
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผนึกกำลังทุกภาคส่วน เปิดแคมเปญ "รีบโอนโจรยิ้ม" ภายใต้โครงการ "Thai Cyber Ranger" เพื่อเตือนสติประชาชนให้รู้เท่าทันเล่ห์กลของมิจฉาชีพในโลกไซเบอร์ เพื่อมุ่งเน้นการสร้างภูมิคุ้มกันทางดิจิทัล ให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตบนโลกออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย รู้เท่าทันกลลวงอันซับซ้อนที่ซ่อนอยู่หลังหน้าจอ โดยมีเป้าหมายสำคัญที่สุดคือ ประชาชนปลอดภัย ไม่โอนเงินให้มิจฉาชีพ
วัตถุประสงค์หลักของโครงการนี้ คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมประชาชน โดยกระตุ้นให้ตระหนักถึงภัยคุกคามทางเทคโนโลยีที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงเวลาของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการใช้โทรศัพท์มือถือ การใช้งานโซเชียลมีเดีย หรือการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์
- ระวังตัวก่อน "คลิก" ทุกครั้ง
- กล้าตั้งคำถามก่อน "เชื่อ" ทุกข้อความ
- ใช้วิจารณญาณก่อน "โอน" ทุกบาท
โครงการนี้ ตั้งเป้าหมายเข้าถึงประชาชนไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน ในช่วง 2 เดือนแรก และคาดว่าสามารถช่วยลดจำนวนคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่มีมูลค่าความเสียหายไม่เกิน 1 ล้านบาท (ซึ่งปัจจุบันคิดเป็นกว่า 90% ของคดีทั้งหมด) ได้ไม่น้อยกว่า 10% ภายในสิ้นปีนี้
พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) กล่าวว่า สำหรับมาตราการในการประสานโอนเงินคืนให้กับผู้เสียหายนั้น เป็นเรื่องที่ทางตำรวจให้ความสำคัญ โดยในเรื่องนี้ ตำรวจไซเบอร์จะเป็นผู้ดำเนินการ หากส่วนไหนที่สามารถตรวจสอบเส้นเงิน และสามารถอายัดเส้นเงินได้ทัน ก็จะทำการโอนเงินคืนให้กับผู้เสียหาย
ซึ่งภาพรวมตอนนี้ สามารถคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้จำนวน 2,220 ล้านบาท แต่การอายัดเงินยังทำได้น้อย เนื่องจากกว่าผู้เสียหายจะรู้ตัว เงินก็กระจายไปหลายที่แล้ว
"ขณะนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งวอร์รูม โดยร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย กสทช. และหน่วยงานต่างประเทศ UNOTC เพื่อจะติดตามทุกคดีที่เกิดขึ้นทุกคดี คาดว่าจะเรียบร้อยภายในกลางเดือนหน้า" พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าว