สภาแห่งรัฐ หรือคณะรัฐมนตรีจีน ประกาศแผนกระตุ้นการจ้างงานในช่วงปี 2554-2558 โดยมีเป้าหมายสร้างงานในประเทศให้ได้ 45 ล้านตำแหน่ง และรักษาอัตราว่างงานในเขตเมืองไว้ที่ 5%
ภายใต้แผนการดังกล่าว ซึ่งประกาศในวันนี้ หน่วยงานของรัฐบาลจะเดินหน้ากระตุ้นการจ้างงาน ควบคู่ไปกับการปรับปรุงโครงสร้างการจ้างงาน รวมถึงระเบียบและกลไกที่เกี่ยวข้องเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของแรงงานในประเทศ
ข้อมูลของทางการจีนระบุว่า ในช่วงปี 2549-2553 มีการสร้างงานใหม่ในเขตเมืองที่ 57.71 ล้านตำแหน่ง ขณะที่แรงงาน 45 ล้านคนในชนบท มีการเปลี่ยนตำแหน่งงานใหม่
อัตราการว่างงานในเขตเมืองของจีนคงที่ที่ระดับ 4.1% ในปี 2554 เท่ากับเมื่อปีก่อนหน้านี้
รายละเอียดของแผนกระตุ้นการจ้างงานดังกล่าวชี้ว่า สภาวะตลาดแรงงานของจีนจะ "มีความซับซ้อน" ในช่วงปี 2554-2558 ขณะที่ประเทศเผชิญกับแรงกดดันที่มากขึ้นในการสร้างงานใหม่
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังมีแผนสร้างงานให้กับประชากร 40 ล้านคนในชนบทในภายในระยะเวลา 5 ปี
ปัญหาด้านโครงสร้างอย่างเช่นทักษะของแรงงานที่ยังพัฒนาไม่ทันกับความต้องการในตลาด มีแนวโน้มว่าจะย่ำแย่ลงในช่วงหลายปีข้างหน้านี้
แผนกระตุ้นการจ้างงานดังกล่าวระบุว่า การแก้ปัญหาด้านโครงสร้างของตลาดแรงงานนั้น รัฐบาลมีแผนส่งเสริมการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และพัฒนาการจัดการตลาดแรงงานด้วย
นอกจากนี้ จีนยังให้คำมั่นจะคงอัตราการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ยที่ 13% ต่อปี ตลอดระยะเวลา 5 ปีของแผนกระตุ้นตลาดแรงงาน เพื่อรักษามาตรฐานให้เทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค ซึ่งมีอัตราการขึ้นค่าแรงเฉลี่ยต่อปีสูงกว่า 40% ในเขตเมือง