สธ.เตรียม รพ.รัฐ-เอกชน 1,500 แห่งทั่วไทยรับอุบัติเหตุ-ป่วย-ฉุกเฉินช่วงปีใหม่

ข่าวทั่วไป Thursday December 27, 2012 17:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข จัดเตรียมความพร้อมเพื่อลดความรุนแรง ลดอัตราตาย และความพิการของผู้บาดเจ็บ —ผู้ป่วยฉุกเฉิน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ให้ได้มากที่สุด โดยตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.55 -2 ม.ค.56 เตรียมความพร้อมโรงพยาบาล ทั้งในสังกัด และได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลสังกัดภาครัฐอื่นๆ เช่น กลาโหม มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศรวม 1,500 แห่ง ให้เตรียมพร้อมหน่วยการแพทย์ฉุกเฉิน ศูนย์รับแจ้งขอความช่วยเหลือ ระบบการดูแลรักษาในโรงพยาบาล และการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาล หากประชาชนบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจร หรือเจ็บป่วยฉุกเฉินอันตรายถึงแก่ชีวิต สามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ทันที ไม่ต้องควักเงินจ่ายสำรองแต่อย่างใด ตามนโยบายฉุกเฉินมาตรฐานเดียวของรัฐบาล

ทั้งนี้ โรงพยาบาลทุกแห่งได้จัดเตรียมความพร้อม 2 ส่วนใหญ่ ประกอบด้วย 1.หน่วยปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินหรือหน่วยแพทย์กู้ชีพทุกระดับ ศูนย์สื่อสารรับแจ้งเหตุทุกเครือข่าย ทั้งทางโทรศัพท์และวิทยุสื่อสาร สายด่วนโทรแจ้งเหตุ 1669 โดยมีรถพยาบาลฉุกเฉินพร้อมเครื่องมือแพทย์ปฏิบัติการวันละ 4,915 คัน บางแห่งติดระบบจีพีเอสด้วย สามารถออกไปให้การดูแลช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในที่เกิดเหตุหลังรับแจ้งภายใน 10 นาที ประชาชนโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากหน่วยแพทย์กู้ชีพได้ที่หมายเลข 1669 ตลอดเวลาฟรี

2.ศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉินระดับจังหวัดและระดับอำเภอ ได้จัดเตรียมอัตรากำลังแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่อื่นๆ ประจำห้องฉุกเฉินหรืออีอาร์ (ER:Emergency Room) และประจำหอผู้ป่วยรวมจำนวนกว่า 100,000 คน พร้อมจัดศัลยแพทย์หรือแพทย์ผ่าตัดทุกสาขาประจำการประมาณ 1,500 คน ตลอด 24 ชั่วโมง สำรองคลังเลือดทุกหมู่ อุปกรณ์การแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ สามารถทำการผ่าตัดได้ทันที และสำรองเตียงรองรับอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นจากปกติอีกร้อยละ 10 รวมทั้งหมด 7,243 เตียง มีศูนย์ประสานการส่งต่อผู้ป่วยที่มีอาการหนักไปรักษาอย่างรวดเร็ว 94 แห่ง พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับเครือข่ายเทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์ชั้นสูง เช่น เครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือซีทีสแกน (CT SCAN) จำนวน 310 เครื่อง และเครื่องตรวจอวัยวะด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้าหรือเอ็มอาร์ไอ (MRI) จำนวน 52 เครื่อง เพื่อช่วยให้แพทย์สามารถตรวจวินิจฉัย ค้นหาความผิดปกติและรักษาได้อย่างรวดเร็ว มุ่งหวังช่วยชีวิตของผู้เจ็บป่วยให้รอดชีวิตและปลอดภัยที่สุด

อย่างไรก็ดี ขอย้ำเตือนประชาชนที่พบเห็นผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจร หากเป็นไปได้ไม่ควรเคลื่อนย้าย ผู้บาดเจ็บเอง เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอันตรายแทรกซ้อนได้ เช่น เกิดความพิการ โดยเฉพาะในผู้ที่บาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง กระดูกต้นคอ ซึ่งบางครั้งอาจไม่มีบาดแผลปรากฏให้เห็น จึงขอให้โทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญ จะเกิดความปลอดภัยกับผู้บาดเจ็บมากขึ้น

นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด 76 จังหวัดและกทม.ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจเตือนประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้าทุกจังหวัดทุกพื้นที่ ให้ปฏิบัติตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 อย่างเคร่งครัด เช่น ห้ามขายและห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ที่ห้าม เช่น วัด โรงเรียน สวนสาธารณะ ห้ามขายให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี ห้ามขายโดยไม่มีใบอนุญาตขายสุรา เป็นต้น รวมทั้งประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนถนนขณะขับขี่ หรือขณะโดยสารอยู่ในรถหรือบนรถ หากพบจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างไม่ละเว้น โดยได้เปิดสายด่วนรับแจ้งผู้กระทำผิดตลอด24 ชั่วโมง ทางหมายเลข 1422 และ 0-2590-3342 ผลการสำรวจการขายสุราในสถานที่และเวลาห้ามขาย วันที่ 31 ธ.ค.54 ใน 23 จังหวัด พบขายในปั๊มน้ำมันและสวนสาธารณะร้อยละ 8


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ