ครม. อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

ข่าวทั่วไป Tuesday July 29, 2025 15:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ครม. อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงพลังงาน (พน.) เสนอ และรับทราบแผนในการจัดทำกฏหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว

สำหรับร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. ... มีสาระสำคัญ คือ จะมีการแจ้ง และกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) สำหรับใช้เองในที่อยู่อาศัย และในสถานประกอบการ โดยมีการกำกับดูแลกระบวนการติดตั้งอุปกรณ์ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ให้มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยและวิศวกรรม

รวมทั้งการจัดการซากอุปกรณ์หลังหมดอายุการใช้งาน เพื่อไม่ให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าของประชาชน และลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประเทศ ตลอดจนเป็นการลดการพึ่งพาพลังงานการนำเข้าจากต่างประเทศ

โดยสาระสำคัญของ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นดังนี้

1. กำหนดให้มีการแจ้งการติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อใช้เองในที่อยู่อาศัยหรือสถานประกอบกิจการต่ออธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน โดยไม่ต้องขออนุญาตการติดตั้งจากหน่วยงานของรัฐอีก และได้กำหนดหลักเกณฑ์การติดตั้งอุปกรณ์ Solar rooftop

2. กำกับให้มีการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้จาก Solar Rooftop เฉพาะในสถานที่ติดตั้งเท่านั้น

3. กำหนดหลักเกณฑ์การติดตามและการจัดการซากอุปกรณ์ และกำหนดหลักเกณฑ์การห้ามถอดแยกชิ้นส่วนซากอุปกรณ์ของ Solar Rooftop หลังหมดอายุการใช้งานแล้ว โดยให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของประชาชน

4. กำหนดหน้าที่และอำนาจของเจ้าพนักงาน เพื่อตรวจสอบ และติดตามการติดตั้งอุปกรณ์ให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้

5. กำหนดบทลงโทษสำหรับการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่ง ร่าง พ.ร.บ.ฯ

"ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์กับทั้งรัฐ และประชาชน เป็นการลดการขาดดุลการค้าระหว่างประเทศ เป็นการสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งพลังงานราคาถูก ลดภาระค่าใช้จ่ายภาคครัวเรือน ลดการซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าเอกชนที่มีต้นทุนสูง และสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้ประชาชน สามารถผลิตไฟฟ้าใช้เอง ได้ทั้งในเขตเมือง และพื้นที่ทางไกล อันเป็นนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล" รองโฆษกรัฐบาล ระบุ

รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายด้านพลังงาน โดยราคาพลังงานจะมีความผันผวนตามสถานการณ์พลังงานโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้าของประเทศ ทำให้ประชาชนต้องรับภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะเดียวกัน ต้นทุนของเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานทางเลือกที่มีศักยภาพสูง และมีแนวโน้มต้นทุนต่อหน่วยการผลิตไฟฟ้าลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งไทยมีศักยภาพสูงในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ตลอดทั้งปี

อย่างไรก็ตาม การติดตั้ง Solar Rooftop ยังมีข้อจำกัด ซึ่งไม่เอื้อต่อการส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อย่างเป็นระบบ โดยประชาชน และภาคธุรกิจ ประสบปัญหาความล่าช้าในกระบวนการขอรับใบอนุญาต หรือการจดแจ้งยกเว้นเกี่ยวกับการติดตั้ง เพื่อใช้เองจากหน่วยงานของรัฐต่าง ๆ

นอกจากนี้ กระบวนการในการพิจารณาการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าดังกล่าว ยังคงต้องอาศัยการประสานงานจากหน่วยงานภาครัฐหลายฝ่าย ทำให้เกิดภาระด้านเอกสาร ด้านเวลา และค่าใช้จ่าย อันมาจากขั้นตอน และการดำเนินงานที่ซ้ำซ้อนกันจากปัญหาดังกล่าว

ปัจจุบัน กำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศมีประมาณ 55,707 เมกะวัตต์ โดยเป็นความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากเชื้อเพลิงและพลังงานทุกประเภท เฉลี่ยประมาณ 25,000 เมกะวัตต์ (รวมถึงการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์) โดย พ.ร.บ.นี้ ไม่กระทบต่องบประมาณและการสูญเสียรายได้ภาครัฐอย่างมีนัยสำคัญ

เนื่องจากปัจจุบัน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าเอกชนมาจำหน่ายให้ประชาชนเป็นปริมาณที่สูงกว่าการผลิตไฟฟ้าจำหน่ายเอง ทำให้ภาระค่าค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ของ กฟผ. คือ ค่าไฟฟ้าที่ซื้อจากโรงงานเอกชน (กฟผ. ผลิตไฟฟ้าเอง เป็นสัดส่วน 29% (16,261 เมกะวัตต์) เท่านั้น ส่วนที่เหลือ 71% เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ และจ้างเอกชนผลิต) ดังนั้น ค่าไฟฟ้าที่ประชาชนต้องจ่าย จึงเป็นของโรงไฟฟ้าเอกชน และผู้ที่เสียสูญเสียรายได้เป็นหลัก จึงเป็นโรงไฟฟ้าเอกชนมิใช่ กฟผ.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ