นายกฯ ถกปราบสแกมเมอร์นัดแรกยกเป็นวาระแห่งชาติสั่งอัดยาแรง ท้าฝ่ายค้านเปิดชื่อนักการเมืองเอี่ยว

ข่าวทั่วไป Monday October 20, 2025 19:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 1/2568 ว่า ได้หารือกับทุกหน่วยงานเพื่อให้ทราบว่าปัญหาสแกมเมอร์เป็นปัญหาระดับโลก และเป็นวาระแห่งชาติที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้​ เพื่อให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกัน ในการแก้ไขปัญหา ซึ่งทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่อยู่แล้ว มีการยึดทรัพย์ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในระดับหมื่นล้าน แต่ขาดการประชาสัมพันธ์ จึงอยากให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลไม่ได้อยู่เฉยๆ และได้สั่งการให้ดำเนินการเข้มข้นมากขึ้น

ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่าสแกมเมอร์ขณะนี้อยู่ที่พื้นที่กรุงเทพมหานคร นายกรัฐมนตรีระบุว่า อยู่ทั่วไป​ แต่ฐานหลักยังอยู่ที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และวันนี้เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ยืนยันว่าได้มีการระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ส่งจากไทยไปยังพื้นที่แสกมเมอร์ของเพื่อนบ้านทั้งหมดแล้ว​ แต่หากจะมีการนำสัญญาณตรงไหนไปใช้ก็ต้องประสานประเทศต้นทาง ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขสันติภาพในการปราบปรามสแกมเมอร์อย่างเป็นรูปธรรม

นายอนุทิน​ ยืนยันว่า ไม่ได้ตั้งนายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง เป็นประธานอนุกรรมการปราบปรามสแกมเมอร์​ แต่ขณะนี้มีคณะอนุกรรมการ 2-5 ชุด ซึ่งพยายามให้มีการรวมหน่วยงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วม โดยมีหน่วยงานหลักคือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ​ กระทรวงยุติธรรม​ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน​ (ปปง.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงมหาดไทย พร้อมย้ำว่าขณะนี้ยังไม่มีชื่อใครทั้งนั้น ต้องรอให้อธิบดีกรมการปกครอง ซึ่งเป็นเลขานุการของคณะกรรมการชุดนี้รวบรวมรายชื่อมาก่อน เนื่องจากคณะอนุกรรมการชุดนี้ถูกแต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี

ส่วนมาตรการยาแรงในการแก้ไข​ปัญหา​ เลขา กสทช.ได้ดำเนินการปิดสัญญาณสื่อสาร และตัดการสนับสนุนด้านพลังงาน​ในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา​ ซึ่งหน่วยงานที่กำกับดูแลสามารถหยุดการให้บริการหรือสนับสนุนคนทำผิดกฎหมายได้ทันที ซึ่งถือเป็นยาแรง และสั่งให้มีการตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตได้ทันที​หากเป็นการสนับสนุนการกระทำผิเด​ โดยยึดตามมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติที่เคยมีไว้ โดยไม่ต้องเข้าสู่ที่ประชุมอีกครั้งหนึ่ง​แล้ว

สำหรับกระแสข่าวว่ามีนักการเมือง​ 7 รายชื่อเข้ามาเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์นั้น​ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า​ รอการเปิดเผยรายชื่ออยู่​ แต่กลับกลายเป็นว่าสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีประจำประเทศไทยออกมาปฏิเสธข่าว​ พร้อมย้ำว่า หากพบเส้นทางการเงินเข้าไปเกี่ยวข้องมีหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้อยู่แล้วอย่าง ปปง.​

พร้อมกล่าวย้ำว่าหากพบจะไม่ดูว่าชื่อหรือตำแหน่งอะไร ถ้ามีพฤติกรรมเข้าข่ายการกระทำความผิดชัดเจน ใครผิดก็ต้องดำเนินการเอาผิด​ หากฝ่ายค้านมีข้อมูลเรื่องสแกมเมอร์ว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องก็ขอให้เปิดเผยมา เพื่อให้ง่ายต่อการดำเนินคดีจะได้ไม่ต้องคาดเดา เพราะฝ่ายค้านเป็นฝ่ายตรวจสอบ สามารถดำเนินการได้ทันที ขอให้ส่งรายชื่อมาอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม มีผู้ที่กระทำความผิดถือสัญชาติไทยและถือสัญชาติอื่นด้วย จึงเป็นที่มาที่ตนเองไม่ยอมเซ็นมอบสัญชาติให้ โดยได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยและอธิบดีกรมการปกครองไปดำเนินการถอนสัญชาติ ซึ่งบุคคลดังกล่าวเชื่อมโยงกับสแกมเมอร์

นายอนุทิน กล่าวถึงนางสาวสฤณี​ อาชวานันทกุล​ นักวิชาการอิสระ​ที่ ออกมาระบุข้อมูลเชื่อมโยงสแกมเมอร์​ ยอมรับว่าไม่ยังไม่ได้อ่านข้อมูลดังกล่าว ส่วนที่มีการเชื่อมโยงถึงบริษัทและบุคคลต่างๆในประเทศไทย หากโยงถึงใครคนนั้นก็โดน ซึ่งต้องดูจากพฤติกรรมหากใครทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินคดี ซึ่งหากประเทศไทยไม่ดำเนินการให้เด็ดขาดและเข้มงวด แต่เมื่อมีการไปเจรจา การฑูต​ การลงทุน​ รวมถึงการเมือง เรื่องนี้จะทำให้เราเสีย​ และถูกกดดัน​ จึงต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด​

ด้านข้อเสนอจากหลายฝ่ายที่ออกมาสนับสนุนให้ไทยไม่เข้าร่วมการประชุม GBC เนื่องจากกัมพูชาไม่ยอมทำตามข้อตกลงนั้น นายกรัฐมนตรี​ ระบุว่า อะไรที่ดำเนินการอยู่แล้ว และประเทศไทยไม่ได้สูญเสียประโยชน์​ โดยยึดถือเกียรติภูมิของประเทศและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ โดยจะดำเนินการจนกว่าจะสามารถหาข้อสรุปได้ว่าจะสู้กันต่อประจันหน้ากัน หรือต่างคนต่างไป ต่างคนต่างยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกัน ซึ่งจะค้างเติ่งแบบนี้ไม่ได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ