นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า วันนี้ในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชามีสถานการณ์ปกติ โดยมีอัตรากำลังของฝ่ายปกครอง ไม่ว่าจะเป็น ชรบ. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง ประมาณหมื่นกว่าคนที่เข้าไปดูแลในพื้นที่ 7 จังหวัด 22 อำเภอ 63 ตำบล 335 หมู่บ้าน ผลจากการไปดูแล ดูแลจุดตรวจ จุดสกัด การรักษาทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนที่เคลื่อนที่ไปอยู่ที่ศูนย์พักพิง รวมทั้งสำรวจข้อมูล หลักฐาน และได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
ส่วนของความเสียหาย ณ วันที่ 30 ก.ค.68 มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบใน 7 จังหวัด 42 อำเภอ 321 ตำบล 3,884 หมู่บ้าน รวมทั้งสิ้น 278,506 ครัวเรือน 839,935 คน ผู้เสียชีวิต 16 ราย และผู้บาดเจ็บ 38 ราย
ทั้งนี้ได้มีการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ 7 จังหวัด 36 อำเภอ 238 ตำบล 2,702 หมู่บ้าน ในส่วนของศูนย์พักพิง ปัจจุบันนี้มีการทยอยเข้า-ออก ข้อมูลศูนย์พักพิงปัจจุบันมี 733 ศูนย์ มีผู้ที่ยังอาศัยอยู่ศูนย์พักพิง 187,974 คน ส่วนการกลับบ้านบางคนก็ไปอยู่บ้านญาติ บางคนอยากกลับบ้าน ซึ่งวันนี้ได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ได้พิจารณาแต่ละศูนย์ฯ ถึงความเหมาะสม โดยทางเราเน้นการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ในการจะกลับบ้านให้ผู้ว่าฯ และหน่วยงานความมั่นคงเป็นผู้พิจารณา
สำหรับการเยียวยาช่วยเหลือ ทางรัฐบาลได้เพิ่มวงเงินให้แต่ละจังหวัดในวงเงินทดลองจ่าย จังหวัดละ 100 ล้านบาท ในส่วนของอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 100 ล้านบาท
ส่วนการสำรวจความเสียหายได้สั่งการให้ทุกจังหวัดเร่งดำเนินการสำรวจและชดเชย เยียวยาประชาชนให้เป็นไปตามระเบียบโดยเร็ว ในส่วนของการบริจาคในภาครัฐนั้น ได้กำหนดพื้นที่บริจาค ถ้าเป็นเงินให้บริจาคมาที่สำนักนายกรัฐมนตรี ถ้าหากเป็นสิ่งของให้บริจาคไปที่ศาลาว่าการจังหวัดทุกจังหวัด ส่วนกลางการจะเปิดหรือปิดรับบริจาคเมื่อไร ก็เป็นไปตามประกาศของแต่ละจังหวัด