คิดว่าเขาจะตอบรับในความช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องนี้กับเราหรือไม่
นายกรัฐมนตรี เขาอยากได้ คือเขาลงทุนไปแล้ว เขาจะขายใครเขาก็ต้องขายไทย เมื่อขายไทยไทยก็ควรจะช่วยกันในฐานะที่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน
ผู้สื่อข่าว ทีวีพูล มีการลงนามเรื่องอื่นอีกหรือไม่
นายกรัฐมนตรี ในเรื่องอื่นก็ ขณะนี้ทางด้านลาวมีปัญหาน้อย ปัญหาความขัดแย้ง ปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ที่มีต่อกันไม่ได้มากเกินไป มันเป็นเรื่องของการที่เราจะไปเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดขึ้น มีความเข้าใจกันที่ดีขึ้น ส่วนประเทศอื่นนั้น อาจจะมีความขัดแย้งอยู่ ซึ่งจะไปแก้ปัญหาความขัดแย้งทั้งหลายได้ ลาวมีน้อย ปัญหาเรื่องพวกนี้มีน้อย แต่ว่าเป็นประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดี
--สำนักโฆษก--
-สส-