“พาณิชย์”ลุยจับไม่เว้นวันหยุด รวบขายหน้ากากอนามัยแพงอีก 8 ราย ยอดรวมทะลุ 306 ราย [กระทรวงพาณิชย์]

ข่าวทั่วไป Sunday April 12, 2020 15:39 —สำนักโฆษก

“พาณิชย์”ลุยจับไม่เว้นวันหยุด รวบขายหน้ากากอนามัยแพงอีก 8 ราย ยอดรวมทะลุ 306 ราย

“พาณิชย์”ลุยจับต่อเนื่องไม่เว้นวันหยุด รวบผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ แพงเกินสมควรได้อีก 8 ราย รอบนี้จับผู้กระทำผิดขายผ่านเฟซบุ๊กได้มากสุด และยังจับร้านขายยา ขายทางโทรศัพท์ได้เพิ่มด้วย รวมถึงจับไม่แจ้งต้นทุน การผลิต จำหน่ายแอลกอฮอล์ ทำยอดรวมทะลุ 306 รายแล้ว

นายสุพพัต อ่องแสงคุณ โฆษกกระทรวงพาณิชย์และหัวหน้าฝ่ายสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ศูนย์ปฏิบัติการด้านการควบคุมสินค้า (ศปส) เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ว่า ณ วันที่ 11 เม.ย.2563 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและแอลกอฮอล์เพิ่มอีก 8 ราย แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 3 ราย และต่างจังหวัด 5 ราย ทำให้ยอดรวมการจับกุมเพิ่มขึ้นเป็น 306 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 151 ราย และต่างจังหวัด 155ราย

สำหรับการจับกุมในกรุงเทพฯ 3 ราย แยกเป็นการล่อซื้อและจับกุม ผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก 2 ราย พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยบรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 650 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 13 บาท) รวม 10,000 ชิ้น อีก 1 ราย พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินสมควรในราคา 13.76 บาทต่อชิ้น ซึ่งในกรณีนี้ได้มีการขยายผลเพิ่มเติมโดยการเข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยว่าเป็นสถานที่เก็บและจำหน่ายสินค้าหน้ากากอนามัย ผลการตรวจค้นพบของกลางเป็นหน้ากากอนามัยผลิตในประเทศเวียดนามและจีน รวม 8,800 ชิ้น มูลค่ารวม 121,088 บาท และเจ้าหน้าที่ยังได้ล่อซื้อและจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางโทรศัพท์ได้อีก 1 ราย จำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคากล่องละ 600 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ12 บาท) ทั้ง 3 รายถูกดำเนินคดีข้อหากระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยราคาสูงเกินสมควรตามมาตรา 29

ส่วนต่างจังหวัดจับกุมได้ 5 ราย ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี 1 รายจำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยเจ้าหน้าที่ทำการการล่อซื้อและจับกุม พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยบรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 680 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ13.60 บาท) รวม 1,500ชิ้น จังหวัดนครราชสีมา 1ราย เป็นร้านขายยาจำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคาชิ้นละ 140 บาท จังหวัดมหาสารคาม 2 ราย โดยทั้ง 4 รายกระทำความผิดข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยราคาสูงเกินสมควร ตามมาตรา 29 และเจ้าหน้าที่ได้ล่อซื้อและเข้าตรวจค้นบ้านพักในอำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 1 ราย พบการกระทำความผิดข้อหาจำหน่ายเจลแอลกอฮอล์ ไม่แจ้งต้นทุน ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิตต่อ กกร. ตามมาตรา 25 (5)

ทั้งนี้ โทษที่ผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่แจ้งต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณคงเหลือ ตามมาตรา 25 (5) มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง มาตรา26 ข้อหาเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งชื่อ ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย มาตรา28ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทและมาตรา 29ข้อหาขายแพงเกินสมควรมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับสถานการณ์ไข่ไก่ในขณะนี้ มีปริมาณผลผลิตเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ เนื่องจากมีปริมาณผลผลิตไข่ไก่ป้อนเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และในรวมพบว่าความต้องการซื้อไข่ไก่ของประชาชนมีปริมาณลดลงจนเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ

อย่างไรก็ตาม หากผู้บริโภคพบเห็นการกักตุนหรือค้ากำไรเกินควร สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และ ในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด

>>>ติดตามข่าวสารพาณิชย์แบบฉับไว ส่งตรงถึงมือถือได้ที่ http://line.me/ti/p/%40uld0329i

>>>ติดตามข่าวสารพาณิชย์ ผ่านทวิตเตอร์ https://twitter.com/CNAOnlineTwit

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ