สภากทม.ติดตามแนวทางแก้ไขน้ำท่วมในพื้นที่ 7 เขตกทม.เหนือ

ข่าวทั่วไป Tuesday February 14, 2012 15:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิสูตร สำเร็จวาณิชย์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตลาดกระบัง ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญศึกษาการป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานครอย่างยั่งยืน กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับ ดร.วัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการฯ ประชุมติดตามแผนการป้องกันน้ำท่วมและระบบระบายน้ำของกรุงเทพมหานครในกลุ่มตะวันออก และผู้แทนจากสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร ผู้แทนจากสำนักงานเขตในกลุ่มกรุงเทพฯเหนือ 7 เขต ประกอบด้วยเขตลาดพร้าว จตุจักร บางซื่อ สายไหม บางเขน ดอนเมือง และหลักสี่ ว่า สำนักงานเขตได้รายงานผลกระทบจากน้ำท่วมและแผนงานป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ อาทิ การขุดลอกคลอง การจัดเก็บผักตบชวา การซ่อมแซมถนน การบุกรุกพื้นที่สาธารณะ เป็นต้น

เนื่องจากพื้นที่กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือเป็นพื้นที่หน้าด่านสำคัญของกรุงเทพมหานครที่จะรับน้ำจากด้านเหนือ จึงต้องมีการวางแผนเตรียมความพร้อมและมีการวางหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติงานที่ชัดเจน เพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน อีกทั้งกรุงเทพมหานครควรจัดเก็บข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับการป้องกันน้ำท่วมในทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร เพื่อง่ายในการค้นหาข้อมูลและสามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขแนวทางการป้องกันน้ำท่วมให้เกิดประสิทธิภาพเร็วยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ในที่ประชุม ได้มีคณะกรรมการฯ ตั้งข้อสังเกตอย่างกว้าง อาทิ กรุงเทพมหานครควรเร่งประสานการดำเนินงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกองทัพบก เพื่อนำเอาข้อมูลของจุดที่เป็นบริเวณคู คลอง หรือลำรางต่างๆ ได้ชัดเจน เนื่องจากฝ่ายทหารจะมีข้อมูลในเรื่องดังกล่าวถูกต้องและชัดเจน ซึ่งกรุงเทพมหานครสามารถนำมาปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งในการเตรียมการเพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนในช่วงเกิดน้ำท่วมนั้น กรุงเทพมหานครควรมีการกำหนดรถที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่นั้นๆ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานของกรุงเทพมหานครไม่สามารถนำรถเข้าไปในพื้นที่ประสบอุทกภัยได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่เล็กๆ หรือเป็นซอก ซอย รถขนาดใหญ่ที่กรุงเทพมหานครนำมาใช้งานจึงไม่สามารถเข้าไปได้ นอกจากนี้กรุงเทพมหานครกรุงเทพมหานครควรเร่งดำเนินการอย่างจริงจังในการจัดระเบียบบ้านพักอาศัยที่รุกล้ำคู คลอง และเอาผิดกับผู้ที่ฝ่าฝืนด้วย

ด้านนายจุมพล สำเภาพล รองปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะคณะกรรมการวิสามัญฯ กล่าวว่า หากเกิดฝนตกหนักไม่เกิน 3 ชั่วโมง หรือปริมาณน้ำฝนอยู่ที่ 60 มิลลิเมตร/วินาที ศักยภาพของกรุงเทพมหานครสามารถรองรับได้ แต่ถ้าหากปริมาณน้ำเหนือที่ไหลผ่านมา ยังกรุงเทพมหานครมีปริมาณมาก อาจทำให้การระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครลดประสิทธิภาพในการรองรับ โดยขณะนี้กรุงเทพมหานคร เร่งดำเนินการขุดลอกคู คลอง และทำความสะอาดท่อระบายน้ำ โดยแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบให้กองทัพบก 343 คลอง ส่วนที่เหลือ 331 คลอง ให้แต่ละสำนักงานเขตเป็นผู้ดำเนินการ นอกจากนี้ยังมีส่วนของคลองที่สำนักการระบายน้ำดูแลจำนวน 56 คลอง ซึ่งต้องขุดลอก คู คลองให้แล้วเสร็จก่อนเดือนพฤษภาคมนี้ อีกทั้งจะเร่งตรวจสอบและแก้ไขระบบระบายน้ำในพื้นที่กลุ่มกรุงเทพกลางทั้งหมด เพื่อให้พร้อมในการใช้ในการงานได้ตลอดอีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ