สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ให้ดำเนินการทางกฎหมายกับ Facebook The Critics และ YouTube สถาบันทิศทางไทย ซึ่งได้เผยแพร่ข่าวอันเป็นเท็จบิดเบือนข้อเท็จจริงในกระบวนการไต่ส่วนของศาลตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
สืบเนื่องจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี โดยเรียกพยานบุคคลมาให้ถ้อยคำไต่สวนจำนวน 2 ปาก คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรณีที่ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธารฯ นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่
เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 38 วรรคหนึ่งนั้น ปรากฏว่าภายหลังวันดังกล่าวมีการเผยแพร่คลิปและข่าวในสื่อสารมวลชนหลายช่องทาง อันเป็นเท็จบิดเบือนข้อเท็จจริงในกระบวนการไต่สวนของศาลลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธาธารณชน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวอ้างว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งพูดกับผู้ถูกร้องว่า "นั่งลงลูก" ซึ่งความจริงพูดว่า "นั่งลงครับ" การเผยแพร่และบิดเบือนดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลตามมาตรา 38 และมาตรา 39 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 และข้อ 10 และข้อ 11 ของข้อกำหนดศาลรัฐธรรรมญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2562