
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศเรื่อง "หัวอกประชาชนกับบัญชีม้า" จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,154 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 16-19 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่รู้สึกกังวลมาก และปรับพฤติกรรมตนเองด้วยการตรวจสอบธุรกรรมบ่อยขึ้น ขณะที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นต่อธนาคารและหน่วยงานรัฐในการปกป้องผู้บริสุทธิ์จากผลกระทบบัญชีม้า และในภาพรวมส่วนใหญ่รู้สึกเชื่อมั่นต่อรัฐบาลนายอนุทินในการจะเข้ามาแก้ปัญหาบัญชีม้า สำหรับบทเรียนหรือข้อคิดจากข่าวบัญชีม้า คือ ทำให้ติดตามข่าวอย่างต่อเนื่องและตรวจสอบธุรกรรมของตนเองบ่อยขึ้น รองลงมาคือ ระวังไม่ให้หลงเชื่อคนแปลกหน้าที่ติดต่อมาขอใช้บัญชี
น.ส.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล กล่าวว่า จากข่าวบัญชีม้า แม้ประชาชนจะมีความกังวลสูง แต่ก็เลือกที่จะปรับตัวเชิงรุก ด้วยการตรวจสอบธุรกรรมบ่อยครั้งและระมัดระวังการโอนเงินมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังฝากความหวังไว้กับสถาบันการเงินและรัฐบาลอนุทินในการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง โดยตัวเลขความเชื่อมั่นที่ออกมาค่อนข้างสูง ทำให้ต้องจับตามองว่ารัฐบาลจะสามารถฟื้นความมั่นใจและตอบโจทย์ความกังวลของประชาชนได้หรือไม่
ขณะที่ น.ส.อัญชลี รัตนะ ผู้ช่วยคณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า ปัจจุบันบัญชีม้ากลายเป็นหนึ่งในปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่แพร่หลายอย่างมากในประเทศไทยนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคอุบัติใหม่โควิด-19 เนื่องจากการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้เข้าไปมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของประชาชนมากขึ้น การเปิดบัญชีม้าได้กลายเป็นกลไกสำคัญที่เอื้อให้อาชญากรรมทางการเงินแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวางส่งผลกระทบต่อทั้งตัวบุคคลและระบบเศรษฐกิจโดยรวม
การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งในด้านกฎหมายที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขให้รัดกุมและทันสมัย ในด้านเทคโนโลยี ภาครัฐต้องเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการตรวจสอบและติดตามให้มีความรัดกุมฉับไว สามารถจำแนกผู้กระทำผิดและผู้เสียหายได้ชัดเจน และการให้ความรู้ การสร้างความเข้าใจกับประชาชนให้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพและตระหนักถึงความผิดทางกฎหมายที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อให้ทุกคนทุกหน่วยงานสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของรูปแบบอาชญากรรมในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ