รอง นรม. พลเอก ประวิตรฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารการบูรณาการแผนและระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ทั่วประเทศ ครั้งที่ 1/2560

ข่าวทั่วไป Friday June 16, 2017 15:02 —สำนักโฆษก

ได้พิจารณาติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มเติมอีกประมาณ 40,000 กว่าจุด เพื่อจะได้ครอบคลุมในพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด

วันนี้ (16 มิ.ย. 60) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 109 ชั้น 1 อาคารสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารการบูรณาการแผนและระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ทั่วประเทศ ครั้งที่ 1/2560

ภายหลังเลิกการประชุม เวลา 11.15 น. พลตรี คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ได้แถลงข่าวถึงผลสรุปของการประชุมดังกล่าวว่า รัฐบาลโดยพลเอก ประยุทร์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญเรื่องการรักษาความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งกล้องโทรศัศน์วงจรปิด หรือกล้อง CCTV จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง โดยรัฐบาลได้ให้สำรวจกล้องวงจรปิดทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ผลการสำรวจเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยสำรวจทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเฉพาะที่ฉายไปในพื้นที่สาธารณะมีประมาณ 300,000 กว่ากล้อง จากการสำรวจในส่วนราชการซึ่งเป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรี พบว่ามีกล้องในส่วนที่ชำรุดจะต้องไปดำเนินการซ่อมแซมให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว โดยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนการสำรวจเพิ่มเติมได้มีการพิจารณาว่ามีความจำเป็นที่จะต้องติดตั้งกล้องเพิ่มเติมอีกประมาณ 40,000 กว่ากล้อง เพื่อจะได้ครอบคลุมในพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด เพื่อให้การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายว่า เรื่องกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) เป็นเรื่องของความมั่นคง ก็จะนำข้อมูลเหล่านี้เข้าสู่การประชุมในสภาความมั่นคงแห่งชาติด้วย และที่ประชุมในวันนี้ได้ร่วมกันพิจารณาแผนเชื่อมโยงบูรณาการการใช้กล้อง CCTV และการบริหารจัดการในภาพรวม โดยพิจารณาว่าการเชื่อมโยงข้อมูลจะต้องสามารถเชื่อมโยงข้อมูล Real Time ให้ฝ่ายปกครอง และตำรวจสามารถใช้งานร่วมกันได้ด้วย โดยการจัดตั้งศูนย์ควบคุม มีตำรวจและมหาดไทยร่วมกันจัดตั้งศูนย์ควบคุมระดับจังหวัด ทั้ง 77 จังหวัด ถ้าจังหวัดไหนที่สถานีตำรวจมีความพร้อมก็ให้สถานีตำรวจนั้นเป็นที่ตั้งศูนย์ควบคุมระดับจังหวัด โดยมีกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดูแลในภาพรวม

โฆษกกระทรวงกลาโหมแถลงเพิ่มเติมว่า ในส่วนพื้นที่ชายแดน 3 จังหวัดภาคใต้ การจัดตั้งศูนย์ควบคุมเป็นหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 (กอรมน.ภาค4) โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากขึ้น โดยพิจารณาในเรื่องของสิทธิประโยชน์ของภาคเอกชนที่เข้ามามีส่วนร่วม อาทิเช่น การลดหย่อนเรื่องภาษี หรือการลดค่าไฟฟ้าสำหรับหน่วยงานเอกชนที่ติดตั้งกล้อง CCTV ที่ฉายไปยังพื้นที่สาธารณะด้วย

..................................................................................................

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ