เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐออสเตรียประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี

ข่าวทั่วไป Wednesday May 30, 2018 14:49 —สำนักโฆษก

เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐออสเตรียประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี

วันนี้ (30 พ.ค. 2561) เวลา 13.30 น. นางอีวา แฮเกอร์ (H.E. Mrs. Eva Hager) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐออสเตรียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการหารือ พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตออสเตรียประจำประเทศไทยในนามรัฐบาลและประชาชนชาวไทย และรู้สึกยินดีที่เอกอัครราชทูตออสเตรียได้มาดำรงในประเทศไทย หวังว่าเอกอัครราชทูตออสเตรียประจำประเทศไทยจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-ออสเตรียให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่ไทยและออสเตรียมีความสัมพันธ์ที่ราบรื่นมาโดยตลอด โดยในปีนี้จะครบรอบ 65 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการระหว่างกัน และในปี 2562 ไทยและออสเตรียจะฉลองครบ 150 ปีการลงนามในสนธิสัญญาไมตรี การค้าและการเดินเรือในปี ค.ศ. 1869 นายกรัฐมนตรีจึงขอให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันเฉลิมฉลองในโอกาสสำคัญดังกล่าว สำหรับไทยนั้น จะนำคณะนักดนตรีจากสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนาไปจัดการแสดงดนตรีที่ออสเตรีย ในเดือนมิถุนายน ปี 2562

เอกอัครราชทูตออสเตรียประจำประเทศไทยกล่าวว่า ที่ผ่านมาไทยและออสเตรียมีการแลกเปลี่ยนการเยือนในทุกระดับ และในโอกาสที่ไทยจะเป็นประธานอาเซียนในปีหน้าและสาธารณรัฐออสเตรียจะดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีสหภาพยุโรป ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2561 จึงหวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะกระชับความร่วมมือให้มากขึ้นและส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างกันมากยิ่งขึ้น

ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ความร่วมมือในด้านการศึกษาระหว่างกันมีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม โดยออสเตรียได้จัดตั้งวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบและให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ รวมทั้งผลักดันหลักสูตรวิศวกรรมระบบรางเป็นที่แรกในประเทศไทย นายกรัฐมนตรีหวังว่า ไทยและออสเตรียจะขยายความร่วมมือด้านอาชีวศึกษาเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านอาชีวศึกษา ซึ่งเอกอัครราชทูตออสเตรียประจำประเทศไทยยินดีสนับสนุนให้ไทยและออสเตรียแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านดังกล่าวมากขึ้น

สำหรับความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายประเทศไทย 4.0 ซึ่งเน้นการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ไทยมีโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษและโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก จึงหวังว่าออสเตรียซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม ระบบราง การแพทย์ และเทคโนโลยีชั้นสูง อาจพิจารณามาลงทุนในโครงการดังกล่าว ด้านเอกอัครราชทูตออสเตรียประจำประเทศไทยกล่าวแสดงความรู้สึกยินดีที่บริษัทชั้นนำของสาธารณรัฐออสเตรียหลายบริษัทเข้ามาลงทุนในไทย และในปัจจุบันภาคเอกชนไทยก็สนใจจะขยายการลงทุนในออสเตรียเช่นกัน จึงยินดีสนับสนุนให้ไทย - ออสเตรียขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกันมากยิ่งขึ้นในอนาคต

ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวออสเตรียและไทยต่างเดินทางไปมาหาสู่กันสม่ำเสมอ โดยในปี 2560 มีนักท่องเที่ยวออสเตรียเดินทางมาประเทศไทยกว่าหนึ่งแสนคน และสายการบินของไทยได้รื้อฟื้นเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ-กรุงเวียนนา จะส่งผลจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งสองฝ่ายเพิ่มมากยิ่งขึ้น นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมออสเตรียที่ประสบความสำเร็จในด้านการท่องเที่ยวและภาคบริการ จึงหวังว่า ไทยและออสเตรียจะสามารถขยายความร่วมมือในด้านดังกล่าวได้ ซึ่งทางเอกอัครราชทูตออสเตรียประจำประเทศไทยยินดีสนับสนุนให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ