
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ในการปรับปรุงเรื่องกำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน โดยให้ยกเว้น
- การขายในอาคารที่ให้บริการแก่าผู้โดยสารภายในสนามบินที่ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ
- การขายในสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ
- การขายในสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่หรือบริเวณที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทั้งนี้ตามที่ รมว.สาธารณสุข ประกาศกำหนด โดยคำแนะนำของ รมว.มหาดไทย โดยผู้ขายต้องจัดให้มีระบบคัดกรองและมาตรการที่จำเป็นเพื่อการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม ความปลอดภัยของประชาชน และการจำกัดการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเด็กและเยาวชน
- การขายในโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม
- การขายในสถานที่ซึ่งใช้จัดกิจกรรมพิเศษระดับชาติหรือนานาชาติ และมีคนจำนวนมากไปทำกิจกรรมร่วมกันตามรานชื่อสถานที่ที่ รมว.สาธารณสุข ประกาศกำหนด โดยคำแนะนำของ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา
โดยให้บังคับใช้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (10 พ.ค.) เป็นต้นไป
นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม. พรรคประชาชน กล่าวว่า กฎหมายนี้ยังไม่ได้ยกเลิกไปแต่อย่างใด วันพระใหญ่ยกคงถูกจำกัดไว้ไม่ให้ขายเหล้าอยู่ แค่ในประกาศฉบับใหม่มีการเพิ่มเติมข้อยกเว้นเข้ามาเพื่อให้สถานที่บางแห่งสามารถขายได้
ดังนั้น ร้านข้าวต้ม ร้านชำ ร้านอาหาร ร้านชำ ร้านสะดวกซื้อ ห้างใหญ่ ซึ่งไม่รวมอยู่ในประกาศใหม่ ยังคงไม่สามารถขายเหล้าได้
ส่วนสถานบริการหรือ ผับ บาร์ เทค ก็สามารถขายได้เฉพาะร้านที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย มีใบอนุญาตประกอบการสถานบริการ แต่ร้านที่ไม่มีใบอนุญาต แต่ประกอบกิจการคล้ายกัน ตามประกาศจะให้ขายได้แค่แหล่งท่องเที่ยง ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าทุกจังหวัดจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว และก็ไม่น่าจะครอบคลุมทั้งจังหวัดด้วย
โรงแรมที่จะขายได้ก็ต้องมีใบอนุญาตโรงแรมถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งก็มีน้อยมากในประเทศไทย และไม่ครอบคลุมทุกประเภทที่พัก
"ผมจึงขอเตือนให้ผู้ประกอบการที่เห็นข่าวนี้ อย่าเพิ่งรีบดีใจไป ระวังให้ดี ตรวจเช็คสถานะของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนว่าเข้าข้อยกเว้นหรือเปล่าก่อนที่จะจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพระ ผมไม่อยากเห็นเห็นใครโดนจับเพราะความเข้าใจผิด"