(เพิ่มเติม) "ปลอดประสพ" ยันปีนี้รับมือน้ำได้แน่ กบอ.เข้มนัดถกสถานการณ์น้ำทุกวัน

ข่าวทั่วไป Monday September 17, 2012 14:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย(กบอ.) ยืนยันว่า ปริมาณน้ำในภาพรวมของปีนี้จะน้อยกว่าปีก่อน รวมถึงศักยภาพในการบริหารจัดการน้ำยังคงสามารถรับมือได้ ยกเว้นว่าภายในเดือนเดียวมีพายุเข้าถึง 10 ลูก ซึ่งถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ยากจะเกิดขึ้น

อย่างไรก็ดี ขณะนี้พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง-ภาคกลางตอนบน ที่เกิดน้ำท่วมไป 8.5 แสนไร่ ยังน้อยกว่าปีก่อนถึง 3 เท่า หรือเฉพาะ จ.พระนครศรีอยุธยา เพียงจังหวัดเดียวมีพื้นที่น้ำท่วม 1.5 หมื่นไร่ น้อยกว่าปีก่อน 2 เท่า

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สุโขทัยขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและบางจุดได้เริ่มลดระดับลงแล้ว โดยยืนยันว่าไม่มีอะไรน่ากังวล ทั้งนี้อาจมีพื้นที่ริมตลิ่งที่จะมีน้ำท่วมขังอยู่บ้าง มากน้อยแล้วแต่พื้นที่ แต่จะไม่ท่วมขังนานเหมือนปีก่อน

นายปลอดประสพ กล่าวว่า ปริมาณน้ำที่ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างขณะนี้อยู่ที่ 1,400 ล้านลบ.เมตร/วินาที และคาดการณ์ว่าจะไม่เกิน 5,000 ล้านลบ.เมตร/วินาที ซึ่งแตกต่างจากปีก่อนที่มีปริมาณน้ำรวมถึง 24,000 ล้านลบ.เมตร/วินาที และน้ำท่วมที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากร่องมรสุมพาดผ่านไม่ใช่เกิดจากพายุเข้าแต่อย่างใด

ทั้งนี้ โดยส่วนตัวเข้าใจว่าประชาชนอาจจะมีความรู้สึกวิตกกังวล แต่รัฐบาลจะสร้างความมั่นใจ โดยขอให้ประชาชนสบายใจกับเหตุการณ์ในปีนี้ ซึ่งรัฐบาลจะรายงานสถานการณ์ในภาพรวมของแต่ละวันให้ทราบอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง

อย่างไรก็ดี ตั้งแต่วันนี้ไป กบอ.จะนัดประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำเป็นประจำทุกวัน โดยจะแถลงความคืบหน้าเรื่องการพยากรณ์อากาศในเวลา 10.00 น. และรายงานสถานการณ์น้ำของแต่ละวัน ในเวลา 15.00 น.

ด้านนายสุพจน์ โตวิจักษ์ชัยกุล เลขาธิการสำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ(สบอช.) ประเมินว่า หากภายในกลางเดือนต.ค.นี้ไม่มีพายุหนักพัดผ่านเข้ามายังพื้นที่ประเทศไทย ก็มั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการน้ำได้ ซึ่งกบอ.ไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะมีพายุเข้ามาหรือไม่ แต่จะสามารถคาดการณ์ได้หลังจากเกิดพายุไปแล้ว จะทราบว่าพายุจะไปในทิศทางใด และเหตุผลที่ต้องเฝ้าระวังถึงช่วงกลางเดือนหน้าเพราะช่วงกลางเดือนพ.ย.ส่วนใหญ่จะพัดผ่านไปยังพื้นที่ภาคใต้

"ถ้าเป็นลักษณะนี้ เราตอบได้ว่าไม่ได้รับผลกระทบ เพราะไม่มีทางน้ำเอ่อล้นแม่น้ำออกมา ยกเว้นมีพายุเข้า 10 ลูก ขณะนี้กลางเดือนกันยายน เราสู้กับน้ำหรือดูสถานการณ์โดยหลักสิ้นเดือนกันยายนเท่านั้นเอง แต่เราเผื่อไว้เดือนหนึ่ง ถ้ากลางเดือนตุลาคมไม่มีพายุหนักเข้ามารอดทั้งหมด"นายสุพจน์ กล่าว

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัยจากการตรวจสอบมีปริมาณน้ำลดลง โดยปัจจุบันระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 20 เซนติเมตร ซึ่งปัจจุบันน้ำลดลงเหลือ 529 ลูกบาศก์เมตร จากขีดความสามารถที่รองรับน้ำได้เต็มที่ 549 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งปริมาณน้ำท่วมที่จ.สุโขทัย คิดเป็นร้อยละ 7 ของพื้นที่จังหวัดทั้งหมด และจากระดับน้ำที่วัดทุกจุดต่ำกว่าตลิ่งทั้งหมด ยกเว้นที่อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ที่สูงกว่าระดับตลิ่ง 70 เซนติเมตร

ส่วนระดับน้ำที่สถานีกักเก็บน้ำซี 2 ระดับน้ำขณะนี้ต่ำกว่าตลิ่ง 2.8 เมตร โดยมีปริมาณน้ำที่รับได้อยู่ที่ 3,590 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่มีระดับน้ำที่ไหลผ่านอยู่ประมาณ 1,600 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนระดับน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ปัจจุบันอยู่ที่ 1,700 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งสามารถรองรับได้สูงสุดถึง 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่หากมีปริมาณน้ำมากกว่านี้ ก็สามารถระบายออกไปยังทางทิศตะวันออก และตะวันตกได้อีก 700 ล้านลูกบาศก์เมตร

โดย กบอ. ยืนยันว่า ในแม่น้ำสายสำคัญมีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งทุกจุด และในขณะนี้ยังไม่มีการปล่อยน้ำเข้าไปในพื้นที่แก้มลิงตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ 2 ล้านไร่ ซึ่งสถานการณ์น้ำในปีนี้แตกต่างจากปีที่ผ่านมา เพราะปีที่ผ่านมาเกิดจากปริมาณน้ำในแม่น้ำล้นเอ่อเข้าทุ่ง แต่ในปีนี้กลับกลายเป็นว่าน้ำจากทุ่งไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งหากน้ำในทุ่งมีมากก็จะบริหารจัดการน้ำโดยสูบน้ำลงแม่น้ำเพื่อบริหารจัดการต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ