สำนักงานกู้ภัยและค้นหาผู้รอดชีวิตของอินโดนีเซียรายงานในวันนี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมฉับพลันในจังหวัดปาปัวตะวันตกของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 109 ราย ขณะเดียวกันก็มีผู้สูญหายอีกอย่างน้อย 66 ราย
อากิต ปราโมโน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากสำนักงานฯ คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากเชื่อว่ามีผู้สูญหายอีกหลายคนที่ไม่มีการรายงาน เพราะอุทกภัยดังกล่าวอาจคร่าชีวิตคนทั้งครอบครัวทำให้ไม่มีใครรายงานให้ทางการทราบได้
ขณะเดียวกัน เฟอร์กอต ฮาฟิด เซเตียนโต เจ้าหน้าที่จากสำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า มีประชาชน 185 คนได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยส่วนมากมีอาการกระดูกหัก ซึ่งทั้งหมดได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลหลายแห่งในพื้นที่ใกล้เคียง ขณะเดียวกันก็มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยอีก 535 ราย
หน่วยกู้ภัยยังคงเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายอย่างน้อย 66 รายในวันที่ 5 ของการเกิดภัยพิบัติในเมือง Wasior เขต Teluk Wondama โดย มูฮัมหมัด อาริฟิน ผู้ประสานงานของหน่วยกู้ภัย กล่าวว่า ปฏิบัติการกู้ภัยจะดำเนินต่อไปสูงสุด 7 วัน
ซุลกิปลี ฮัสซาน รัฐมนตรีกระทรวงป่าไม้ของอินโดนีเซียซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อม โทษว่าอุทกภัยครั้งนี้เป็นผลกระทบจากการลักลอบตัดต้นไม้อย่างผิดกฎหมาย ขณะที่ภาพข่าวทางโทรทัศน์แสดงให้เห็นว่ามีท่อนไม้จำนวนมากลอยมาพร้อมกับซากปรักหักพังและโคลน สำนักข่าวซินหัวรายงาน