นายกรัฐมนตรีติดตามการบริหารจัดการน้ำ และการพัฒนาหนองเล็งทราย แหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ของจังหวัดพะเยา

ข่าวทั่วไป Wednesday February 12, 2020 16:07 —สำนักโฆษก

นายกฯ ติดตามการบริหารจัดการน้ำ-การพัฒนาหนองเล็งทรายแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ จ.พะเยา ส่งเสริมให้กลุ่มจังหวัดภาคเหนือเป็นธนาคารน้ำของประเทศ ขอชาวพะเยาช่วยรักษาแหล่งน้ำระบบนิเวศให้คงความสมบูรณ์ เพื่อพัฒนากว๊านพะเยาอย่างยั่งยืน

วันนี้ (12 กุมภาพันธ์ 2563) เวลา 10.30 น. ณ หนองเล็งทราย ตำบลศรีถ้อย อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำและการพัฒนาหนองเล็งทราย ซึ่งเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ของจังหวัด มีพื้นที่รวม 5,563 ไร่ครอบคลุมพื้นที่ 5 ใน 6 ตำบลของอำเภอแม่ใจ บริเวณตอนใต้ของหนองมีฝายน้ำล้น น้ำที่ล้นไหลลงแม่น้ำอิงสู่กว๊านพะเยา ปัจจุบันพื้นที่ส่วนใหญ่ของหนองเล็งทรายมีสภาพตื้นเขิน จังหวัดพะเยาจึงได้จัดทำแผนการพัฒนาหนองเล็งทรายอย่างยั่งยืน โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนากว๊านพะเยา มาตรการสำคัญ ได้แก่ การขุดลอก ก่อสร้างฝายและประตูระบายน้ำ การกำจัดผักตบชวา การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและสิ่งอำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยว รวมทั้งสวนสาธารณะเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวพบปะกับประชาชนตอนหนึ่งว่า หนองเล็งทรายเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ มีพื้นที่รับน้ำฝน 200 ตร.กม. สามารถกักเก็บน้ำได้ 5 ล้าน ลบ.ม. เป็นต้นน้ำที่สำคัญที่จะไหลลงสู่กว๊านพะเยาซึ่งเป็นพื้นที่กลางน้ำ มีพื้นที่รับน้ำฝน 1,464 ตร.กม. ปัจจุบันจากการมีฝายพับได้ทำให้มีความจุเก็บกักเพิ่มเป็น 55.65 ล้าน ลบ.ม. ดังนั้น ต้องช่วยกันดูแลรักษา และพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำให้ได้รับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งการแก้ปัญหาวัชพืช ผักตบชวาและการตื้นเขินเนื่องจากการสะสมของตะกอนดิน การจัดการประมง เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน

สำหรับการดำเนินงานจัดการน้ำจังหวัดพะเยาที่ผ่านมา มีแผนงานจำนวน 1,164 โครงการ พื้นที่รับประโยชน์ 42,253 ไร่ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จสามารถเพิ่มความจุเก็บกักรวมทั้งสิ้น 34 ล้าน ลบ.ม. ครัวเรือนได้รับประโยชน์ 5,044 ครัวเรือน เช่น โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำปี้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำ จำนวน 5 แห่ง และอ่างเก็บน้ำบ้านห้วยเคียน นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยรู อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ่างเก็บน้ำแม่เมาะ ประตูระบายน้ำบ้านดอยอิสาน เป็นต้น ทั้งนี้ ต้องส่งเสริมให้กลุ่มจังหวัดภาคเหนือเป็นธนาคารน้ำของประเทศ รวมถึงต้องสร้างความเข้มแข็งให้ได้ทุกลุ่มน้ำ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ

สำหรับการจัดการการท่องเที่ยวในบริเวณกว๊านพะเยาและพื้นที่โดยรอบรวมถึงพื้นที่หนองเล็งทราย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เพื่อให้มีจุดดึงดูดความสนใจให้นักท่องเที่ยวมาชมมากยิ่งขึ้น จะต้องจัดทำเรื่องอธิบายเชื่อมโยงตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวทำให้เกิดรูปแบบการสื่อสารที่ทันสมัย เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้อยู่ภายใต้โครงการพัฒนากว๊านพะเยาอย่างยั่งยืน จึงอยากให้ชาวพะเยาช่วยกันรักษาแหล่งน้ำ ทั้งหนองเล็งทราย กว๊านพะเยาให้มีความสะอาด อนุรักษ์พันธุ์ปลาท้องถิ่น การรักษาระบบนิเวศให้คงความสมบูรณ์ หากทุกฝ่ายช่วยกันก็จะเป็นการพัฒนากว๊านพะเยาอย่างยั่งยืนแท้จริง

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า รัฐบาลมีนโยบายให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในประเทศให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ การศึกษา โครงสร้างพื้นฐาน รายได้ และการประกอบอาชีพ ว่าจะทำอย่างไรจึงจะทำให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตที่ดีได้ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม ในเรื่องระบบดูแลสุขภาพ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกอื่น ๆ ซึ่งจะต้องมีความสอดคล้องกับวิถีชุมชน วัฒนธรรม จารีตประเพณี ความเชื่อ นำไปสู่การพึ่งตนเองด้านสุขภาพ ให้การส่งเสริมการแพทย์ทุกระบบอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบสุขภาพ เกิดการรวมกลุ่มของหมอพื้นบ้าน เกิดการจัดทำองค์ความรู้ของหมอเมืองล้านนา ทั้งการรักษาข้อมูลเกี่ยวกับสมุนไพรต่าง ๆ ตลอดจนการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพรแก่เกษตรกร เพื่อสามารถนำไปต่อยอดการแปรรูปและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและประชาชน

ช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ได้ฝากให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันทำงานเพื่อพัฒนาประเทศ พัฒนาจังหวัดพะเยาให้เจริญและมั่นคงในทุกด้าน ทั้งการเกษตร การท่องเที่ยว การต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญที่จะช่วยยกระดับชุมชนของเราให้มีความโดดเด่น แตกต่าง ด้วยการดึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และนำไปสู่การดำเนินงานตามนโยบายไทยนิยมยั่งยืน ที่จะช่วยส่งเสริมศักยภาพในท้องถิ่นให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง พร้อมทั้งช่วยกันสร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับชุมชน สังคมของตนเองให้เจริญก้าวหน้าต่อไป พร้อมกับกล่าวขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชนและภาคเอกชน ที่มีความตั้งใจทุ่มเทในการพัฒนาจังหวัดพะเยาร่วมกัน ขอให้การดำเนินงานมีความต่อเนื่องเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงและยั่งยืน และร่วมกันสร้างสรรค์พัฒนาบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงตลอดไป

-------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ