ศบค. มีมติยกเลิกเคอร์ฟิว พร้อมเห็นชอบมาตรการผ่อนคลายในระยะที่ 4 มีผลตั้งแต่ 15 มิถุนายน 63

ข่าวทั่วไป Friday June 12, 2020 15:35 —สำนักโฆษก

ศบค. มีมติยกเลิกเคอร์ฟิว พร้อมเห็นชอบมาตรการผ่อนคลายในระยะที่ 4 มีผลตั้งแต่ 15 มิถุนายน 63

วันนี้ (12 มิถุนายน 2563) เวลา 12.00 น. ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงผลการหารือโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) (ศบค.) สรุปสาระสำคัญดังนี้

โฆษก ศบค. เผย ที่ประชุม ศบค. มีมติให้ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน แต่ยังคงมาตรการควบคุมการเดินทางเข้าออกราชอาณาจักรทั้งทางบก/น้ำ/อากาศ เห็นชอบมาตรการผ่อนคลายในระยะที่ 4 โดยจะมีการบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน โดยรายละเอียดของการผ่อนผัน ผ่อนคลาย ได้แก่ การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา หน่วยงานราชการ หน่วยงานในกำกับของรัฐ สำหรับการเรียน การสอน อบรม สัมมนา ในรูปแบบวิถีใหม่ ให้การใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนประเภทนานาชาติ หรือสถาบันการศึกษาหลักสูตรนานาชาติ และโรงเรียนนอกระบบ ประเภทกวดวิชา สามารถเปิดทำการได้ โดยการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนในระบบที่มีนักเรียนรวมทั้งโรงเรียนไม่เกิน 120 คน รวมถึงโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และสามารถเปิดการใช้อาคารสถานที่ของหน่วยงานราชการและหน่วยงานในกำกับของรัฐเพื่อการสอน สัมมนาในหลักสูตรฝึกอบรมที่หน่วยงานจัดขึ้นได้

สำหรับกิจการ/กิจกรรมที่ผ่อนคลายในระยะที่ 4 ประกอบด้วย

1. กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต

(ก) การจัดประชุม การอบรม การสัมมนา การจัดนิทรรศการ งานพิธี การจัดเลี้ยง การแสดงดนตรี นาฏศิลป์ คอนเสิร์ต หรือการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นในโรงแรม โรงมหรสพ ห้องประชุม ศูนย์ประชุม ศูนย์การแสดงสินค้า โรงภาพยนตร์ หรือในสถานที่อื่น ๆ โดยการประชุม อบรม สัมมนา ให้ใช้เกณฑ์ 4 ตร.ม./คน งานจัดเลี้ยง อีเว้นท์ เปิดตัวสินค้า ประกวด แข่งขันกีฬา ให้นั่ง-ยืนเว้นระยะห่าง 1 เมตร และงานดนตรี คอนเสิร์ต ให้ลดความหนาแน่น-ไร้ระเบียบ โดยใช้เกณฑ์ 5 ตร.ม./คน

(ข) การบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในภัตตาคาร สวนอาหาร ศูนย์อาหาร โรงแรม ร้านอาหาร หรือเครื่องดื่มทั่วไป หรือในสถานที่ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย และได้ผ่อนคลายให้เปิดดำเนินการอยู่ก่อนแล้ว ให้สามารถทำได้ ยกเว้นในส่วนของสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และโรงเบียร์ ยังไม่อนุญาตให้ดำเนินการ

(ค) สถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กก่อนวัยเรียน ศูนย์เด็กพิเศษ สถานดูแลผู้สูงอายุ สถานที่บริการดูแล สถานที่พำนักอาศัย หรือสถานสงเคราะห์อื่นที่จัดสวัสดิการให้แก่เด็กหรือผู้สูงอายุ โดยเด็กเล็กแบ่งกลุ่มเล็ก โดยใช้เกณฑ์ 2 ตร.ม./คน และผู้สูงวัย ให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ คัดกรองไข้ และผู้ป่วย

(ง) ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา อุทยานวิทยาศาสตร์ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม กรณีเข้าชมเป็นกลุ่ม ให้แบ่งเป็นกลุ่มเล็ก และเข้าชมเป็นรอบ

(จ) การถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์และวีดีทัศน์ ให้กองถ่ายทำรวมทุกแผนกไม่เกิน 150 คน และมีผู้เข้าชมไม่เกิน 50 คน

2. กิจกรรมด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพหรือสันทนาการ

(ก) การอบตัว อบสมุนไพร หรืออบไอน้ำแบบรวมในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา หรือสถานประกอบการนวดแผนไทย ยกเว้นในส่วนของสถานประกอบกิจการอาบน้ำ สถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด ยังไม่อนุญาตให้เปิดดำเนินการ เน้นให้บริการแบบแยกห้องเดี่ยว ส่วนห้องรวม หรือบ่อออนเซ็นรวม ให้ควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการ โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการต่อรอบ คิดเกณฑ์ 5 ตร.ม./คน

(ข) การออกกำลังกายแบบกลุ่มในสวนสาธารณะ ลานกิจกรรม พื้นที่กิจกรรมสาธารณะหรือลานกีฬากลางแจ้ง ให้จำกัดการรวมกลุ่ม คิดเกณฑ์ 5 ตร.ม./คน และให้รวมกันได้ไม่เกิน 50 คน

(ค) สวนน้ำ สนามเด็กเล่น สวนสนุก ยกเว้นการใช้เครื่องเล่นในลักษณะที่เป็นการติดตั้งชั่วคราวหรือเครื่องเล่นที่มีพื้นผิวสัมผัสมาก ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อการติดโรคในเด็ก เช่นบ้านบอล บ้านลม โดยกรณีสวนน้ำ ให้คิดเกณฑ์ 4 ตร.ม. ต่อผู้ใช้บริการ 1 คน

(ง) สนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกาย ลานเล่นกีฬา หรือเพื่อการเรียนการสอนในทุกประเภทกีฬา โดยสามารถจัดการแข่งขันและจัดให้มีการถ่ายทอดโทรทัศน์การแข่งขันกีฬาได้ แต่ต้องไม่มีผู้ชมอยู่ในสนามแข่งขัน และผู้จัดการแข่งขันต้องดำเนินการตามขั้นตอนและวิธีการที่ทางราชการกำหนดด้วย

(จ) ตู้เกม เครื่องเล่นหยอดเหรียญที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายและตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดบริการได้

การขนส่งสาธารณะข้ามเขตจังหวัด กรณีการเดินทางโดยเครื่องบินสามารถที่จะให้บริการได้เกือบปกติ ไม่จำเป็นต้องเว้นที่นั่ง เนื่องจากที่นั่งมีจำนวนน้อยและระยะเวลาการเดินทางไม่ถึง 1 ชั่วโมง แต่จะต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ขึ้นเครื่องบิน ในส่วนการโดยสารประเภทอื่น ๆ เช่น รถโดยสารประจำทาง รถปรับอากาศ รถตู้ระหว่างจังหวัด รถไฟ ให้ผู้โดยสารนั่งติดกัน 2 ที่นั่ง เว้น 1 ที่นั่ง จำกัดจำนวนไม่เกินร้อยละ 70 และให้รถโดยสารสาธารณะทางไกลจอดพักรถทุก 2 ชั่วโมง โดยจะต้องมีการลงทะเบียนเพื่อติดตามตัว

โฆษก ศบค. ได้อธิบายถึงมาตรการควบคุมสำหรับทุกกิจการกิจกรรม ได้แก่ 1. ทำความสะอาดบริเวณพื้นผิวสัมผัสร่วม ห้องสุขา ก่อน-หลัง กิจกรรม 2. กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน 3. ผู้ให้บริการจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา 4. ผู้ใช้บริการจะต้องสวมหน้ากากอนามัย ทั้งก่อนและหลังกิจกรรม 5. ให้ลงทะเบียนยืนยันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค 6. ควบคุมการเข้า-ออก 7. ลงทะเบียนด้วย Platform “ไทยชนะ” 8. ให้จำนวนผู้ดูแลตามมาตรฐานที่กำหนด และ 9. ให้มีจุดล้างมือบริการเพียงพอ

ในการประชุม นายกรัฐมนตรียังให้ข้อคิดเห็นยังกล่าวถึงการรายงานของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงว่า การตรวจประเมินกิจการ/กิจกรรม ให้ไปในแต่ละสถานที่ต้องเปิดเผย มีกิริยามารยาทที่ดี รับฟังและอดทน หากแนะนำแล้วปรับปรุงไม่ได้ก็อาจจะต้องมีการปิดสถานที่นั้น หากกระทำซ้ำหรือมีเจตนาที่ไม่ดี ก็ต้องใช้มาตรการที่เข้มขึ้น ทั้งลงโทษหรือดำเนินคดี เพื่อให้มาตรการเป็นที่เชื่อถือและประชาชนมั่นใจ

โอกาสนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้นำเสนอ Travel Bubble หรือ การเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด โดยเริ่มต้นด้วยการเลือกเป้าหมายประเทศที่มีความสามารถในการควบคุมการระบาดที่ดี มีการตรวจเชื้ออย่างเข้มงวดตั้งแต่ก่อนออกประเทศและตรวจซ้ำเมื่อถึงประเทศเรา ผู้ที่เดินทางต้องซื้อประกันสุขภาพ เบื้องต้นอาจเป็นนักธุรกิจหรือนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเฉพาะเจาะจง เช่น นักท่องเที่ยวที่จะมาเล่นกอล์ฟ เข้าพักในโรงแรมที่อยู่ในสนามกอล์ฟแล้วเดินทางกลับประเทศสามารถติดตามได้ เรียกว่า Track and Press ซึ่งติดตามผ่านการใช้โทรศัพท์มือถือหรือมีที่อยู่ติดต่อสามารถติดตามได้ทุกคน กลุ่มเป้าหมายคือ 1. กลุ่มนักธุรกิจที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายที่สูง มีการตัดสินใจเดินทางวางแผนเป็นลำดับและมีหนังสือรับรองจากบริษัทสามารถติดตามตัวได้ 2. กลุ่มที่มารับบริการการตรวจรักษาทางการแพทย์ หรือ Medical Tourist ที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายเฉลี่ยสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป มีความจำเป็นในการเดินทางเข้ามา สามารถติดตามจากประวัติการตรวจรักษาและหนังสือรับรองจากโรงพยาบาล ด้านประเทศกลุ่มเป้าหมาย เช่น จีน ฮ่องกง มาเก๊า เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สปป.ลาว เมียนมา กัมพูชา ตะวันออกกลางบางประเทศ

ทั้งนี้ ผอ. ศบค. เห็นชอบในหลักการ โดยมอบหมายให้คณะกรรมการชุดย่อยหารือร่วมกันในการลงรายละเอียดตามมาตรการต่าง ๆ รวมทั้งวิธีการ เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนชาวไทยจะต้องได้รับผลประโยชน์จากการดำเนินการนี้ รวมทั้งประชาชนจะต้องเข้าใจด้วย เพราะเมื่อนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวเดินทางเข้ามาแล้วจะทำให้เกิดรายได้ แต่ก็ต้องมีการควบคุมโรคด้วย ไม่ใช่การนำเชื้อมาติดคนในประเทศ

------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ