นายกฯ กำชับทุกหน่วยงานเร่งบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน พร้อมประเมินสถานการณ์ในอนาคตเพื่อรับมือแก้ปัญหาบนพื้นฐานวินัยการเงินการคลังที่มีความสมดุล คุ้มค่า ประหยัด

ข่าวทั่วไป Tuesday June 21, 2022 15:02 —สำนักโฆษก

นายกฯ กำชับทุกหน่วยงานเร่งบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน พร้อมประเมินสถานการณ์ในอนาคตเพื่อรับมือแก้ปัญหาบนพื้นฐานวินัยการเงินการคลังที่มีความสมดุล คุ้มค่า ประหยัด พร้อมขอความร่วมมือทุกคนช่วยประหยัดพลังงาน

วันนี้ (21 มิถุนายน 2565) เวลา 13.10 น. ณ ทางเชื่อมตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงสถานการณ์พลังงานที่มีแนวโน้มมีปัญหายืดเยื้อจากสถานการณ์ความขัดแย้งในยุโรปว่า รัฐบาลได้ออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจ ซึ่งคาดว่าสถานการณ์ราคาพลังงานจะยังคงส่งผลกระทบสะสมในหลายมิติ ราคาน้ำมันตลาดโลกมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปัญหาเงินเฟ้อสูง ห่วงโซ่อุปทานของโลกขาดแคลน ซึ่งมีผลผูกพันต่อเนื่องกันทำให้ปัญหาค่าครองชีพของประชาชนปรับตัวสูงขึ้น ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น สินค้าราคาแพง และมีความเสี่ยงที่จะฟื้นตัวจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะงักลงในปัจจุบัน โดยรัฐบาลได้ติดตามปัญหาอย่างต่อเนื่องและได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหารือเพื่อศึกษาและเสนอแนะแนวทางที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งการออกมาตรการเพื่อช่วยแก้ปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งในวันนี้ ครม. ก็ได้มีมติเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบประชาชนและภาคธุรกิจเร่งด่วน ทั้งมาตรการใหม่และการขยายมาตรการเดิม

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการประเมินสถานการณ์ในอนาคตซึ่งคาดว่าปัญหาดังกล่าวจะยังคงไม่สิ้นสุดในระยะเวลาอันใกล้และได้มอบหมายให้มีการหารือเพื่อเตรียมแผนรองรับสถานการณ์ตามสมมุติฐานและมีความยืดหยุ่นในแต่ละช่วงระยะเวลาอย่างเหมาะสม โดยจะต้องวางแผนระยะยาวเพื่อการแก้ปัญหาที่มีความครอบคลุมทุกมิติ และไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการเงินการคลังในอนาคต พร้อมให้ความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลมีความตั้งใจจริงในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มผู้ประกอบการบนพื้นฐานของวินัยการเงินการคลังที่มีความสมดุล คุ้มค่า ประหยัด และไม่ก่อให้เกิดภาระในอนาคตมากเกินไป

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอความร่วมมือทุกคนช่วยกันประหยัดพลังงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง พร้อมกำชับทุกหน่วยงานเร่งออกนโยบายที่เหมาะสมตามศักยภาพ เช่น การเปิดไฟ ปิดไฟ หรืออุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้ ปรับลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ ส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะ เป็นต้น ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดให้ภาครัฐลดใช้พลังงานร้อยละ 20 และเป็นตัวชี้วัดของหน่วยงานด้วย ///

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ