สรุปประเด็นนายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม 2561
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับประชาชนผ่านรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ในวันศุกร์ที่ 2 มีนาคม2561 เวลา 20.15 น. ในประเด็นต่าง ๆ ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
ในยามที่บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ความเป็นปึกแผ่นของคนในชาติ ที่แสดงออก หรือสะท้อนออกมาอย่างเห็นได้ชัดจากการได้เชียร์และรับชมตัวแทนคนไทย นักกีฬาไทยไปชิงชัยเพื่อแสดงศักยภาพในเวทีระดับโลกถือว่าเป็นลักษณะเฉพาะของคนไทยหรือไทยนิยมที่มีเลือดรักชาติ และสามัคคีกัน นายกรัฐมนตรีจึงขอเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนอีกครั้ง ในการแสดงความชื่นชมยินดีกับนักกีฬาไทยที่สร้างผลงานและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ
สำหรับเจ้าแหลมศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่นที่สามารถชกเอาชนะผู้ท้าชิง ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า จากประเทศเม็กซิโก ทำให้รักษาเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต (115 ปอนด์) ของสภามวยโลก WBC เป็นครั้งที่ 2 ได้สำเร็จ ในสังเวียนที่จัดขึ้นในต่างแดน ด้วยบรรยายกาศกองเชียร์ และต้องยกย่องหัวใจนักสู้ที่แข็งแกร่ง ความมุ่งมั่น และไหวพริบในขณะแข่งขัน นายกรัฐมนตรีจึงยกให้เป็นบุคคลตัวอย่างให้ทุกคนต้องการโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนได้เรียนรู้ จากประสบการณ์ของเจ้าแหลมหรือผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตอื่น ๆ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคน ได้พบกับความสำเร็จเช่นกัน
นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีกับน้องจีน อาฒยา ฐิติกุล สาวน้อยมหัศจรรย์วัย 15 ปี จากจังหวัดราชบุรีที่ชนะเพลย์ออฟ คว้าแชมป์กอล์ฟสมัครเล่นหญิงชิงแชมป์ “เอเชีย-แปซิฟิค 2018” ที่ประเทศสิงคโปร์ วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา การแข่งขันกอล์ฟสมัครเล่นหญิงที่มีนักกอล์ฟเข้าร่วมการแข่งทั้งสิ้น 83 ราย จาก17 ชาติสมาชิกนายกรัฐมนตรีขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้น้องจีนที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจ พร้อมทั้งประสบความสำเร็จยิ่งๆ ขึ้นไปในอนาคต นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันกีฬาระดับโลก ณ ประเทศไทยเช่นกัน คือการแข่งขัน “กอล์ฟ Honda.LPGA.Thailand.2018”แม้ว่านักกีฬาสาวไทยจะไม่ได้แชมป์ในรายการนี้แต่ถือว่าทำผลงานได้ดีโดยติดท็อป เท็น ถึง 3 คน ได้แก่ โปรโม โมรียา จุฑานุกาล (อันดับ 2)โปรเม เอรียา จุฑานุกาล (อันดับ 5 ร่วม) และ โปรแหวน พรอนงค์ เพชรล้ำ (อันดับ 7)ทั้งนี้ เห็นว่ายังมีนักกีฬากอล์ฟอาชีพสาวไทยอีกหลายคนที่มีผลงานที่โดดเด่น และมีพัฒนาการที่ดีในการแข่งขันนี้
สัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมการประชุมร่วมกับคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค (ก.บ.ภ.) และคณะกรรมการนโยบายบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.)เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนพัฒนาจังหวัดและแผนพัฒนาภาค สำหรับการจัดสรรงบประมาณลงพื้นที่ให้ตรงกับความต้องการของประชาชนซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงแนวทางการจัดทำงบประมาณของประเทศที่สำคัญ โดยนายกรัฐมนนตรีเชื่อว่าจะช่วยให้การจัดสรรงบประมาณของประเทศมีประสิทธิภาพและมีธรรมาภิบาล เป็นการใช้งบประมาณที่คุ้มค่าและตรงกับความต้องการของชุมชนมากที่สุด
ในส่วนของการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดนั้น จะต้องยึดโยงกับแผนพัฒนาประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ของประเทศในภาครวมได้โดยการกำหนดให้มีทิศทางสอดคล้องเชื่อมโยงกับแผนระดับชาติ และการบูรณาการของส่วนราชการเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ไปยังพื้นที่ต่างๆรวมถึงการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและครอบคลุมทุกพื้นที่
ภาคกลางจะมีการพัฒนากรุงเทพฯ สู่มหานครทันสมัย มีการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมเมืองและพัฒนาคุณภาพชีวิต มีการป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างจริงจัง และการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งพร้อมยกระดับคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวรวมถึงการสร้างความเชื่อมโยงให้กระจาย รายได้อย่างทั่วถึง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเป้าหมายให้พื้นที่กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยจะมีการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตด้วยการบูรณาการการดูแลน้ำในพื้นที่ การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและพัฒนาคุณภาพชีวิต พร้อมไปกับการจัดสรรที่ดินทำกินให้ชุมชน เพื่อเร่งสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจ
ภาคตะวันออก เป้าหมายได้แก่การเป็นฐานเศรษฐกิจชั้นนำของอาเซียน การรักษาฐานเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างฐานเศรษฐกิจใหม่เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ภาคเหนือ จะมุ่งให้เป็นฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่าสูงมีการต่อยอดการผลิตสินค้าและบริการด้วยภูมิปัญญาเชิงสร้างสรรค์และนวัตกรรม รวมทั้งยกระดับเป็นฐานการผลิตเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัย
ในส่วนของภาคใต้ มีเป้าหมายจะพัฒนาให้เป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศระดับโลกเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน รวมทั้งเป็นศูนย์กลางผลิตภัณฑ์ยางพาราและปาล์มน้ำมันของประเทศ โดยมีการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าผ่านการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตภาคเกษตรเพิ่มเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่จะช่วยแก้ปัญหาโดยหลัก ๆ มี 2 เรื่องประกอบด้วย เรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน หากพบความไม่โปร่งใสขอให้แจ้งมายังรัฐบาล ผ่านสายด่วน 1111 หรือ 1567 ได้ทุกกรณีและ เรื่องการลงทะเบียนแรงงานต่างด้าว โดยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน
นายกรัฐมนตรีขอสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่ริเริ่มเองโดยสถาบันการศึกษา หรือทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์สังคม จิตอาสา หรือช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาส เป็นตัวอย่างของ “ไทยนิยม” โดยความมุ่งหวังของโครงการฯ ดังกล่าว ได้ให้ความช่วยเหลือทางด้านอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา และสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่สำคัญคือการส่งเสริมความเป็นพลเมืองดีของชาติในอนาคตสำนึกความเป็นไทย รักชาติ รักสถาบัน คุณธรรม จริยธรรม เป็นต้น อีกทั้งเชื่อว่ายังมีอีกหลายโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ และเป็นที่น่าชื่นชมของสังคม เพื่อการศึกษาและอนาคตของชาติ อีกด้วย
....................................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th