สร้างเกษตรปลอดเผายั่งยืน สู้ PM2.5 ฝ่าฝืนอดรับสิทธิ์สนับสนุนจากภาครัฐ

ข่าวทั่วไป Thursday November 20, 2025 14:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สร้างเกษตรปลอดเผายั่งยืน สู้ PM2.5 ฝ่าฝืนอดรับสิทธิ์สนับสนุนจากภาครัฐ

นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยผลการดำเนินงานลดการเผาพื้นที่เกษตรทั่วประเทศในปี 2568 ส่งสัญญาณบวก ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมชี้ว่า จุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่เกษตรลดลง 12.70% เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยในจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงเดือน มี.ค.66-67 ลดลงสูงถึง 27% สะท้อนผลสัมฤทธิ์ของมาตรการลดการเผาอย่างเป็นรูปธรรม

โดยที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการเกษตร ขับเคลื่อนและส่งเสริมการบริหารจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร แก่เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง เช่น การไถกลบเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุ การทำปุ๋ยหมัก-ปุ๋ยอินทรีย์ การใช้ฟางเลี้ยงสัตว์ และการสร้างรายได้จากการจำหน่ายเศษวัสดุชีวมวล เป็นต้น ทำให้สามารถนำเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไปใช้ให้เกิดประโยชน์แล้ว 29.7 ล้านตัน จากทั้งหมด 48.6 ล้านตัน คิดเป็น 61% สร้างมูลค่ากว่า 3.3 พันล้านบาท ช่วยลดต้นทุนการประกอบอาชีพแก่เกษตรกรได้เป็นอย่างดี

สร้างเกษตรปลอดเผายั่งยืน สู้ PM2.5 ฝ่าฝืนอดรับสิทธิ์สนับสนุนจากภาครัฐ

โดยในด้านการมีส่วนร่วม มีเกษตรกรเข้าร่วมอบรมความรู้ด้านการจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรแล้วกว่าแสนราย เกิดเครือข่ายเกษตรกรปลอดเผาหลายพันราย และมีชุมชนต้นแบบขยายผล เช่น ชุมชนบ้านโนนงิ้ว อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ จำนวน 168 ครัวเรือน พื้นที่ 2,160 ไร่ สร้างเงื่อนไข และกฎร่วมกันของชุมชนดำเนินการปลอดการเผาอย่างเข้มแข็ง

สำหรับในปี 2569 กรมส่งเสริมการเกษตร กำหนดทิศทางขับเคลื่อน 2 แนวทางสำคัญ ได้แก่ การลดการเผาในพื้นที่การเกษตรและการสร้างมูลค่าเพิ่มจากเศษวัสดุเหลือใช้ในการเกษตร โดยเน้นให้ทุกพื้นที่จัดทำแผนที่ที่แสดง ระดับความเสี่ยงการใช้ไฟหรือการเผาในพื้นที่เกษตร

โดยอ้างอิงจากข้อมูล hot spot และ burn scar ย้อนหลัง 3-5 ปี ประกอบกับข้อมูลชนิดพืช เพื่อให้ชุมชนเห็นภาพร่วมกันว่าพื้นที่ใดเผาบ่อย เผาซ้ำ

รวมถึงร่วมกับชุมชนในการวิเคราะห์สาเหตุ และออกแบบทางเลือกแทนการเผา และศึกษาวิเคราะห์ห่วงโซ่มูลค่าวัสดุชีวภาพ เช่น ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อย เพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกส์เพื่อเชื่อมโยงอุตสาหกรรมชีวมวล และวัสดุชีวภาพ รวมถึงการจัดการระดับแปลงและระดับพื้นที่ เช่น ไถกลบ ปุ๋ยหมัก สับย่อยเชื้อเพลิง และการออกแบบโมเดลธุรกิจชุมชน และขยายการรณรงค์ผ่านโครงการ Green Gain และการสร้างเกษตรกรต้นแบบ รวมถึงชุมชนเกษตรปลอดเผา ครอบคลุม 62 จังหวัด

นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ยังสนับสนุนการนำเศษวัสดุไปใช้ประโยชน์เชิงธุรกิจ เช่น กลุ่มแปลงใหญ่สหกรณ์โคนมโคกก่อ จ.มหาสารคาม ที่รวบรวมฟางข้าว และปลูกข้าวโพดอาหารสัตว์กว่า 200 ตัน รวมถึงส่งเสริมให้เกษตรกรมีการบริหารจัดการไฟอย่างถูกต้อง ผ่านแอปพลิเคชั่น Burn Check ซึ่งขณะนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกประกาศมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา PM2.5 ภาคการเกษตร พ.ศ.2568 (ฉบับที่ 2) โดยเกษตรกรที่มีประวัติการเผาในพื้นที่การเกษตร ช่วงที่ผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.69-31 มี.ค.71 จะหมดสิทธิ์เข้าร่วม โครงการสนับสนุนจากรัฐทุกรายการ ยกเว้นการช่วยเหลือกรณีภัยพิบัติ

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ย้ำว่า การแก้ปัญหาฝุ่นควันและ PM2.5 ในภาคเกษตร ต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วน เพื่อให้การผลิตปลอดการเผาเป็นมาตรฐานใหม่ของเกษตรไทย และสร้างอากาศที่ดีให้ทุกคนอย่างยั่งยืน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ