การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุม โดยมีวาระสำคัญพิจารณา คือสำนักงบประมาณ จะเสนอขออนุมัติการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2570 ซึ่งกำหนดกรอบวงเงินเบื้องต้นที่ 3.855 ล้านล้านบาท ประมาณการรายได้เบื้องต้นที่ 3.096 ล้านล้านบาท และเป็นการจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลที่ 758,600 ล้านบาท โดยจะเสนอให้แต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำกับดูแลแผนงานบูรณาการด้านต่าง ๆ สำหรับงบประมาณปี 2570
พร้อมกันนี้ ต้องจับตาการย้าย "นายดนุชา พิชยนันท์" กลับมานั่งตำแหน่งเดิม คือ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) หลังจากที่รัฐบาลชุดก่อน มีการสั่งโยกย้ายนายดนุชา ไปนั่งเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เพื่อทดแทนผู้ที่เกษียณอายุราชการ
สำหรับวาระการพิจารณาที่น่าสนใจ ได้แก่
- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอขออนุมัติต่อสัญญาการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก หรือ "MotoGP ปี 2570-2574" ภายใต้กรอบวงเงินราว 3,000 ล้านบาท
- กระทรวงพาณิชย์ เสนอแก้ไขความตกลงการค้าเสรีระหว่างราชอาณาจักรไทย และราชอาณาจักรภูฏาน รวมถึงเสนอขอความเห็นชอบร่างบันทึกความร่วมมือ (MOU) ด้านการค้าระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์
- กระทรวงคมนาคม จะเสนอขออนุมัติกู้เงิน เพื่อใช้ในการดำเนินงาน (กรณีรายได้ไม่เพียงพอสำหรับรายจ่าย) วงเงิน 1.8 หมื่นล้านบาท ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ประจำปีงบฯ 69
- กระทรวงการคลัง เสนอโครงการสลากการกุศลเพิ่มเติม
- กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอการลงนามพิธีสารระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทย กับสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยการตรวจสอบและกักกันสินค้าเกษตร ได้แก่ "เนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งและรังนกเพื่อการบริโภค
- กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เสนอจัดตั้ง 2 หน่วยงานใหม่ ได้แก่ สำนักงานเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ (องค์การมหาชน) และสำนักงานเร่งรัดการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดแข่งขันระดับพื้นที่
- กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอ (ร่าง) การมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด NDC 3.0
- กระทรวงยุติธรรม เสนอลงนามสนธิสัญญาอาเซียนว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน
- สำนักงานศาลยุติธรรม เสนอกฎหมายใหม่เกี่ยวกับคดีแรงงานและคดีค้ามนุษย์
- สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เสนอแก้คำสั่งมอบหมายอำนาจรองนายกฯ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี