ถอดบทเรียนหาดใหญ่! "พิพัฒน์" ชูแผน "วงแหวน-คลองระบายน้ำ" แก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองอย่างยั่งยืน

ข่าวทั่วไป Sunday December 7, 2025 12:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ถอดบทเรียนหาดใหญ่!

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงการร่วมประชุมวิชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ กับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วานนี้ (6 ธ.ค.) ว่า เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในอำเภอหาดใหญ่ครั้งล่าสุด ถือเป็น "สัญญาณเตือนสำคัญ" ว่าระบบระบายน้ำเดิมของเมือง ไม่เพียงพอรองรับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนไป

โดยน้ำได้หลากเข้าสู่เขตเมืองพร้อมกันถึง 3 ทิศทาง ได้แก่ 1. ทิศตะวันออกจากเขาคอหงส์-เขาน้ำกระจาย 2.ทิศตะวันตกจากอำเภอรัตภูมิ ผ่านคลอง ร.1 คลอง ร.3 คลอง ร.5 และคลองหวะ 3. ทิศใต้จากอำเภอสะเดา ผ่านคลองทุ่งหมอ-คลองทุ่งวัด ขณะที่ทางระบายน้ำออกเมืองมีเพียงเส้นทางเดียว คือการไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลา ทางทิศเหนือผ่านคลองอู่ตะเภา ทำให้ระดับน้ำในคลองหลักสูงกว่าตลิ่ง 2-3 เมตร สถานีสูบน้ำไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และเกิดน้ำท่วมรุนแรงในเขตเมืองชั้นในอย่างที่ปรากฏ

ถอดบทเรียนหาดใหญ่!

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า จากการมอบหมายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตน และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมกัน "ถอดบทเรียนเชิงลึก" ที่สงขลา-หาดใหญ่ จึงได้พาทีมผู้บริหารกระทรวงคมนาคมลงพื้นที่สำรวจ ทั้งต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยมีปลัดกระทรวงคมนาคม อธิบดีกรมทางหลวง อธิบดีกรมทางหลวงชนบท อธิบดีกรมเจ้าท่า อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมประชุมหารือในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมรับฟังข้อมูลจากหน่วยงานท้องถิ่นและนักวิชาการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

"เราจะไม่ได้มองแค่งานฟื้นฟูหลังน้ำลด แต่ต้องมองให้ครบทั้งโครงสร้างน้ำและโครงสร้างทาง ลึกไปถึงผังเมืองระยะ 20-30 ปีข้างหน้า เมืองหาดใหญ่ต้องไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำอีก" รองนายกฯ และรมว.คมนาคม กล่าว

สำหรับแนวทางระยะสั้น กระทรวงคมนาคมจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ อาทิ ขยายความกว้างและความลึกของคลองหลักรอบเมือง ได้แก่ คลอง ร.1, ร.3, ร.5, คลองเตย, คลองหวะ, ติดตั้งและปรับปรุงประตูน้ำ-สถานีสูบน้ำ ในจุดยุทธศาสตร์ และเปิดทางให้น้ำบางส่วนไหลออกทางคลอง ร.5 เพื่อเพิ่มทิศทางระบายน้ำลงทะเลสาบสงขลา ไม่ให้กระจุกอยู่ที่คลองอู่ตะเภาเพียงเส้นเดียว

ขณะเดียวกัน แนวทางระยะยาว จะใช้การก่อสร้างถนนวงแหวนรอบเมืองหาดใหญ่ของกระทรวงคมนาคม เป็น "โครงสร้างหลักในการจัดการน้ำ" ควบคู่ไปกับการจราจร อย่างโครงการถนนวงแหวนโดยออกแบบให้ ไม่กลายเป็นกำแพงกั้นน้ำ แต่ทำหน้าที่เป็น "แนวระบายออกจากเมือง" ผ่านการสร้างคลองระบายน้ำคู่ขนานตลอดแนววงแหวน มีความกว้างประมาณ 50 เมตร ลึก 4-5 เมตร พร้อมระบบประตูน้ำ และสถานีสูบน้ำเป็นช่วง ๆ เพื่อผลักดันน้ำออกสู่ทะเลสาบสงขลาอย่างรวดเร็ว

"ถนนวงแหวนเส้นใหม่ จะไม่ใช่แค่ช่วยแก้รถติด แต่จะช่วยแก้น้ำท่วมไปพร้อมกัน เมื่อน้ำมาจากสามทิศ ทางออกต้องมากกว่าหนึ่งทิศ และต้องวางไว้ตั้งแต่วันนี้ในแบบถาวร" นายพิพัฒน์ย้ำ

พร้อมกันนี้ ยังเสนอให้โครงการดังกล่าวเป็น โครงการบูรณาการระดับชาติ ที่ต้องทำงานร่วมกันอย่างน้อย 3-4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงคมนาคม (ถนนวงแหวน และท่าเรือ), กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน), กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงให้สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เข้ามารับผิดชอบการจัดทำ "แผนแม่บทระบบน้ำของเมืองหาดใหญ่" อย่างครบวงจร

"เหตุการณ์จากหาดใหญ่ครั้งนี้ จะไม่หยุดแค่การเยียวยา แต่จะกลายเป็นแบบแผนสำหรับทั้งประเทศ ว่าในการวางถนน วงแหวน คลอง และประตูน้ำ ต้องคิดเป็นระบบเดียวกัน" รองนายกฯ และรมว.คมนาคม ระบุ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ