นายกรัฐมนตรีชี้แจงการตั้งงบประมาณกระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข การใช้เงินเพื่อเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งได้พิจารณาจัดสรรอย่างเหมาะสม

ข่าวทั่วไป Tuesday June 1, 2021 15:55 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีชี้แจงการตั้งงบประมาณกระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข การใช้เงินเพื่อเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งได้พิจารณาจัดสรรอย่างเหมาะสม รวมทั้งได้วางโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาประเทศมาโดยตลอด

วันนี้ (1 มิถุนายน 2564) เวลา 18.50 น. ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดย นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงถึงงบประมาณกระทรวงกลาโหม ในปี 2565 ซึ่งถูกปรับลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563-2564 ตามเหตุผลและความจำเป็น ขณะที่งบประมาณกระทรวงสาธารณสุขที่รวมถึงกองทุนหลักประกันสุขภาพ กองทุนแพทย์ฉุกเฉิน กองทุนภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ซึ่งสูงกว่างบประมาณของกระทรวงกลาโหม และค่าใช้จ่ายที่ถูกปรับลดลงเพียงร้อยละ 1.97 ทั้งนี้ รัฐบาลไม่ต้องการให้กระทบต่อการให้บริการประชาชน

ด้านงบประมาณทางสังคม การเสริมสร้างทรัพยากรมนุษย์ รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณอุดหนุนเด็กแรกเกิดสูงขึ้นทุกปี ในปี 2565 มีเด็กกว่าสองล้านคนได้ประโยชน์จากนโยบายดังกล่าว ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยลดความสำคัญกับงบประมาณด้านการศึกษาเลย แต่เนื่องจากจำนวนนักเรียนลดลง จากอัตราการเกิดลดลง รัฐบาลมีโครงการสนับสนุนอาหารเสริม สำหรับนักเรียน 6.87 ล้านคน และสนับสนุนอาหารกลางวันให้นักเรียน 5.88 ล้านคน เป็นงบประมาณรวมทั้งสิ้นกว่า 25,400 ล้านบาท มีโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งมีการเพิ่มงบประมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการจ่ายเงินสมทบประกันสังคมให้แก่ผู้ใช้แรงงาน การจ่ายค่าตอบแทนให้ อสม. ซึ่งมีการพิจารณาสบทบเพิ่มเติมอีก มีงบประมาณเบี้ยผู้พิการ มีงบประมาณบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ งบประมาณสามหมื่นล้านบาท มีการช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการในสังคม มีการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยทั้งในเมืองในชนบท เบี้ยยังชีพผู้สูงอาชีพ 11 ล้านคน อย่างไรก็ดี รัฐบาลได้ให้ลำดับความสำคัญเกี่ยวกับการบริหารสถานการณ์โควิดกว่า 117,862 ล้านบาท รัฐบาลได้จัดงบประมาณและเงินกู้ที่มีความสำคัญกับการแพทย์และการสาธารณสุข ทั้งค่าตอบแทนแพทย์และ อสม การจัดซื้อจัดหาครุภัณฑ์ ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด ค่าใช้จ่ายวัคซีน และการจัดซื้อจัดหานำมาใช้ในประเทศ รวมถึงการป้องกันการแพ้วัคซีน การจัดตั้งสถานกักตัวของรัฐ SQ การเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข และสถานการณ์ฉุกเฉิน

นอกจากนี้ยังมีเงินกู้จำนวนสามหมื่นล้านบาท จะเห็นว่ารัฐบาลเห็นถึงความสำคัญเร่งด่วนและเป็นการวางแผนล่วงหน้าเพื่อการแก้ไขสถานการณ์โควิด พรบ.เงินกู้จะใช้ได้เร็วกว่า ทันต่อสถานการณ์กว่า แต่ได้คำนึงถึงข้อจำกัดที่เกิดขึ้น และจัดการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งประกอบไปด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งของการพัฒนาศักยภาพในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ การปรับปรุงและพัฒนาปัจจัยพื้นฐาน และการฟื้นฟูกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม

ทั้งนี้ ในส่วนของการจัดซื้ออาวุธ เราไม่ได้ซื้อเฉพาะยุทธโธปกรณ์อย่างเดียว ได้แบ่งเป็นงบประมาณเพื่อการฝึกอบรม และซ่อมบำรุง ประเทศไทยอยู่ใจกลางของอาเซียน จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนายุทธโธปกรณ์ ซึ่งไม่ได้หวังถึงประโยชน์ส่วนตัวคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเท่านั้น

ในค่าใช้จ่ายวัคซีน มีการจัดสรรงบประมาณจากหลายส่วน ซึ่งได้ดำเนินการใช้งบประมาณอย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ต้องขออนุมัติ และมีการตรวจสอบตามกฎระเบียบ ทั้งนี้ รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาวัคซีนเพื่อใช้ประโยชน์ในประเทศด้วย และได้ทำความร่วมมือวิจัยกับต่างประเทศด้วย

ด้านการจัดลำดับความน่าเชื่อถือในระดับสากล นายกฯ เผยว่า ประเทศไทยเป็นเพียงไม่กี่ไม่ประเทศในโลกที่ได้รับการประเมินความน่าเชื่อถือทางการเงินและการคลังในลำดับเท่าเดิม แม้อยู่ในสถานการณ์โควิด-19 โดยบริษัท S&P Global Ratings บริษัท Moody?s Investors Serviceและบริษัท Fitch Ratings ได้คงอันดับของไทยไว้ที่ BBB+ และคงอันดับความน่าเชื่อถือของเศรษฐกิจไทยอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ จาก Japan credit rating Agency และ Rating and Investment Information ประเมินระดับความน่าเชื่อถือไทยในระดับ A- และให้มุมมองความน่าเชื่อถือไทยอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ (Stable Outlook) ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศไทยมีภาคการเงินและการคลังที่แข็งแกร่ง มีการปรับกฎเกณฑ์และกติกาเพื่อความเหมาะสมในตลอดหลายปีผ่านมานี้

และในส่วนเงินกู้ที่รัฐบาลกู้มาตั้งแต่ปี 2557 ถึง 2564 รัฐบาลชำระหนี้เงินกู้ไปแล้ว 2.53 ล้านล้านบาท ซึ่งเงินที่รัฐบาลกู้มา ได้นำไปใช้เพื่อประโยชน์ โดยใช้ในการดูแลด้านสาธารณสุขเกี่ยวกับการจัดหาวัคซีน การคัดกรอง การรักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด การเฝ้าระวัง การควบคุม การป้องกัน การค้นหา การตรวจคัดกรองโรค การจัดหาครุภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ค่าตอบแทนเสี่ยงภัยให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และ อสม. นอกจากนี้ เงินกู้ดังกล่าว ยังถูกจัดนำใช้กับการดูแลพี่น้องประชาชน และผู้ประกอบการผ่านโครงการต่างๆ ไม่วาจะ โครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ โครงการม. 33 เรารักกัน โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งครอบคลุมประชากรทุกกลุ่มมากกว่า 50 ล้านคน ซึ่งท่านรองนายกรัฐมนตรีจะได้มาชี้แจงเพิ่มเติมเป็นการต่อไป

สำหรับเงินกู้ตั้งแต่ปี 2559 ถึง ปัจจุบัน รัฐบาลได้นำไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไปกว่า 2.1 ล้านล้านบาท จำนวน 162 โครงการ ซึ่งกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ เป็นการกู้เพื่อการลงทุนวงเงินงบประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท เพื่อสร้างการเจริญเติบโตของประเทศ การจ้างงานและยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน อาทิ การมีรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่พักอาศัยเพื่อผู้มีรายได้น้อยทั้งเช่า เช่าซื้อและซื้อ ต่างอยู่ในแผนงานโครงการทั้งสิ้น ระบบประปา ไฟฟ้า พลังงานที่จะต้องกระจายความเจริญไปในภูมิภาคต่างๆ ดังต่อไปนี้

1.การคมนาคม ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสีต่างๆ ใน กทม. และปริมณฑล โครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ทั่วประเทศ การปรับปรุงรางรถไฟทั่วประเทศ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสนามบิน ตลอดจน รถเมล์ NGV ส่วนในเรื่องถนน ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม ขยายและซ่อมแซมเส้นทางเก่า และมอบหมายให้สร้างถนนสายใหม่ที่ไม่ผ่านแหล่งชุมชุม เพื่อสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่ กระจายความเจริญและให้ผู้คนเข้าถึงมากขึ้น

2. การไฟฟ้าและการประปา มีโครงการให้เปลี่ยนสายไฟฟ้าลงดินใน กทม. และหลายจังหวัด โครงการขยายเขตไฟฟ้าในครัวเรือนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ โครงการก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำยังเกาะต่างๆ ในส่วนของการประปา ได้แก่ โครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระยะเร่งด่วน ประกอบด้วยโครงการจัดทำประปาหมู่บ้าน ระบบชลประทานเพื่อการเก็บกักน้ำ โครงการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการบริโภคและการเกษตร โครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยในทุกภูมิภาค ซึ่งรัฐบาลยังคงแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการเติมน้ำให้เขื่อนซึ่งดำเนินการแล้ว การสร้างแหล่งน้ำเพิ่มเติมทั้งน้ำบนดินและใต้ดิน การพักน้ำ การสร้างประตูน้ำเพิ่มเติม ทั้งหมดนี้อยู่ในแผนแล้วทั้งสิ้น เพราะนี่คือ อนาคตของประชาชนชาวไทย เพราะฉะนั้น จะเห็นว่ารัฐบาลได้ใช้เงินกู้อย่างมีประโยชน์และก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อประเทศและประชาชน

นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า รัฐบาลยืนยันในการนำงบประมาณที่ใช้เป็นไปตามกฎหมาย มีการจัดลำดับความสำคัญ และแผนการรับรอง อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณสมาชิกรัฐสภาทั้งฝ่ายค้ายและฝ่ายรัฐบาลที่ช่วยนำเสนอ โดยรัฐบาลพร้อมรับฟัง สนับสนุน และร่วมมือกับทุกฝ่าย จึงหวังว่าทุกคนจะร่วมมือกันเพื่อเดินหน้าต่อสู้กับสงครามเชื้อโรค สงครามไซเบอร์ และข่าวปลอม สำหรับเรื่องการศึกษา จะให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการชี้แจงรายละเอียดในวันต่อไป พร้อมยืนยันว่าได้มีการสั่งการให้ปรับปรุงหลักสูตรและกฎระเบียบเพื่อความเหมาะสมแล้ว

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ