กรมเจ้าท่าออกประกาศกรมเจ้าท่าที่ 45/2563 เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับเรือที่เข้ามาในน่านน้ำไทย กรณีเป็นเรือจากท้องที่นอกราชอาณาจักร [กระทรวงคมนาคม]

ข่าวทั่วไป Tuesday March 24, 2020 15:21 —สำนักโฆษก

กรมเจ้าท่าออกประกาศกรมเจ้าท่าที่ 45/2563 เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับเรือที่เข้ามาในน่านน้ำไทย กรณีเป็นเรือจากท้องที่นอกราชอาณาจักร

ประกาศกรมเจ้าท่าที่ 45/2563 เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับเรือที่เข้ามาในน่านน้ำไทย
กรณีเป็นเรือจากท้องที่นอกราชอาณาจักร

นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ได้ออกประกาศตามที่กระทรวงสาธารณสุข โดยคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และประเทศไทยได้ดำเนินมาตรการอย่างต่อเนื่องเพื่อเฝ้าระวังและควบคุมโรค ปัจจุบันปรากฏว่าองค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ได้ประกาศยกระดับสถานการณ์แพร่ระบาดดังกล่าวเป็นโรคระบาดทั่วโลก (Pandemic) กรมเจ้าท่าจึงออกประกาศที่ 45/2563 เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับเรือที่เข้ามาในน่านน้ำไทย กรณีเป็นเรือจากท้องที่นอกราชอาณาจักร มีผลบังคับใช้วันที่ 22 มีนาคม 2563 เวลา 00.00 น. ของประเทศไทย โดยให้ยกเลิกประกาศกรมเจ้าท่าที่ 41/2563 และ 43/2563 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. นายเรือ คนประจำเรือ ผู้โดยสาร และบุคคลใด ๆ ที่ลงเรือเพื่อเดินทางมายังประเทศไทยต้องได้รับการแยกกัก กักกัน ควบคุมไว้สังเกต หรืออยู่ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดต่ออย่างอื่นตามที่พนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศกำหนด

2. ให้ผู้ประกอบกิจการเดินเรือ เจ้าของเรือ ผู้ครอบครองเรือ นายเรือ และผู้ควบคุมเรือที่เดินเรือจากท่าเรือประเทศต้นทางในท้องที่ที่เป็นเขตโรคติดต่ออันตรายและพื้นที่มีรายงานจากกระทรวงสาธารณสุข หรือ World Health Organization ว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ดำเนินการคัดกรองนายเรือ คนประจำเรือ ผู้โดยสารและบุคคลใด ๆ ก่อนลงเรือดังนี้

(1) ตรวจสอบใบรับรองแพทย์ (Health Certificate) ที่ออกให้โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง ซึ่งยืนยันว่ามีการตรวจแล้วไม่พบเชื้อไวรัส COVID-19

(2) ตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยที่แสดงการคุ้มครองการรักษาพยาบาลในประเทศไทยซึ่งครอบคลุมถึงโรคติดเชื้อไวรัสCOVID-19 เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐ

3. ในกรณีที่นายเรือ คนประจำเรือ ผู้โดยสาร และบุคคลใด ๆ ที่จะลงเรือเพื่อเดินทางมายังประเทศไทยเป็นผู้มีสัญชาติไทย ให้ผู้ประกอบกิจการเดินเรือ เจ้าของเรือ ผู้ครอบครองเรือ นายเรือ และผู้ควบคุมเรือ ดำเนินการคัดกรองนายเรือ คนประจำเรือ ผู้โดยสาร และบุคคลดังกล่าวก่อนลงเรือดังนี้

(1) ตรวจสอบใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่ามีสุขภาพเหมาะสมต่อการเดินทางทางเรือ

(2) ตรวจสอบหนังสือรับรองการเดินทางกลับประเทศไทยที่สถานเอกอัครราชทูตไทย สถานกงสุลใหญ่ หรือกระทรวงการต่างประเทศออกให้

4. หากพบว่าบุคคลใดไม่สามารถแสดงหลักฐานทั้งหมดตามข้อ 3 และข้อ 4 ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ ให้ผู้ประกอบกิจการเดินเรือ เจ้าของเรือ ผู้ครอบครองเรือ นายเรือ และผู้ควบคุมเรือ ปฏิเสธการลงเรือ

5. เมื่อได้คัดกรองตามข้อ 3 หรือข้อ 4 และให้บุคคลนั้นลงเรือแล้ว ให้ผู้ประกอบกิจการเดินเรือเจ้าของเรือ ผู้ครอบครองเรือ นายเรือ และผู้ควบคุมเรือ จัดให้มีการกรอกข้อมูลแสดงที่พักที่สามารถติดต่อได้ในประเทศไทย ตามแบบ ต.8 ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และยื่นต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศที่ท่าเรือปลายทาง

6. ให้ผู้ประกอบกิจการเดินเรือ เจ้าของเรือ ผู้ครอบครองเรือ นายเรือ และผู้ควบคุมเรือ ใช้มาตรการในการป้องกันโรคติดต่อบนเรือดังนี้

(1) จัดที่นั่ง ที่พัก และที่ปฏิบัติงาน สำหรับผู้อยู่บนเรือ ให้มีระยะห่างจากกันมากที่สุดเท่าที่ทำได้ตั้งแต่เมื่อให้ลงเรือ และจัดพื้นที่ในเรือไว้สำหรับเฝ้าระวังผู้ที่มีอาการไข้ ไอ หรือเจ็บป่วย หากมีความจำเป็น

(2) แจ้งให้ผู้อยู่บนเรือทราบถึงวิธีการป้องกันโรคติดต่อ และสวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง หรือจัดเตรียมอุปกรณ์อื่นที่จำเป็นสำหรับการป้องกันตนเองจากการติดต่อ

(3) พิจารณาจำกัดการปฏิบัติงานในเรือ เพื่อลดความจำเป็นในการเข้าใกล้ชิดระหว่างผู้อยู่บนเรือ

(4) กำหนดให้นายเรือ คนประจำเรือ และผู้ที่ทำงานบนเรือ สวมหน้ากากอนามัย

7. เมื่อเดินทางถึงประเทศไทย ผู้ประกอบกิจการเดินเรือ เจ้าของเรือ ผู้ครอบครองเรือ นายเรือและผู้ควบคุมเรือต้องดำเนินการฆ่าเชื้อ หรือทำความสะอาดเรือตามมาตรฐานที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศกำหนด

8. เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศมีอำนาจออกคำสั่งตามความในพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ดังนี้

(1) ห้ามผู้ใดเข้าไปในหรือออกจากเรือที่เดินเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งยังไม่ได้รับการตรวจจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และห้ามนำพาหนะอื่นใดเข้าเทียบเรือนั้น เว้นแต่จะได้รับอนุญาต

(2) ดำเนินการหรือออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ผู้ประกอบกิจการเดินเรือ เจ้าของเรือ ผู้ครอบครองเรือ นายเรือและผู้ควบคุมเรือ ดำเนินการดังนี้

(2.1) กำจัดความติดโรค เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ของโรค

(2.2) จัดให้เรือจอดอยู่ ณ สถานที่ที่กำหนดไว้จนกว่าเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศจะอนุญาตให้ไปได้

(2.3) ให้ผู้ซึ่งมากับเรือนั้นรับการตรวจในทางแพทย์ และอาจให้แยกกัก กักกัน คุมไว้สังเกต หรือรับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ณ สถานที่และระยะเวลาที่กำหนด

9. ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนมาตรการตามข้อ 3 ข้อ 4 หรือข้อ 5 ให้ผู้ประกอบกิจการเดินเรือ เจ้าของและผู้ครอบครองเรือ จะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการขนส่งนายเรือ คนประจำเรือ ผู้โดยสาร และบุคคลใด ๆ ที่มากับเรือนั้นเพื่อแยกกัก กักกัน คุมไว้สังเกต หรือรับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ตลอดทั้งออกค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดู การรักษาพยาบาล การป้องกันและควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558

10. ให้ผู้ประกอบกิจการเดินเรือ เจ้าของเรือ ผู้ครอบครองเรือ นายเรือ และผู้ควบคุมเรือปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังโรคติดต่ออันตราย และมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดต่ออันตรายตามที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนดตามความในพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 โดยเคร่งครัด

11. ให้ผู้ประกอบกิจการเดินเรือ เจ้าของเรือ ผู้ครอบครองเรือ นายเรือ และผู้ควบคุมเรือแจ้งแนวปฏิบัติตามประกาศนี้ให้เจ้าหน้าที่ประจำท่าเรือต้นทาง นายเรือ คนประจำเรือ ผู้โดยสาร และบุคคลใด ๆ ที่ลงเรือทราบและถือปฏิบัติ โดยให้นายเรือหรือผู้ควบคุมเรือประกาศเพิ่มเติมบนเรือให้ผู้ที่อยู่บนเรือทราบโดยทั่วกัน

กระทรวงคมนาคม

23 มีนาคม 2563

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ