นายกรัฐมนตรีเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติฯ กระทรวงศึกษาธิการ ย้ำเด็กต้องมีความรู้ คิดวิเคราะห์ด้วยเหตุและผล ใช้เทคโนโลยีในเชิงสร้างสรรค์ ร่วมกันขับเคลื่อนประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

ข่าวทั่วไป Saturday January 13, 2018 13:23 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 ของกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้แนวคิด “เด็กเอ๋ย...เด็กดี” ย้ำเด็กต้องมีความรู้ และคิดวิเคราะห์ด้วยเหตุและผล ใช้เทคโนโลยีในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

วันนี้ (13 ม.ค.61) เวลา 08.30 น. ณ กระทรวงศึกษาธิการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 ของกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้แนวคิด “เด็กเอ๋ย...เด็กดี” โดยมี นายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายอุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมการจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ เด็กและเยาวชน พ่อแม่ ผู้ปกครองและสื่อมวลชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ชมการแสดงของเด็กและเยาวชน ชุด “เทคโนโลยี กับเด็กดี 2018” พร้อมกล่าวให้โอวาทแก่เด็กและเยาวชนว่า วันเด็กแห่งชาติเป็นวันที่มีความสำคัญอีกวันหนึ่ง เพื่อให้ผู้ใหญ่ทั้งหลาย ได้ตระหนักถึงความสำคัญของเด็กๆ และร่วมกันส่งเสริมการเรียนรู้ในทุกด้าน เพื่อให้เด็กและเยาวชนเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศต่อไป

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำว่า เด็กและเยาวชนคือกำลังสำคัญที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต จึงควรได้รับการหล่อหลอมและอบรมสั่งสอนให้มีความรู้ มีคุณธรรมจริยธรรมรู้จักหน้าที่ของตนเอง มีความกตัญญู รู้รักสามัคคี และมีระเบียบวินัย รวมถึงการมอบความรักความอบอุ่นให้เด็กและเยาวชนมีความสมบูรณ์แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กและเยาวชน อันจะนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีในวันข้างหน้า สอดคล้องกับคำขวัญวันเด็กในปี 2561 ว่า “รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี” เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีถือว่ามีความสำคัญอย่างมากในการใช้ชีวิตของทุกคน เด็กและเยาวชนทุกคนจะต้องมีความรู้และมีทักษะของการคิดวิเคราะห์ด้วยหลักเหตุและผล รวมถึงการคิดในเชิงสร้างสรรค์ทั้งในการศึกษาและการดำเนินชีวิต โดยจะต้องเริ่มการบ่มเพาะจากสถานศึกษาเป็นสำคัญในการเตรียมการเรียนการสอนด้วยกระบวนการของการเรียนรู้จากของจริง และลงมือปฏิบัติจริง เพื่อให้เด็กๆ สามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่เด็กและเยาวชนทุกคนก็ต้องพร้อมเรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ และฝึกฝนตนเองในสิ่งที่สนใจอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ โดยเฉพาะการตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ตั้งใจทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ ใช้ทักษะความสามารถในทางที่ถูกต้อง รวมถึงรู้จักคิดวิเคราะห์ด้วยเหตุและผล ตลอดจนประพฤติปฏิบัติตนให้ตั้งมั่นอยู่ในความดี มีคุณธรรม เพื่อจะได้นำความรู้ความสามารถมาเป็นแรงผลักดันที่จะดำเนินชีวิตในทางที่ถูกที่ควรและพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า รัฐบาลได้วางแผนการพัฒนาประเทศด้วยกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยได้แบ่งออกเป็น 6 ด้าน คือ ความมั่นคง การสร้างความสามารถในการแข่งขัน การสร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมทางสังคม การสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ และการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพคน เพราะทรัพยากรมนุษย์คือทรัพยากรที่สำคัญ ซึ่งเป็นพื้นฐานต่อการต่อยอดในการพัฒนาประเทศในทุกด้าน จึงขอให้ทุกฝ่ายในสังคมร่วมมือกันในการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ความสามารถ รวมทั้งรู้จักคิด วิเคราะห์อย่างมีเหตุและผล เพื่อให้เด็กและเยาวชนรู้เท่าทันเทคโนโลยีและสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพื่อป้องกันไม่ให้กระทำความผิดหรือทำผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัว ตลอดจนร่วมกันคิดในการที่จะทำให้สังคมปลอดภัย โดยขอให้กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนพลเรือน ตำรวจ และทหาร ได้ช่วยกันทำให้สังคมปลอดภัยและอบอุ่น เป็นสังคมครอบครัวที่มีคุณภาพ อันจะนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวอวยพรเด็กและเยาวชนทุกคนประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ มีสติปัญญาที่เฉลียวฉลาด และขอให้ทุกคนใช้ชีวิตในวัยเด็กอย่างมีคุณค่าและคุ้มค่า พร้อมทั้งเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในวัยเด็กเก็บความทรงจำของความสุข ความสดใส เพื่อพร้อมเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศของเราให้เจริญก้าวหน้าสืบไป พร้อมขอให้เด็กและเยาวชนทุกคนน้อมนำพระบรมราโชวาทของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงรับสั่งให้คนไทยทุกคนมีความภูมิใจในความเป็นชาติไทย มีอัตลักษณ์ของคนไทย และมีจิตอาสาที่จะทำให้สังคมมีความยั่งยืนและมีการพัฒนาสถาพรสืบไป

ด้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวถึงการจัดงานวันเด็กแห่งชาติว่า ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2498 และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยกระทรวงศึกษาธิการได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับทุกส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ สำหรับการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 นี้ กระทรวงศึกษาธิการได้มีการจัดงานในส่วนกลาง ณ บริเวณกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้ง บริเวณโดยรอบกระทรวงศึกษาธิการ ได้แก่ ถนนราชดำเนินนอก (ถนนคู่ขนาน) เกาะกลางถนน บริเวณด้านหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ถนนลูกหลวง และหอประชุมคุรุสภา โดยเน้นให้เด็ก ๆ มีโอกาสเรียนรู้คุณค่าของการเป็นเด็กและเยาวชนที่ดีของชาติ และสร้างความต้องการที่มีส่วนร่วมด้วยกิจกรรมที่ท้าทายความสามารถภายใต้บรรยากาศที่สดใส รื่นเริง เร้าใจ เต็มอิ่มด้วยความสุข สนุกสนาน ตลอดจนมุ่งให้เด็กและเยาวชนได้รับสาระและความสนุกสนานจากความรู้ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ของเด็กไทย โดยแบ่งกิจกรรมออกเป็น 4 โซน ประกอบด้วย โซน 1) เด็กไทย ... หัวใจคุณธรรม เป็นโซนกิจกรรที่สอดแทรกในเรื่องของความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ ครู อาจารย์ และผู้มีพระคุณ โซน 2) เด็กไทย... หัวใจสามัคคี เป็นโซนกิจกรรมที่มุ่งเน้นปลูกฝังความสามัคคี ปรองดอง กลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียว เช่น กิจกรรมฐานลูกเสือ โซน 3) เด็กไทย...รู้คิดวิทยาศาสตร์ เป็นกิจกรรมที่สอดแทรกให้ความรู้ ฝึกฝนในกระบวนการคิด วิเคราะห์ แยกแยะเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ อาทิ ท้องฟ้าจำลองเคลื่อนที่ โซน 4) เด็กไทย... รู้เท่าทันเทคโนโลยี เป็นกิจกรรมที่สอดแทรกให้ความรู้เท่าทันเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน รู้จักใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ในทางที่ถูกต้อง

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมนิทรรศการของกระทรวงศึกษา และเปิดตัวเว็บไซต์ “ติวฟรี.คอม” (www.tuirfree.com) เพื่อให้เด็กไทยทุกคนได้มีโอกาสเรียนรู้กับติวเตอร์ชื่อดังของประเทศ และเป็นการเรียนรู้ออนไลน์ซึ่งมีแอพพลิเคชั่นที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้มากมาย เช่น Echo English ทั้งฉบับนักเรียนและประชาชน Echo STEM เป็นต้น พร้อมพบปะทักทายเด็กและเยาวชนที่มาร่วมงานอย่างเป็นกันเอง และมอบของขวัญให้แก่เด็กและเยาวชนด้วย ซึ่งบรรยากาศเป็นอย่างอบอุ่นและสนุกสนาน ก่อนเดินทางไปยังบริเวณจัดงานเยาวชนสัมพันธ์ ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ณ บริเวณคุรุสภา

-------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ