นายกฯ เตรียมเข้าร่วมประชุมผู้นำ ACMECS ผ่านระบบการประชุมทางไกล พร้อมผลักดันความร่วมมือกับประเทศสมาชิกเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโรคโควิด-19

ข่าวทั่วไป Tuesday December 8, 2020 13:43 —สำนักโฆษก

นายกฯ เตรียมเข้าร่วมประชุมผู้นำ ACMECS ผ่านระบบการประชุมทางไกล พร้อมผลักดันความร่วมมือกับประเทศสมาชิกเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโรคโควิด-19

วันนี้ (วันที่ 8 ธันวาคม 2563) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี ? เจ้าพระยา ? แม่โขง (Ayeyawady ? Chao Phraya ? Mekong Economic Cooperation Strategy: ACMECS ) ครั้งที่ 9 ผ่านระบบการประชุมทางไกล ร่วมกับผู้นำประเทศสมาชิกอีก 4 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา สปป. ลาว เมียนมา เวียดนาม และเลขาธิการอาเซียน ในวันที่ 9 ธันวาคม 2563 ระหว่างเวลา 8.30 -10.00 น. โดยมีกัมพูชาเป็นเจ้าภาพการประชุมภายใต้หัวข้อ ?หุ้นส่วนเพื่อความเชื่อมโยงและความยืดหยุ่น? (Partnership for Connectivity and Resilience)

การประชุม ACMECS เป็นข้อริเริ่มของไทย จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2546 ประกอบด้วยประเทศสมาชิก 5 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา สปป. ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีหารือเฉพาะของประเทศลุ่มน้ำโขงที่เป็นสมาชิกอาเซียน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนุภูมิภาค ทั้งนี้ ACMECS ขับเคลื่อนโดยแผนแม่บทระยะ 5 ปี พ.ศ. 2562 ? 2566 (ค.ศ. 2019 - 2023) ซึ่งได้รับการรับรองในการประชุมผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 8 เมื่อปี 2561 ที่ไทยเป็นประธาน เป็นแผนแม่บทที่เน้นการส่งเสริมความร่วมมือใน 3 สาขาหลัก ได้แก่ 1) การเสริมสร้างความเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อ (Seamless Connectivity) 2) การสอดประสานด้านเศรษฐกิจ (Synchronized ACMECS Economies) และ 3) การพัฒนาภูมิภาคในลักษณะยั่งยืนและมีนวัตกรรม (Smart and Sustainable ACMECS) นอกจากนี้ ไทยยังเป็นผู้เสนอให้ริเริ่มผลักดันประเด็นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้ ACMECS มีพลวัตและสามารถรับมือกับความท้าทายของโลก คือ การจัดตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนา ACMECS และการมีปฏิสัมพันธ์กับหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กรอบการประชุม ACMECS จะสร้างผลประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนและ MSMEs ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจมหภาคในอนุภูมิภาค ลดอุปสรรคและเพิ่มพูนการค้า การขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างกัน นอกจากนี้ การประชุม ACMECS ยังช่วยยกระดับสถานะของไทยในเวทีระหว่างประเทศเรื่องการรับมือกับโควิด-19 สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นานาประเทศถึงขีดความสามารถในการรับมือกับวิกฤตสาธารณสุขในปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งส่งเสริมศักยภาพในการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้ประชาชนและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมีความเข้มแข็งร่วมกัน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะกล่าวถ้อยแถลงเพื่อสนับสนุนผู้นำทุกคนที่มีความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อน ACMECS ให้ก้าวหน้า มีพลวัต และพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์และความท้าทายรูปแบบใหม่ ตลอดจนจะนำเสนอข้อเสนอของไทยในหลักการ ?อนุภูมิภาค ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้? (Safe, Secure and Trustworthy ACMECS) ให้เป็นอีกหนึ่งสาขาความร่วมมือภายใต้แผนแม่บท ACMECS ทั้งนี้ คาดว่าในการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมฯ จะรับรอง ?ร่างปฏิญญาพนมเปญ? ด้วย

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ