ไทย-กัมพูชา: ยังมีเหตุปะทะเป็นระยะ จับตาประชุม GBC วันที่ 2

ข่าวทั่วไป Thursday December 25, 2025 15:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะโฆษกศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กล่าวว่า สำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 3 ขณะนี้อยู่ในช่วงของการประชุมฝ่ายเลขา GBC ไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 24-26 ธ.ค. 68 โดยการประชุมวันที่สอง ในช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากที่ไทยได้เสนอประเด็นหารือให้กับฝ่ายกัมพูชาได้รับทราบไปเมื่อวานนี้ (24 ธ.ค.) ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้มีการหารือภายใน และวันนี้กัมพูชาได้กลับมาร่วมประชุมในช่วงเช้า และเสนอประเด็นเพิ่มเติมให้ฝ่ายไทยพิจารณา

ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายจึงอยู่ระหว่างการพิจารณาประเด็นต่าง ๆ ที่ทั้งสองฝ่ายเสนอมา และในเวลา 15.00 น. ทั้งสองฝ่ายจะร่วมประชุมอีกครั้งเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน ซึ่งถือว่ามีความคืบหน้าที่มีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ ในการประชุม GBC ครั้งนี้ จะมีผู้คณะสังเกตการณ์อาเซียนของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสของการประชุม และในการประชุมของรมว.กลาโหมทั้งสองประเทศในวันที่ 27 ธ.ค. 68 ก็จะมีคณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ด้วยเช่นกัน

เมื่อถามว่า ในหนังสือของฝ่ายกัมพูชามีเนื้อหาที่บอกว่า อยากให้ทั้งสองฝ่ายกลับไปอยู่จุดเดิมก่อนเริ่มเหตุปะทะครั้งล่าสุดอยู่หรือไม่ พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า เนื้อหาในหนังสือมีนัยเช่นนั้น ทั้งนี้ ตนมองว่า GBC ฝ่ายเลขาอยู่ระหว่างพูดคุยประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้อยู่ ต้องรอข้อสรุปจากเลขาอีกครั้ง อย่างไรก็ดี เน้นย้ำว่า ข้อสรุปของการประชุมจะเป็นอย่างไรต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายกัมพูชา เนื่องจากกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มสร้างสถานการณ์ก่อน ดังนั้น กัมพูชาต้องเป็นผู้ยุติก่อน

*สถานการณ์ล่าสุด

- วันที่ 24 ธ.ค. 68

เวลา 16.30 น. การประชุมฝ่ายเลขาคณะกรรมการชายแดนทั่วไป GBC (วันแรก) ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด จ.จันทบุรี

เวลา 12.00 น. ฝ่ายไทยสามารถผลักดันกองทัพกัมพูชาผู้รุกราน ออกจากพื้นที่เนิน 225 จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นดินแดนอธิปไตยของไทยได้สำเร็จ

-วันที่ 25 ธ.ค. 68

เวลา 05.00 น. ฝ่ายกัมพูชายิงจรวด BM-21 เข้าใส่พื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทย บริเวณบ้านคลองแผง อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย

เวลา 09.00-17.00 น. การประชุมฝ่ายเลขาคณะกรรมการชายแดนทั่วไป GBC (วันที่สอง) ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด จ.จันทบุรี

*สถานการณ์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข (ข้อมูลล่าสุด ถึงเวลา 08.00 น. วันที่ 25 ธ.ค. 68)

ประชาชนเสียชีวิต (ผลกระทบทางอ้อมจากเหตุการณ์) 42 คน

ประชาชนเสียชีวิต (ผลกระทบจากการโจมตีของกัมพูชา) 1 คน

ประชาชนได้รับบาดเจ็บ (จากการโจมตีของกัมพูชา) 13 คน

ศูนย์พักพิง จำนวน 744 แห่ง

ประชาชนในศูนย์พักพิง 136,728 คน

โรงพยาบาลได้รับผลกระทบ 18 แห่ง และ รพ.สต. ได้รับผลกระทบ 240 แห่ง

พ.ต.หญิง กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงภาพรวมของสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ว่า การสู้รบในขณะนี้เบาบางลงแล้ว แต่ยังคงมีพื้นที่ที่มีการปะทะเป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะพื้นที่ภูมะเขือ-ห้วยตามาเรีย ที่ขณะนี้ฝ่ายกัมพูชายังคงโจมตีทหารไทยอย่างต่อเนื่อง แต่ในภาพรวมทหารไทยสามารถตรึงกำลังและควบคุมสถานการณ์ไว้ได้

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า ถึงแม้สถานการณ์ในภาพรวมจะมีความเบาบางลงแล้ว แต่ก็ยังคงต้องเฝ้าระวัง เราจะเชื่อใจ ไว้ใจกัมพูชามากเกินไปไม่ได้

นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) กล่าวว่า วานนี้ (24 ธ.ค.) รมว.ต่างประเทศ ได้เป็นประธานการประชุมกับเอกอัครราชทูต/ กงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และอีกประเด็นที่สำคัญในการสื่อสาร คือกระทรวงการต่างประเทศได้รวบรวมหลักฐานประสานกับเหล่าทัพมาโดยตลอด โดยไทยได้ยื่นหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติร้องเรียนกัมพูชา กรณีเหตุทุ่นระเบิดสังหารบุคคลครั้งล่าสุด และหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 23 แล้ว

สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่า คนไทยในประเทศกัมพูชา โดนรีดไถเงินคนละ 10,000 บาท ก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน กระทรวงการต่างประเทศได้มีการตรวจสอบหรือไม่ นางมาระตี กล่าวว่า มีการตรวจสอบ และทราบมาว่ามีการตั้งด่านตลอดถนนที่เป็นเส้นทาง ซึ่งตรวจทุกคน ไม่เฉพาะคนไทยเท่านั้น ส่วนในเรื่องการเรียกเก็บเงิน ยังไม่ยืนยันว่า มีการเก็บเป็นระบบ

ส่วนกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศของอินเดีย ประท้วงที่ทางการไทยทำลายรูปเคารพที่เป็นเทพเจ้าฮินดู กรณีนี้ศูนย์แถลงข่าวร่วมจะออกแถลงการณ์ชี้แจงในประเด็นนี้ โดยการดำเนินการของฝ่ายไทยในบริเวณนั้น เป็นเรื่องของการบริหารจัดการพื้นที่ เราไม่ได้มีความตั้งใจทำลายสิ่งปลูกสร้างที่สะท้อนถึงความเชื่อของประเทศใด ทั้งนี้ ไทยเป็นประเทศที่มีความเคารพในทุกศาสนาอยู่แล้ว และเข้าใจว่าสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้นเป็นของประดับ ไม่ได้เป็นสถานที่ทางศาสนา ซึ่งกระทรวงฯ จะมีการพูดคุยกับท่านทูตอินเดียสบายใจว่า ไทยไม่ได้มีเจตนาอะไรนอกเหนือไปจากการควบคุมสถานที่

จากการตรวจสอบรูปปั้นดังกล่าวไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนเป็นเทวสถาน เป็นลักษณะของการตกแต่งสถานที่เท่านั้น ทั้งนี้ เข้าใจว่าอาจมีการกระทบกระเทือนต่อจิตใจของผู้ที่นับถือศาสนา แต่กระทรวงการต่างประเทศยืนยันแล้วว่า จะขอเวลาไปชี้แจงให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าใจมากขึ้นในเรื่องนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ