เตือน!!เตรียมรับอิทธิพลหย่อมความกดอากาศต่ำอีกระลอก 5 ต.ค.นี้

ข่าวทั่วไป Tuesday September 30, 2025 19:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เตือน!!เตรียมรับอิทธิพลหย่อมความกดอากาศต่ำอีกระลอก 5 ต.ค.นี้

นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) คาดการณ์ว่า หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศฟิลิปปินส์ อาจจะส่งผลให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ช่วงประมาณวันที่ 5 ตุลาคมนี้ ที่ประชุมจึงได้หารือเร่งด่วนเพื่อวางแนวทางบริหารจัดการน้ำในกลุ่มลุ่มน้ำเจ้าพระยาช่วงรอยต่อก่อนสิ้นสุดฤดูฝน เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน รวมถึงเพื่อให้เขื่อนมีช่องว่างรองรับน้ำหลากและมีปริมาณน้ำสำรองเพียงพอสำหรับฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึง โดยมีมติเห็นชอบให้คงอัตราการระบายน้ำของเขื่อนสิริกิติ์ ที่ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวัน ในช่วง 2-3 วันนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำของลุ่มน้ำน่าน บริเวณจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ขณะนี้มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นค่อนข้างมาก เช่นเดียวกับเขื่อนภูมิพล ยังให้คงอัตราการระบายน้ำที่ 15 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน อย่างไรก็ตาม เขื่อนทั้ง 2 แห่งยังคงมีน้ำไหลเข้าต่อเนื่อง และมีแนวโน้มปริมาณน้ำใกล้เต็มความจุ เสี่ยงเกิดน้ำล้น จึงให้ทุกหน่วยงานติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมปรับเพิ่มการระบายน้ำอีกครั้งให้อยู่ในอัตราที่เหมาะสม

ขณะเดียวกัน ด้วยความจำเป็นในการเร่งระบายน้ำจากภาคเหนือลงสู่พื้นที่ตอนล่างเพื่อลดระดับน้ำในพื้นที่ จึงคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์ ในอัตราประมาณ 2,800 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งหากคงการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราปัจจุบันที่ 2,300 ลบ.ม. ต่อวินาที จะส่งผลให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเพิ่มสูงเกิน 17.5 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งอาจทำให้เกิดผลกระทบด้านเหนือเขื่อนและอาจก่อให้เกิดปัญหาต่อความมั่นคงของเขื่อน จึงจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็นอัตรา 2,400 ลบ.ม. ต่อวินาที และจะมีการประเมินปริมาณฝนที่ตกจริงเปรียบเทียบกับค่าคาดการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมการระบายน้ำให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนน้อยที่สุด

นอกจากนี้ จะปรับเพิ่มปริมาณการรับน้ำเข้าสู่ทุ่งลุ่มต่ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่มีการเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จและทำประชาคมร่วมกับประชาชนในพื้นที่แล้ว พร้อมทั้งจะมีการระบายน้ำออกจากทุ่งอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทุ่งบางระกำที่มีปริมาณน้ำจำนวนมาก เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับไปดำรงชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแล สทนช. ได้สั่งการให้ภาครัฐเข้าช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบในทุกพื้นที่อย่างเต็มที่

นายไพฑูรย์ กล่าวว่า แม้ว่าฤดูฝนในปีนี้ประเทศไทยจะได้รับอิทธิพลทางอ้อมจากพายุถึง 5 ลูก รวมถึงหย่อมความกดอากาศต่ำ ซึ่งใกล้เคียงกับเมื่อปี 2554 แต่ขอยืนยันว่าจะไม่เกิดสถานการณ์อุทกภัยซ้ำรอยอย่างแน่นอน และคาดว่าภายหลังฝนตกหนักจากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำในระลอกนี้ผ่านไป สถานการณ์จะคลี่คลายลงตามลำดับ โดย สทนช. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งระบายมวลน้ำที่ท่วมขังออกจากพื้นที่โดยเร็ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ