นายกฯ ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ อ.พรหมพิราม พิษณุโลก ย้ำดูแลประชาชนให้มีน้ำเพียงพออุปโภคบริโภค สั่งการผู้ว่าฯ ตรวจสอบหาพื้นที่เหมาะสมทำแก้มลิงเพิ่ม

ข่าวทั่วไป Saturday October 14, 2023 15:31 —สำนักโฆษก

นายกฯ ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ อ.พรหมพิราม พิษณุโลก ย้ำดูแลประชาชนให้มีน้ำเพียงพออุปโภคบริโภค สั่งการผู้ว่าฯ ตรวจสอบหาพื้นที่เหมาะสมทำแก้มลิงเพิ่ม เพื่อรองรับน้ำฤดูฝน-กักเก็บน้ำใช้ฤดูแล้ง ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ?ไม่ท่วมไม่แล้ง? ให้เกิดผลแท้จริง

วันนี้ (14 ต.ค. 66) เวลา 14.15 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์น้ำ ณ บริเวณประตูระบายน้ำทุ่งสาน องค์การบริหารส่วนตำบลหอกลอง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เพื่อพูดคุยปัญหาการระบายน้ำ และการวางแผนเพิ่มสถานีสูบน้ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีรับทราบรายงานสภาพปัญหาบริเวณพื้นที่ทุ่งสาน อ.พรหมพิราม จากนายวรพจน์ เพชรนรชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 3 ว่า พื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งสาน ต.หอกลอง ต.ดงประคำ ต.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม อยู่ในพื้นที่ชลประทานของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนนเรศวร กรมชลประทาน มีพื้นที่โครงการรวม 95,000 ไร่ ซึ่งมีพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งสานที่ประสบปัญหาอุทกภัยเป็นประจำทุกปี ประมาณ 52,000 ไร่ เนื่องจากพื้นที่มีระดับต่ำ รองรับน้ำรวมทั้งปริมาณฝนตกชุกในพื้นที่ และมีปริมาณน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก และ จ.อุตรดิตถ์ ด้านทิศตะวันออก และปริมาณน้ำจากพื้นที่ตอนบนทิศเหนือ บึงหล่ม-คลองคล้า-คลองมะหว้า-คลองโปร่งนก เข้าสู่พื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งสาน ส่งผลให้การระบายน้ำในพื้นที่ โดยคลองโปรงนก (คลองระบายน้ำ DL.1) ผ่าน ปตร.ทุ่งสาน ในเขตโครงการ ที่ระบายลงสู่แม่น้ำแควน้อย ไม่สะดวกและไม่สามารถระบายน้ำได้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูน้ำหลากที่แม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำน่านมีระดับสูง พื้นที่การเกษตรประสบปัญหาอุทกภัยจากน้ำท่วมขังเป็นระยะเวลานาน (เดือนกันยายน-ธันวาคม) และเป็นประจำทุกปี โดยขอเสนอแนวทางการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งสาน แบ่งเป็นระยะสั้น (1) ก่อสร้างอาคารระบายน้ำ (ปตร.) เพิ่ม 1 แห่ง จำนวน 1 ช่อง ขนาด 6.00 ม. x 6.00 ม. พร้อมสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าขนาด 3 ลบ.ม/วินาที จำนวน 2 เครื่อง (งปม. 120 ล้านบาท ปี 2569) (2) ปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพอาคารชลประทานในคลอง PL.0 โครงการส่งน้ำฯ นเรศวร (งปม. 10 ล้านบาท ปี 2569) (3) เพิ่มประสิทธิภาพคลองระบายน้ำเลียบคลอง PL.0 ระยะทาง 15.20 กม. (งปม. 10 ล้านบาท ปี 2569) ระยะกลาง (4) คันกั้นน้ำเลียบคลองระบายน้ำคลองโปร่งนก (DL.1) ระยะทาง 9.40 กม. (งปม. 40 ล้านบาท ปี 2570) (5) เพิ่มศักยภาพการกักเก็บน้ำและกระจายน้ำ แก้มลิงบึงหล่ม(พื้นที่บึง 3,500 ไร่) ในเขต ต.ดงประคำ จ.พิษณุโลก และ ต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ โดยการขุดลอกบึงพื้นที่ 2,300 ไร่ กักเก็บน้ำได้ 10 ล้าน ลบ.ม.(งปม. 380 ล้านบาท ปี 2571-2572)

ทั้งนี้ ประโยชน์ที่ได้รับ คือมีเครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำ (อุทกภัย) ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ เพิ่มประสิทธิภาพการส่งน้ำระบายน้ำในเขตโครงการส่งน้ำฯ นเรศวร ลดผลกระทบอุทกภัยพื้นที่การเกษตร 52,000 ไร่ เพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำ (แก้มลิงบึงหล่ม) เพิ่มขึ้นประมาณ 10 ล้าน ลบ.ม. ป้องกันภัยแล้งและอุทกภัยอย่างยั่งยืน และการทำการเกษตร และการใช้ชีวิตของประชาชน มีความมั่นคงและปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีพบปะทักทายประชาชนที่มาต้อนรับอย่างเป็นกันเอง พร้อมพูดคุยถึงการดูแลประชาชนในพื้นที่ให้มีน้ำเพียงพอในการอุปโภคบริโภคด้านต่าง ๆ เช่น การทำธนาคารน้ำใต้ดินในการที่จะนำน้ำใต้ดินมาใช้ในฤดูแล้ง และสามารถช่วยไม่ให้น้ำท่วมได้ด้วย โดยจะมีการพิจารณาในพื้นที่ที่เหมาะสม รวมถึงความต้องการของประชาชนในพื้นที่ประกอบการพิจารณาด้วย เชื่อว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหาเรื่องน้ำอย่างยั่งยืนได้ สอดคล้องกับการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ?ไม่ท่วมไม่แล้ง? ไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลแท้จริง

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการเดินทางมาจังหวัดพิษณุโลกของนายกรัฐมนตรีมาพร้อมกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง มาครบทุกคน รวมถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่จะมาช่วยกันดูแลแก้ปัญหาให้กับประชาชน พร้อมย้ำปัญหาเรื่องน้ำเป็นเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ที่เมื่อฝนตกมามากทำให้เกิดน้ำท่วมได้ง่าย รวมถึงประตูระบายน้ำยังไม่เพียงพอ โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้ดูแลพื้นที่สุ่มเสี่ยงและดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ รวมทั้งได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด ตรวจสอบพื้นที่ หาพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการทำแก้มลิงเพิ่ม เพื่อรองรับน้ำในฤดูฝน เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย รวมทั้งเป็นพื้นที่กักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในฤดูแล้ง พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพให้กำลังใจกับประชาชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ด้วย

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ